Please wait...

E-catalogue
สายด่วน
0
Loading...
0
คุณไม่มีรายการสินค้าในตะกร้าของคุณ
0 สินค้าในตะกร้า
ยอดรวมรถเข็น : 0
×
ฟังก์ชันไหนที่เก้าอี้สำนักงานควรต้องมี!

ฟังก์ชันไหนที่เก้าอี้สำนักงานควรต้องมี! เก้าอี้สำนักงานที่ดีควรมีฟังก์ชันที่มีผลดีทั้งต่อการทำงานและสุขภาพ เก้าอี้ที่ใช้ในการนั่งทำงานมักเป็นเก้าอี้ที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้นั่งสบายและลดการเมื่อยล้า ซึ่งเรามักเรียกกันว่า เก้าอี้สำนักงาน แต่เก้าอี้สำนักงานก็มีหลายประเภทและมีฟังก์ชันการใช้งานที่แตกต่างกัน ซึ่งฟังก์ชันการใช้งานของเก้าอี้สำนักงานเหล่านั้นมีจุดประสงค์ในการจัดท่านั่งให้ถูกต้องเพื่อลดความเมื่อยล้า และลดความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดโรคภัยต่าง ๆ จากการนั่งทำงานเป็นเวลานาน ๆ ซึ่งเก้าอี้ประเภทนี้เรียกว่า Ergonomics หรือเรียกง่าย ๆ ว่า เก้าอี้สำนักงานเพื่อสุขภาพ เป็นเก้าอี้ที่ถูกออกแบบมาเพื่อซัพพอร์ตสรีระร่างกายของผู้นั่งให้มีความสบายในการนั่ง ลดอาการเมื่อยล้าจากการนั่งทำงานนาน ๆ และลดความเสี่ยงในการเป็นโรคที่เกี่ยวกับการนั่งทำงาน เช่น ออฟฟิศซินโดรม, กระดูกทับเส้นประสาท, การอักเสบของกล้ามเนื้อในส่วนต่าง ๆ ซึ่งเก้าอี้ประเภทนี้จะมีฟังก์ชันที่ช่วยขจัดปัญหาเหล่านี้ไปได้ คุณสมบัติที่โดดเด่นของฟังก์ชันคือสามารถปรับระดับได้เพื่อให้สามารถซัพพอร์ตอวัยวะทุกส่วนที่เกี่ยวข้องกับการนั่งตามสัดส่วนของแต่ละบุคคล นอกจากนั้นยังช่วยให้แต่ละบุคคลสามารถจัดท่านั่งได้อย่างถูกต้องส่งผลดีทั้งต่อการทำงานและสุขภาพร่างกาย ซึ่งฟังก์ชันของเก้าอี้สำนักงานเพื่อสุขภาพที่ดีควรมี ดังนี้ ฟังก์ชันของเก้าอี้สำนักงานเพื่อสุขภาพ ที่ช่วยปรับท่านั่ง ป้องกันออฟฟิศซินโดรม ฟังก์ชันปรับระดับความสูงของขาเก้าอี้ เป็นฟังก์ชันของเก้าอี้สำนักงานที่ช่วยให้ผู้นั่งมีความสบายและลดการปวดเมื่อยได้เป็นอย่างดี การปรับระดับความสูง-ต่ำของเก้าอี้สำนักงานจะช่วยให้การนั่งทำงานของผู้นั่งสามารถอยู่ระดับเดียวกับโต๊ะทำงาน ทำให้การมองจอคอมพิวเตอร์อยู่ในองศาที่เหมาะสมไม่ก้มหน้าหรือเงยหน้ามากเกินไป โดยองศาที่เหมาะสมในการก้มหน้าคือ 10-15 องศาจะช่วยลดอาการเกร็งของบ่าและไหล่ได้จึงไม่ทำให้ปวดต้นคอ และการปรับระดับความสูง-ต่ำของขาเก้าอี้ยังช่วยให้เท้าวางราบกับพื้นได้ โดยที่การนั่งทำงานที่ถูกต้องเข่าต้องสามารถงอได้ 90 องศา เท้าควรวางระนาบกับพื้นและขาทั้งสองข้างสามารถทิ้งน้ำหนักได้เท่ากัน หากเท้าลอยจะเป็นการกดทับในข้อพับเข่าเป็นสาเหตุของอาการปวดขา ขาชาหรือเป็นตะคริวได้ ฟังก์ชันปรับระดับที่รองคอ จุดประสงค์ของฟังก์ชันนี้เพื่อให้สามารถซัพพอร์ตลำคอ ศีรษะ และไหล่เพื่อลดอาการเมื่อยล้าจากการเกร็งและการจ้องคอมพิวเตอร์เป็นนานๆ โดยจะจัดให้ลำคอ ศีรษะ และไหล่ตั้งตรงเพื่อไม่ให้ก้มคอหรือเงยคอมากเกินไป การมีที่รองคอสามารถปรับระดับได้จะช่วยให้เราสามารถหาระดับที่เหมาะสมกับลำคอและศีรษะของเราได้ ทำให้ช่วยลดอาการปวดของคอ บ่า ไหล่ เป็นอาการปวดยอดฮิตของพนักงานออฟฟิศที่นิยมเป็นกัน ฟังก์ชันปรับเอนของพนักพิง พนักพิงของเก้าอี้สำนักงานจะช่วยซัพพอร์ตไหล่ แผ่นหลัง เอว และกระดูกสันหลังส่วนล่าง หลักการออกแบบพนักพิงมีจุดประสงค์เพื่อรองรับแผ่นหลังทุกส่วนและพยุงกระดูกสันหลังระดับเอว การนั่งที่ถูกต้องไม่ควรให้มีช่องว่างระหว่างแผ่นหลังกับเก้าอี้ ซึ่งเก้าอี้สำนักงานเพื่อสุขภาพช่วยให้ผู้นั่งหลังชิดแนบสนิทกับพนักพิงเป็นการจัดท่าให้นั่งตัวตรง ลดโอกาสที่ทำให้เกิดหลังแอ่นและค่อมเวลานั่งทำงาน ท่านั่งดังกล่าวจะช่วยลดอาการปวดหลังและความดันที่เกิดขึ้นภายในหมอนรองกระดูกสันหลัง ฟังก์ชันการปรับเอนจะเข้ามาช่วยซัพพอร์ตหลังให้ได้องศาในการทำงานที่เหมาะสมในแต่ละท่วงท่า โดยหากเป็นเวลาทำงานสามารถปรับให้พนักพิงอยู่ในองศาที่เหมาะสมคือ 90-100 องศา ซึ่งองศาดังกล่าวจะทำให้หลังตั้งตรง แต่หากต้องการเปลี่ยนอิริยาบถระหว่างการทำงานก็สามารถปรับเอนนอนได้เป็นการผ่อนคลายของกล้ามเนื้อหลังและพักผ่อนไปในตัว ฟังก์ชันปรับระดับของที่พักแขน การปรับระดับของที่พักของเก้าอี้สำนักงานเพื่อสุขภาพมีหน้าที่ในการรองรับแขนและมือเพื่อไม่ให้ไหล่ยกเกร็งจากการทำงานมากเกินไปเป็นสาเหตุของการปวดเมื่อย ฟังก์ชันการปรับระดับความสูง-ต่ำ ความกว้าง และความเอียงของที่พักแขนจะช่วยให้สามารถปรับระดับที่พักแขนให้มีระดับที่เหมาะสมตามสรีระร่างกายของผู้นั่งที่มีความแตกต่างกัน โดยระดับที่เหมาะสมต้องสามารถงอข้อศอกโดยมุมข้อศอกควรอยู่ที่ประมาณ 90-120 องศาและวางแขนให้อยู่ในระนาบเดียวกันในแนวเส้นตรงได้ นอกจากนั้นที่พักแขนที่ดีควรเตี้ยกว่าขอบโต๊ะเล็กน้อยเพื่อป้องกันไม่ให้ชนกับขอบโต๊ะและสามารถสอดเก็บไว้ใต้โต๊ะทำงานได้ ความกว้างที่เหมาะสมของที่พักแขนควรมีขนาด 2 นิ้วเพื่อให้รองรับแขนได้พอดี ส่วนความยาวของที่พักแขนขึ้นอยู่กับขนาดของเบาะนั่ง และที่พักแขนมุมขอบไม่ควรแหลมเพื่อป้องกันการกดทับเส้นประสาทที่บริเวณข้อศอก ฟังก์ชันปรับเลื่อนของเบาะรองนั่ง เบาะรองนั่งที่ดีสำหรับเก้าอี้สำนักงานควรกระจายน้ำหนักได้ดี น้ำหนักไม่ควรกดลงที่จุดใดจุดหนึ่ง ช่วยให้ผู้นั่งลงน้ำหนักที่กล้ามเนื้อต้นขาหรือก้นทั้งสองข้างได้เท่า ๆ กัน ความกว้างของเบาะรองนั่งควรกว้างกว่าสะโพกและต้นขาอย่างน้อย 1 นิ้ว และลาดเอียงลงไปด้านหน้าเล็กน้อย และขอบด้านหน้าของเบาะควรมีความโค้งมนซึ่งจะช่วยลดแรงกดที่ข้อพับเข่าได้ การปรับเลื่อนได้ของเบาะรองนั่งจะช่วยให้เบาะรองนั่งมีขนาดที่พอดีกับช่วงขาและก้นกบของแต่ละคน ซึ่งหลักการในการปรับเลื่อนเบาะรองนั่งควรให้เบาะรองนั่งมีระยะห่างระหว่างข้อพับเข่ากับเบาะรองนั่งประมาณ 2-3 นิ้ว โดยที่เข่ายังทำมุม 90 องศา นอกจากนั้นเบาะรองนั่งที่ดีไม่ควรนุ่มมากเกินไปเพราะหากเบาะรองนั่งนุ่มมากเกินไปเวลานั่งจะทำให้เกิดแอ่ง ส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาวอาจทำให้กระดูกเชิงกรานบิดงอได้ แต่ก็ไม่ควรแข็งมากเกินไปจนนั่งไม่สบาย ประโยชน์จากฟังก์ชันของเก้าอี้สำนักงานเพื่อสุขภาพ ที่ช่วยให้ดีทั้งงานและสุขภาพ ช่วยลดอาการเมื่อยล้าและช่วยจัดท่านั่งทำงานที่ถูกต้อง ส่งผลดีต่อโครงสร้างร่างกาย การเลือกท่านั่งที่เหมาะสม พร้อมกับเลือกใช้เก้าอี้สำนักงานที่ช่วยสนับสนุนในการนั่งจะช่วยลดอาการปวดเมื่อยตามร่างกายและช่วยให้ห่างไกลจากโรคภัยได้ ช่วยให้สุขภาพดีในระยะยาว อย่างที่ทราบกันการเลือกใช้เก้าอี้สำนักงานเพื่อสุขภาพจะช่วยให้จัดท่านั่งได้ถูกต้องตามหลักการยศาสตร์ ซึ่งมีส่วนช่วยให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายมีการทำงานที่ดี ตามหลักทางการแพทย์ การนั่งที่ถูกต้องจะส่งผลดีไปยังระบบย่อยอาหารและระบบหายใจด้วยเช่นกัน ช่วยส่งเสริมบุคลิกภาพที่ดีในการทำงาน เก้าอี้สำนักงานเพื่อสุขภาพออกแบบมาเพื่อให้จัดท่านั่งที่ถูกต้องแบบอัตโนมัติเป็นการนั่งในท่าที่หลังตรง แผ่นหลังชิดกับเบาะหลัง คอตั้งตรง และยืดไหล่ ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้นั่ง รวมถึงช่วยส่งเสริมให้มีบุคลิกมีความน่าเชื่อถือ ดูภูมิฐานซึ่งมีผลดีต่อการทำธุรกิจเป็นอย่างมาก เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน เก้าอี้สำนักงานเพื่อสุขภาพจะช่วยลดอาการเมื่อยล้าหรือลดความเสี่ยงในการเป็นออฟฟิศซินโดรมได้ จึงทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยให้มีสมาธิกับการทำงานโดยที่ไม่ต้องกังวลเรื่องอาการเจ็บปวดจากการนั่งทำงาน เพิ่มความคล่องตัวในการทำงานเพราะนั่งทำงานในท่าและองศาที่ถูกต้องและเหมาะสมกับสรีระร่างกายจะทำให้การหยิบจับสิ่งของหรือการใช้งานอุปกรณ์ต่าง ๆ บนโต๊ะทำงานสะดวกมากยิ่งขึ้น ถึงแม้การเลือกใช้เก้าอี้สำนักงานเพื่อสุขภาพจะมีประโยชน์มากมายแต่การนั่งทำงานนาน ๆ ก็มีผลเสียต่อร่างกาย ดังนั้นจึงควรมีการพักระหว่างการทำงานด้วยการปรับเปลี่ยนอิริยาบถ เช่น การลุกขึ้นยืน, การยืดตัว และหายใจลึก ๆ เพื่อช่วยให้เลือดไหลเวียนได้สะดวกมากยิ่งขึ้น Jenstore by Jenbunjerd จำหน่ายเก้าอี้สำนักงาน, เก้าอี้ผู้บริหาร, เก้าอี้สำนักงานแบบหนัง, โต๊ะทำงานผลิตจากวัสดุคุณภาพ มีความแข็งแรงและทนทาน ภายใต้แบรนด์คุณภาพพรีเมียม รับประกันคุณภาพของสินค้า พร้อมบริการหลังการขายที่จะช่วยดูแลคุณอย่างมืออาชีพ เพื่อให้คุณหาสินค้าที่ต้องการได้อย่างตรงใจ ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่ : Website : https://www.jenstore.com (Live Chat) Tel : 02-096-9999 (200 คู่สาย) Email : [email protected] LINE Official Account: @jenstore Facebook : เจนสโตร์ - JenStore by Jenbunjerd

2023-09-25
วิธีการดูแลรักษาเครื่องมือไฟฟ้า ให้คงประสิทธิภาพใช้งานได้ยาวนาน

วิธีการดูแลรักษาเครื่องมือไฟฟ้า ให้คงประสิทธิภาพใช้งานได้ยาวนานการดูแลรักษาเครื่องมือไฟฟ้าอย่างถูกต้องช่วยยืดอายุในการทำงานให้มากขึ้น เครื่องมือไฟฟ้าถูกออกแบบมาเพื่อเป็นเครื่องทุ่นแรงสำหรับงานช่าง ที่มีทั้งความสะดวกและรวดเร็วในการใช้งานจึงทำให้เป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายในงานช่าง แต่เครื่องมือไฟฟ้าเป็นประเภทของเครื่องมือช่างที่ต้องการการดูแลรักษาอย่างถูกต้องและสม่ำเสมอเพื่อให้เครื่องมือไฟฟ้ามีประสิทธิภาพและพร้อมในการใช้งานตลอดเวลา อีกทั้งการดูแลรักษาเครื่องมือไฟฟ้ายังช่วยสร้างความปลอดภัยสำหรับผู้ที่ใช้งานและยืดอายุการใช้งานของเครื่องมือไฟฟ้าได้อีกด้วย วิธีการดูแลรักษาเครื่องมือไฟฟ้า 1. ควรปล่อยให้เย็นเมื่อเกิดความร้อน เครื่องมือไฟฟ้าบางประเภทเป็นเครื่องมือที่ต้องมีการพักเครื่อง เพื่อไม่ให้มีการสะสมของความร้อนในเครื่องมากเกินไปอาจจะทำให้มอเตอร์ของเครื่องมือไฟฟ้าเสียหายและไม่สามารถใช้งานได้ในที่สุด ดังนั้นหากระหว่างการใช้งานเครื่องมือไฟฟ้าเกิดมีความร้อนควรหยุดทำงานและควรปล่อยให้เครื่องมือเย็นลงจึงค่อยลงมือทำงานต่อ เพื่อชะลอความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้และเป็นการถนอมเครื่องมือให้ใช้งานได้นาน 2. หลีกเลี่ยงความชื้น ความชื้นเป็นศัตรูตัวฉกาจของเครื่องมือไฟฟ้าเพราะความชื้นสามารถสร้างความเสียหายให้กับเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ไฟฟ้าได้ จึงควรดูแลอุปกรณ์ไฟฟ้าให้ห่างจากความชื้น ตัวอย่างความเสียหายจากความชื้น เช่น ก่อให้เกิดการกัดกร่อนจนเป็นสนิมซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้เครื่องมือไฟฟ้าเปราะหักได้ง่าย, ทำให้ระบบไฟฟ้าเสียหายอาจทำให้ไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งทำให้เครื่องมือไฟฟ้าเสื่อมประสิทธิภาพและอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ที่ใช้งาน การหลีกเลี่ยงความชื้นที่ดีควรเก็บรักษาเครื่องมือไฟฟ้าในตู้เก็บเครื่องมือช่างหรือกล่องพลาสติกและควรหาอุปกรณ์ดูดความชื้นมาวางบริเวณที่เก็บเครื่องมือไฟฟ้าจะช่วยให้สามารถหลีกเลี่ยงความชื้นที่มีอยู่ในอากาศได้เป็นอย่างดี 3. ไม่ควรเก็บไว้ในห้องที่มีอุณหภูมิสูงเครื่องมือไฟฟ้าส่วนใหญ่จะทำงานด้วยพลังงานจากแบตเตอรี่ ดังนั้นการเก็บรักษาเครื่องมือไฟฟ้าหลังการใช้งานควรเก็บรักษาเครื่องมือในที่ที่ไม่มีอุณหภูมิสูงหรือพื้นที่ที่ไม่มีความร้อนเนื่องจากความร้อนสามารถทำลายแบตเตอรี่ทำให้เสื่อมคุณภาพและทำให้อายุการใช้งานของเครื่องมือไฟฟ้าสั้นลง 4. ทำความสะอาดทุกครั้งหลังการใช้งานการทำความสะอาดเครื่องมือไฟฟ้าเป็นการขจัดสิ่งสกปรกของเศษฝุ่น, เศษวัสดุต่าง ๆ ที่เกิดจากการใช้งาน ซึ่งหากไม่ทำความสะอาดอาจทำให้เกิดการจับตัวกันกับความชื้น ซึ่งอาจทำให้เป็นสนิมได้ สนิจะทำให้อุปกรณ์ส่วนที่เป็นเหล็กเสียหาย อาจทำให้เครื่องมือไฟฟ้าชำรุดได้หรืออาจเกิดอันตรายเมื่อใช้งาน ดังนั้นหลังการใช้งานทุกครั้งควรเช็คคราบสกปรกออกด้วยผ้านุ่มที่สะอาด สำหรับส่วนที่เป็นร่องลึกที่ไม่สามารถเข้าไปทำความสะอาดได้สามารถใช้แปรงทำความสะอาดหรือเครื่องปั๊มลมปัดหรือเป่าให้เศษวัสดุนั้นให้หลุดออกไปได้ เป็นการบำรุงรักษาเครื่องมือไฟฟ้าที่ควรทำทุกครั้งหลังใช้งานเสร็จ 5. ใช้สารหล่อลื่นเพิ่มอายุการใช้งานเครื่องมือไฟฟ้า เครื่องมือไฟฟ้ามักจะได้รับแรงเสียดทานจากการสัมผัสกับชิ้นงานซึ่งแรงเสียดทานทำให้เกิดความร้อนเป็นสาเหตุที่ทำให้เครื่องมือไฟฟ้าเสื่อมประสิทธิภาพ การบำรุงรักษาเครื่องมือไฟฟ้าโดยใช้สารหล่อลื่นเคลือบเครื่องมือไฟฟ้าจะช่วยป้องกันการสึกกร่อนที่เกิดจากการเสียดทาน นอกจากนี้สารหล่อลื่นยังช่วยทำความสะอาดเครื่องมือไฟฟ้าโดยเมื่อใช้ผ้าเช็ดทำความสะอาดฝุ่นที่เกาะที่เครื่องมือไฟฟ้าจะติดออกมาพร้อมกับสารหล่อลื่น ซึ่งสารหล่อลื่นก็มีหลายชนิด เช่น แว็กซ์, แกรไฟต์ ซึ่งแต่ละชนิดก็เหมาะที่จะนำไปใช้งานที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับประเภทของเครื่องมือไฟฟ้า การใช้สารหล่อลื่นดูแลเครื่องมือไฟฟ้าเป็นประจำและใช้งานให้ถูกต้องกับประเภทของเครื่องมือไฟฟ้าจะช่วยให้เครื่องมือไฟฟ้ามีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากยิ่งขึ้น 6. ลับคมอย่างสม่ำเสมอ เครื่องมือไฟฟ้าอย่างเลื่อยและสว่านจะต้องมีใบเลื่อยและดอกสว่านเพื่อใช้ตัดหรือเจาะซึ่งเป็นชิ้นส่วนที่ต้องมีความคมอยู่เสมอ การลับคมใบเลื่อยและดอกสว่านบ่อย ๆ หรือเปลี่ยนใบเลื่อยและดอกสว่าน ถือเป็นการบำรุงรักษาเครื่องมือไฟฟ้าอีกทางนึง ซึ่งจะช่วยให้การทำงานมีความรวดเร็ว ไม่ทำให้ชิ้นส่วนที่ถูกตัดหรือเจาะเกิดความเสียหาย เพราะจะทำให้เกิดเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น นอกจากนั้นอาจทำให้เครื่องมือไฟฟ้าเกิดความเสียหายจากการใช้งานได้อีกด้วย วิธีสังเกตง่าย ๆ ว่าควรถึงเวลาในการลับคมอุปกรณ์ทั้งสองแล้วหรือไม่ โดยหากทั้งสองอุปกรณ์มีเสียงในการเลื่อยหรือเจาะเปลี่ยนแปลงไป, ชิ้นงานมีความเสียหายมากผิดปกติ หรือใช้เวลาในการเลื่อยหรือเจาะนานเกินไปเป็นสัญญาณที่แสดงว่าใบเลื่อยและดอกสว่านถึงเวลาที่ต้องลับคมแล้ว 7. ขันโบลท์และสกรูให้แน่น เครื่องมือไฟฟ้าบางประเภทจะมีโบลท์และสกรูเป็นส่วนประกอบซึ่งหากโบลท์และสกรูไม่แน่นจะเป็นอันตรายต่อผู้ที่ใช้งานอาจทำให้ได้รับบาดเจ็บจากการทำงานได้และเครื่องมือไฟฟ้าและชิ้นงานอาจได้รับความเสียหายด้วยเช่นกัน ดังนั้นก่อนใช้งานเครื่องมือไฟฟ้าควรตรวจเช็กความแน่นของโบลท์และสกรูหากหลวมก็ขันให้แน่นแล้วจึงค่อยนำมาใช้งาน 8. การตรวจสอบมอเตอร์และสายไฟ มอเตอร์และสายไฟเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญสำหรับเครื่องมือไฟฟ้า มอเตอร์ที่ใช้ในเครื่องมือไฟฟ้ามี 2 ประเภทคือแบบที่มีแปรงถ่านและแบบที่ไร้แปรงถ่าน มอเตอร์ที่มีแปรงถ่านจำเป็นต้องตรวจสอบให้ดีเนื่องจากมอเตอร์ชนิดที่มีแปรงถ่านจะต้องสัมผัสกับคอมมิวเตเตอร์ตลอดเวลา ขณะหมุนจึงเกิดแรงเสียดทานทำให้เกิดความร้อนและต้องใช้พลังในการใช้งานมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการสึกกร่อนในที่สุด ดังนั้นเมื่อรู้สึกว่ามอเตอร์มีความร้อนจึงควรทำให้เย็น โดยการใช้เครื่องเป่าลมมาเป่าที่ช่องระบายอากาศซึ่งนอกจากจะช่วยระบายอากาศแล้วยังช่วยเป่าฝุ่นต่าง ๆ ที่เกาะที่มอเตอร์ออกไปได้อีกด้วย สำหรับสายไฟควรตรวจเช็กเสมอว่าสายไฟมีรอยขาด รอยฉีก หรือหลวมตรงจุดต่อสายไฟหรือไม่ หากพบว่ามีรอยดังกล่าวควรส่งให้ช่างที่มีความชำนาญซ่อมแซมไม่ควรซ่อมเองเพราะอาจเกิดอันตรายได้ การตรวจสอบอุปกรณ์ทั้งสองชนิดจะช่วยป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับผู้ที่ใช้งานและชิ้นงาน และยังช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องมือไฟฟ้าให้ยาวนานมากยิ่งขึ้น 9. ชาร์จแบตเตอรี่อย่างสม่ำเสมอ เครื่องมือไฟฟ้าบางประเภทเป็นแบบไร้สายและใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ เช่น สว่านไร้สาย, ไขควงกระแทกไร้สาย, เลื่อยวงเดือนไร้สาย การดูแลรักษาแบตเตอรี่เพื่อให้คงประสิทธิภาพในการใช้งาน ควรชาร์จแบตเตอรี่อย่างสม่ำเสมอสามารถชาร์จแบตเตอรี่ทุกครั้งหลังการจากใช้งานได้ทันที เนื่องจากปัจจุบันเครื่องมือไฟฟ้านิยมใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ซึ่งแบตเตอรี่ชนิดนี้หากใช้งานจนหมดแล้วค่อยนำมาชาร์จไฟจะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมอย่างรวดเร็ว การชาร์จแบตอยู่เสมอหลังใช้งานจึงเป็นการดูแลเครื่องมือไฟฟ้าใช้งานได้ยาวนาน เครื่องมือไฟฟ้าเป็นเครื่องมือที่มีความโดดเด่นในความรวดเร็วในการทำงาน จึงทำให้สามารถทำงานในปริมาณมาก ๆ ได้ เป็นเครื่องมือช่างที่ใช้กันตั้งแต่ในครัวเรือนไปจนถึงโรงงานอุตสาหกรรม เครื่องมือไฟฟ้าเป็นเครื่องมือที่ต้องมีการดูแลรักษาอย่างถูกต้องและสม่ำเสมอ เพราะเครื่องมือไฟฟ้าเป็นเครื่องมือที่มีส่วนประกอบของระบบอิเล็กทรอนิกส์และแบตเตอรี่ที่สามารถเสียหายได้ง่าย หากมีการดูแลรักษาเครื่องมือไฟฟ้าอย่างถูกต้องจะมีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากยิ่งขึ้น Jenstore by Jenbunjerd ผู้ผลิตและจำหน่าย เครื่องมือไฟฟ้า, ชุดเครื่องมือช่าง, สว่านไฟฟ้า, บล็อกไฟฟ้า, เครื่องเป่าลม, เครื่องเป่าลมร้อน ฯลฯ ที่มีคุณภาพและความทนทานสูง มีมาตรฐานสากล น้ำหนักเบา มีขนาดกะทัดรัดสามารถจับได้อย่างพอดีมือ มีประสิทธิภาพในการทำงานสูง สามารถปรับระดับได้ มีหลายแบบให้เลือกเพื่อตอบโจทย์งานช่างที่มีความหลากหลาย มีการรับประกันสินค้าพร้อมบริการหลังการขายที่จะช่วยให้การใช้งานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่ : Website : https://www.jenstore.com (Live Chat) Tel : 02-096-9999 (200 คู่สาย) Email : [email protected] LINE Official Account: @jenstore Facebook : เจนสโตร์ - JenStore by Jenbunjerd

2023-09-25
โต๊ะสแตนเลส อุปกรณ์พื้นฐานที่ใช้งานได้ในหลายอุตสาหกรรม

โต๊ะสแตนเลส อุปกรณ์พื้นฐานที่ใช้งานได้ในหลายอุตสาหกรรม โต๊ะสแตนเลสคืออุปกรณ์ที่แข็งแรงและทนทานต่อการใช้งาน โต๊ะสแตนเลสผลิตจากเหล็กกล้าไร้สนิม ซึ่งเป็นโลหะที่ผสมระหว่างเหล็กและคาร์บอนจัดอยู่ในประเภทโลหะเหล็กในกลุ่มที่มีความต้านทานการกัดกร่อนสูง เหล็กประเภทนี้ยากต่อการเกิดสนิม มีค่าบำรุงรักษาต่ำ ง่ายต่อการตัด พับ เชื่อม และขึ้นรูป ที่สำคัญสามารถนำมารีไซเคิลเพื่อนำกลับมาใช้งานใหม่ได้ โต๊ะสแตนเลสนิยมใช้ในห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์, ห้องคลีนรูม, โรงอาหาร, โรงพยาบาล, ร้านอาหาร และโรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะอาหารและยา ลักษณะของโต๊ะสแตนเลสมีความเงา แวววาว มีความเรียบลื่น ทำความสะอาดง่าย น้ำหนักเบาจึงเคลื่อนย้ายได้สะดวก อีกทั้งยังช่วยป้องกันไฟฟ้าสถิตได้อีกด้วย สามารถนำมาใช้งานได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร ซึ่งโต๊ะสแตนเลสในปัจจุบันมีหลายประเภทและแต่ละประเภทก็มีคุณสมบัติที่โดดเด่นในการใช้งานที่แตกต่างกัน เช่น โต๊ะสแตนเลสแบบพับได้, โต๊ะสแตนเลสแบบมีล้อเลื่อน หรือโต๊ะสแตนเลสที่มีชั้นวางสินค้าหลาย ๆ ชั้น เพื่อให้สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างครอบคลุม ซึ่งประเภทของโต๊ะสแตนเลสมีดังนี้ ประเภทของโต๊ะสแตนเลส ที่สามารถนำมาใช้งานได้ในหลากหลายอุตสาหกรรม โต๊ะสแตนเลสอเนกประสงค์ โครงสร้างผลิตจากสแตนเลส หน้าโต๊ะผลิตจากสแตนเลสเกรด 304 หนา 1.2 มิลลิเมตร ขอบโต๊ะสูง 40 มิลลิเมตร มีความแข็งแกร่ง ขาโต๊ะทั้งสี่ด้านยึดเข้ากับคานและมีลูกยางกันลื่นสวมที่ขาโต๊ะ จึงสามารถรองรับแรงได้ดี บางรุ่นขาโต๊ะมีสกรู ปรับระดับให้โต๊ะระนาบกับพื้นได้ ทำความสะอาดง่าย ไม่เป็นสนิม มีหลากหลายขนาดให้เลือกใช้งานตามความเหมาะสม สามารถรับน้ำหนักได้ถึง 200 กิโลเมตร นิยมใช้ในห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์, ห้องเย็น, โรงงานอาหารและยา, งานที่มีความเปียกชื้น หรือในโรงงานอุตสาหกรรมทั่วไป โต๊ะสแตนเลสแบบมีล้อเลื่อน โครงสร้างผลิตจากสแตนเลส หน้าโต๊ะผลิตจากสแตนเลสเกรด 304 หนา 1.2 มิลลิเมตร ขอบโต๊ะสูง 40 มิลลิเมตร ออกแบบมาเพื่อเพิ่มความสะดวกในการเคลื่อนย้าย โดยที่ขาของโต๊ะทั้ง 4 ขาจะติดตั้งล้อทำให้สามารถเคลื่อนย้ายได้อย่างอิสระ มีความแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ หน้าโต๊ะมีผิวเรียบสามารถทนต่อสภาพแวดล้อมและการกัดกร่อนจากสารเคมีได้ดี ทำความสะอาดง่าย จึงเหมาะสำหรับใช้งานในห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์, ห้องเย็น, อุตสาหกรรมอาหารและยา หรือในโรงงานอุตสาหกรรมทั่วไป โต๊ะสแตนเลสแบบพับเก็บได้ โครงสร้างผลิตจากสแตนเลส หน้าโต๊ะผลิตจากสแตนเลสเกรด 304 มีพื้นผิวเรียบ มันวาว โดยที่ขาโต๊ะสามารถพับเก็บได้และในบางรุ่นสามารถถอดขาโต๊ะเก็บได้จึงง่ายต่อการจัดเก็บ นอกจากนั้นยังง่ายต่อการขนย้ายและประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บได้อีกด้วย สามารถใช้งานได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร หรือกลางแจ้ง ทนทานต่อการกัดกร่อน ไม่เป็นสนิม มีให้เลือกใช้งานทั้งโต๊ะรูปทรงสี่เหลี่ยม รูปทรงกลม รองรับน้ำหนักได้ 100 กิโลกรัม นิยมใช้งานในโรงอาหารหรือร้านอาหารทั่วไป หรือห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ เป็นต้น โต๊ะสเเตนเลสพร้อมชั้นวางด้านล่าง โครงสร้างผลิตจากสแตนเลส หน้าโต๊ะผลิตจากสแตนเลสเกรด 304 หนา 1.2 มิลลิเมตร ขอบโต๊ะสูง 40 มิลลิเมตร มีชั้นวางของ 2 ชั้น เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการจัดเก็บหากหน้าโต๊ะใช้ทำงานชั้นด้านล่างสามารถใช้เก็บอุปกรณ์หรือเครื่องมือต่าง ๆ ได้ โดยที่ขาโต๊ะมีสกรู ปรับระดับโต๊ะให้ระนาบกับพื้นได้มีความแข็งแรงทนทาน สามารถรับน้ำหนักได้ 190 กิโลกรัมต่อชั้น ทนต่อการกัดกร่อนจากสารเคมี ไม่เป็นสนิม ทำความสะอาดได้ง่าย นิยมใช้ในห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์, ห้องคลีนรูม, ห้องครัว หรือใช้เป็นโต๊ะสำหรับประกอบชิ้นงานในโรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ โต๊ะสแตนเลสแบบมีลิ้นชัก ออกแบบมาเพื่อเพิ่มพื้นที่ในการจัดเก็บ สร้างความเป็นระเบียบเรียบร้อย และป้องกันอุปกรณ์หรือเครื่องมือจากการปนเปื้อนหรือสูญหาย โครงสร้างผลิตจากเหล็กกล้าไร้สนิม มีการเชื่อมคานยึดใต้โต๊ะเพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้สามารถรองรับน้ำหนักได้ดี นิยมใช้งานในห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์, ห้องคลีนรูม, ร้านอาหาร หรือโรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ โต๊ะสแตนเลสแบบมีแท่นเหยียบ ออกแบบมาเพื่อความคล่องตัวในการใช้งาน โดยโต๊ะประเภทนี้จะมีทั้งล้อและขาโต๊ะในตัวเดียวกัน โดยล้อทำให้สามารถเคลื่อนย้ายได้ง่ายและขาโต๊ะใช้สำหรับตั้งบนพื้นเพื่อความมั่นคง ซึ่งแท่นเหยียบจะเป็นตัวควบคุมการยกขึ้น-ลงของขาโต๊ะ โดยชั้นล่างของโต๊ะยังมีชั้นเพื่อใช้วางสิ่งของ โต๊ะสแตนเลสแบบมีแท่นเหยียบ จะมีความแข็งแรงทนทาน รองรับน้ำหนักได้ดี ทนต่อการกัดกร่อนจากสารเคมี ไม่เป็นสนิม สามารถใช้งานได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร จึงเหมาะสำหรับการใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรม, โรงพยาบาล ห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ เป็นต้น โต๊ะสแตนเลสวางเครื่องมือแพทย์ จะติดล้อเพื่อให้สะดวกในการเคลื่อนที่ ผลิตจากสแตนเลสเกรด 304 สแตนเลสผิวแฮร์ไลน์ หน้าโต๊ะแผ่นถาดเรียบคว่ำครอบเสาพับขอบสูง 50 มิลลิเมตรโครงสร้างทำด้วยท่อสเตนเลส ขนาด 1 1/4 นิ้ว แผ่นถาดหนา 1.5 มิลลิเมตร มีชั้นตั้งแต่ 2-3 ชั้นขึ้นไปรับน้ำหนักได้ 100 กิโลกรัมต่อชั้น นิยมใช้ในคลินิกรักษาโรคและโรงพยาบาล ข้อดีของโต๊ะสแตนเลสในการใช้งาน ทนทานต่อการกัดกร่อน โต๊ะสแตนเลสสามารถทนทานต่อการกัดกร่อนทั้งในบรรยากาศทั่วไป กรด ด่าง สารละลาย สารเคมี แต่จะมากหรือจะน้อยขึ้นอยู่กับส่วนผสมของโลหะที่มีอยู่ในสแตนเลสที่ใช้ในการผลิตโต๊ะตัวนั้น ๆ ไม่เกิดสนิม โต๊ะสแตนเลสเป็นโลหะผสมระหว่างเหล็กกับคาร์บอน ซึ่งในคาร์บอนจะมีส่วนประกอบของคาร์บอนที่ต่ำและมีโครเมียมเป็นส่วนประกอบหลัก จึงทำให้เกิดการสร้างฟิล์มโครเมียมออกไซด์ ที่มองไม่เห็นเกาะติดแน่นอยู่ที่ผิวหน้าทำให้มีคุณสมบัติต้านทานการกัดกร่อน โดยฟิล์มที่ผิวหน้านั้น หากถูกทำลายไม่ว่าจากแรงกด สารเคมี หรือออกซิเจนที่มีอยู่ในบรรยากาศ โครเมียมออกไซด์จะถูกสร้างขึ้นมาใหม่ด้วยตัวมันเอง ด้วยการเกิดปฏิกิริยาดังกล่าวจึงทำให้โต๊ะสแตนเลสไม่เกิดสนิมซึ่งการเกิดสนิมมีผลต่อความแข็งแรงของโครงสร้างโลหะทุกชนิด มีความแข็งแรง เนื่องจากโต๊ะสแตนเลสไม่มีโอกาสเกิดสนิมจึงทำให้มีโครงสร้างมีความแข็งแรง ไม่ผุกร่อนได้ง่าย จึงทำให้สามารถใช้งานได้ยาวนาน และวัสดุสแตนเลสยังสามารถเพิ่มความแข็งแรงได้ด้วยการขึ้นรูปเย็นซึ่งมักทำในขั้นตอนการออกแบบ ความปลอดภัยและถูกสุขลักษณะ วัสดุอย่างสแตนเลสมีความเป็นกลางสูงจึงไม่เกิดการดูดซึมเป็นเหตุผลสำคัญที่ในโรงพยาบาล ธุรกิจด้านโภชนาการ หรือด้านเภสัชกรรมจึงนิยมใช้โต๊ะสแตนเลสเพราะไม่ก่อให้เกิดการปนเปื้อน นอกจากนั้นโต๊ะสแตนเลสยังทำความสะอาดได้ง่ายและต้องการการดูแลรักษาน้อย ช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม สแตนเลสเป็นวัสดุที่สามารถนำกลับมาใช้ได้ใหม่เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ถ้าหากโต๊ะสแตนเลสชำรุด ผุพัง สามารถนำไปรีไซเคิลเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ได้ โต๊ะสแตนเลสเป็นโต๊ะประเภทหนึ่งที่มีความแข็งแรงและทนทานที่ในหลายอุตสาหกรรมเลือกใช้งาน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอาหารและยา, อุตสาหกรรมบริการ เนื่องจากโต๊ะสแตนเลสเป็นประเภทของโต๊ะที่ถูกสุขอนามัยมากที่สุด ไม่มีความเสี่ยงที่ทำให้เกิดการปนเปื้อน นอกจากนั้นวิธีการดูแลรักษาก็ง่ายไม่ซับซ้อนเพียงแค่เช็ดทำความสะอาดคราบสกปรกที่ติดอยู่บนโต๊ะสแตนเลสหลังจากใช้งานเสร็จ และจัดเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อยเพื่อยืดอายุการใช้งานของโต๊ะ ในกรณีที่โต๊ะสแตนเลสเกิดสนิมให้ทาสารละลายออกซาลิกในบริเวณที่เป็นสนิมแล้วทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที ล้างออกด้วยน้ำสะอาดแล้วเช็ดโต๊ะให้แห้งก็สามารถนำมาใช้งานได้ใหม่อีกครั้ง Jenstore by Jenbunjerd ผู้ผลิตและจำหน่าย โต๊ะสแตนเลส, เก้าอี้สแตนเลส, โต๊ะสแตนเลสวางเครื่องมือแพทย์ มีทั้งแบบมีล้อและไม่มีล้อ มีรุ่นที่สามารถพับเก็บได้ ผลิตจากวัสดุสแตนเลสคุณภาพดี ทนทานต่อสารเคมี ทำความสะอาดง่าย มีหลายแบบและหลายขนาดให้เลือกใช้งาน ซึ่งอยู่ภายใต้แบรนด์ TOOLMAX แบรนด์คุณภาพที่มีมาตรฐาน นอกจากนี้ยังรับสั่งทำตู้ โต๊ะสแตนเลสทุกรูปแบบตามความต้องการ พร้อมยินดีให้คำแนะนำและบริการหลังการขายที่จะช่วยตอบโจทย์ทุกความต้องการในการใช้งาน<br /><h3><span style="color: #333333;"><strong>ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่ :</strong></span></h3><span style="color: #333333;"><strong>Website :</strong> <a style="color: #333333;" href="https://www.jenstore.com" target="_blank" rel="noopener">https://www.jenstore.com</a> (Live Chat)</span> <br /><span style="color: #333333;"><strong>Tel :</strong> <a style="color: #333333;" href="tel:02-096-9999">02-096-9999</a> (200 คู่สาย)</span> <br /><span style="color: #333333;"><strong>Email :</strong> <a style="color: #333333;" href="mailto:[email protected]">[email protected]</a></span> <br /><span style="color: #333333;"><strong>LINE Official Account:</strong> <a style="color: #333333;" href="https://line.me/ti/p/~@jenstore" target="_blank" rel="noopener">@jenstore</a></span> <br /><span style="color: #333333;"><strong>Facebook :</strong> <a style="color: #333333;" href="https://www.facebook.com/JenStorebyJenbunjerd" target="_blank" rel="noopener">เจนสโตร์ - JenStore by Jenbunjerd</a></span>

2023-09-25
ขับเคลื่อนงานคลังให้เดินหน้าเต็มพิกัดด้วยรถ Order Picker EV-500

การมีระบบโลจิสติกส์ในคลังสินค้าที่ดี เบิกจ่ายสินค้าได้สะดวก รวดเร็ว การเคลื่อนย้ายสินค้าไปยังจุดต่าง ๆ ได้อย่างคล่องแคล่ว กระจายสินค้าถึงที่หมายได้ตรงเวลา นับเป็นเส้นทางสู่ชัยชนะบนโลกธุรกิจได้อย่างแท้จริง ยิ่งเร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งตอบสนองความต้องการลูกค้าได้มากขึ้นเท่านั้น “รถ Order Picker EV-500” ก็เป็น 1 ในแรงขับเคลื่อนสำคัญมาแล้วหลายธุรกิจ “ผู้ช่วยสำคัญงานคลัง เล็กกะทัดรัด คล่องตัวในที่แคบ ทรงพลัง” รถ Order Picker EV-500 ผลงานคนไทยจากบริษัท เจนบรรเจิด จำกัด ภายใต้แบรนด์ Jumbo เป็นรถ Order Picker ขนาดเล็กกะทัดรัด แต่ทรงพลังด้วยความสามารถในการรับน้ำหนักถึง 500 กก. ช่วยเปลี่ยนงานขนย้ายและเบิกจ่ายในที่แคบให้เป็นเรื่องง่าย ใช้งานได้อเนกประสงค์ คล่องตัว เหมาะกับธุรกิจพาณิชย์หรืออุตสาหกรรมที่มีคลังสินค้าขนาดกลางและเล็ก ที่มีพื้นที่จำกัด “ปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นรถให้ตอบโจทย์การใช้งานของธุรกิจ” ด้วยความเข้าใจถึงการใช้งานที่หลากหลายของแต่ละอุตสาหกรรม เจนบรรเจิดสามารถปรับเปลี่ยนตัวรถเพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้ามากยิ่งขึ้น ทีมงานขอยกเคสตัวอย่างการดัดแปลงรถ Order Picker ลูกค้าที่เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนยางล้อรถประเภทต่างๆ ซึ่งต้องมีการเคลื่อนย้ายวัสดุอุปกรณ์สำหรับผลิตชิ้นส่วนต่างๆตลอดเวลา จากการที่มีพื้นที่คลังจำกัด จึงทำให้ไม่สามารถใช้รถยกหรือรถลากจูงขนาดมาตรฐานทั่วไปได้ ที่ผ่านมาจึงต้องใช้แรงงานคนล้วนๆในการขนถ่ายโดยการใช้รถเข็น ทีมงานจึงนำเสนอ รถ Order Picker EV-500 ที่มีขนาดกะทัดรัด สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้เป็นอย่างดี (สามารถชมภาพการทำงานได้จากวิดีโอตัวอย่าง จะพบว่ามีขนาดใหญ่กว่าตัวผู้หญิงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น) และได้ปรับเปลี่ยนกระบะบรรทุกสินค้าด้านหลังให้สามารถลากจูงได้ตามโจทย์ของลูกค้า โดยการติดตั้งที่พ่วงหลังเสริมขึ้นมา จึงได้รถที่สามารถทดแทนกำลังคนได้ 100% ทำให้งานเคลื่อนย้ายวัสดุอุปกรณ์รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และเนื่องจากฟังก์ชั่นการใช้งานที่เปลี่ยนไป จึงต้องเพิ่มตัวช่วยด้านความปลอดภัย ด้วยการส่งสัญญาณทั้งในรูปแบบแสงและเสียง โดยการติดตั้งเสาไฟไซเรนซ์ LED แบบกะพริบ เพื่อให้เห็นรถได้จากระยะไกล และมีเสียงสัญญาณเตือนเดินหน้าถอยหลัง เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานทราบได้ทันทีเมื่อรถเข้ามาใกล้

2023-06-30
×
สายด่วนสั่งซื้อสินค้า บริการจัดหาสินค้า สินค้าสั่งทํา 02 096 9999
บริการหลังการขาย 02 096 9898
ต่อ 3102-3103
ไลน์ @jenstore
เวลาทําการ 08.30 - 17.30 น.
Copy to Clipboard