ที่ครอบหู
ที่ครอบหูกันเสียง อุปกรณ์ป้องกันการได้ยิน
จำหน่าย ที่ครอบหู ที่ครอบหูกันเสียง อุปกรณ์ป้องกันการได้ยิน คุณภาพสูง
เจนบรรเจิด ผู้นำอันดับ 1 จำหน่าย ที่ครอบหู ที่ครอบหูกันเสียง ที่ครอบหู แบบพับเก็บได้ ผลิตจากวัสดุพิเศษ คุณภาพดี มีความแข็งแรงและทนทาน จากแบรนด์สินค้าคุณภาพ
Jenstore by Jenbunjerd จำหน่าย อุปกรณ์ความปลอดภัย อุปกรณ์ป้องกันเสียง อุปกรณ์ป้องกันการได้ยิน ที่ครอบหูกันเสียง ที่ครอบหู ที่ครอบหูลดเสียง ที่ครอบหูแบบติดหมวก ที่ครอบหูแบบครอบศรีษะ ที่ครอบหูแบบคล้องคอ ป้องกันเสียงรบกวนได้เป็นอย่างดี แถบคาดศีรษะกว้าง ทำจากฟองน้ำเคลือบพลาสติก นุ่ม สวมใส่สบาย ไม่ทำให้รู้สึกปวดหูแม้ต้องสวมใส่เป็นเวลานาน ก้านที่ครอบหูสามารถปรับให้กระชับได้ ที่อุดหู ใช้วัสดุคุณภาพดี ได้มาตรฐาน ผลิตจากยางธรรมชาติ ไม่ระคายเคือง
ความสำคัญของที่ครอบหูกันเสียง
อีกหนึ่งอวัยวะสำคัญของร่างกายย่อมหนีไม่พ้น “หู” ซึ่งมีหน้าที่ในการรับเสียง ทุกคนจึงสามารถได้ยินเสียงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นบนโลก ด้วยเหตุนี้การป้องกันหูของตนเองเมื่อต้องเข้าไปอยู่บริเวณพื้นที่มีเสียงดังมากจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด เช่น การใช้ที่ครอบหูกันเสียง เพราะการที่หูต้องทนฟังกับระดับเสียงดังมากเกินไปย่อมส่งผลกระทบโดยตรง และอาจร้ายแรงถึงขั้นหูดับ หูหนวกชั่วคราว ไปจนหูภาวะหูหนวกถาวรได้เลย
อันตรายของการได้ยินเสียงดังเป็นเวลานาน โดยไม่ใช้อุปกรณ์ป้องกันการได้ยิน
องค์การอนามัยโลกได้มีการกำหนดเอาไว้ว่า เมื่อไหร่ก็ตามหากคุณได้ยินเสียงเกิน 85 เดซิเบล นั่นเท่ากับระดับเสียงดังกล่าวเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ซึ่งโรงงานอุตสาหกรรมหลายประเภท อาทิ โรงเหล็ก โรงเจียระไน โรงปั๊มโลหะ โรงทอ โรงเลื่อย พื้นที่ก่อสร้าง งานขุดเจาะถนน พนักงานรันเวย์ในสนามบิน ไปจนถึงสถานที่บันเทิงจำนวนมากมักมีระดับความดังของเสียงเกินกว่าที่กำหนด
ยิ่งถ้าหูต้องรับเสียงลักษณะดังกล่าวติดต่อกันนานหลายชั่วโมง ความเสี่ยงที่จะเกิดผลเสียต่อหูในหลายมิติ เช่น อาการหูอื้อบ่อย ๆ หูดับชั่วขณะ ระบบการรับรู้ของประสาทเสียงลดลง ไปจนถึงอาการหูดับหรือหูหนวกถาวร ดังนั้นหากรู้ว่าตนเองต้องทำงานหรืออยู่ในสถานที่มีเสียงดังติดต่อกันเป็นเวลานาน ๆ การเลือกใช้อุปกรณ์ป้องกันการได้ยินจะลดอันตรายและความเสี่ยงดังกล่าวที่อาจเกิดขึ้นได้เช่นกัน
ประเภทของที่ครอบหูกันเสียง
1. ที่ครอบหูกันเสียงแบบครอบศีรษะ
หรือที่จะเรียกที่ครอบหูกันเสียงแบบคาดศีรษะก็ได้เช่นกัน ลักษณะคือจะมีตัวป้องกันหู 2 ฝั่ง ขณะที่ด้านบนจะเชื่อมต่อกันคล้ายกับหูฟังแบบครอบศีรษะ ข้อดีคือ จะช่วยป้องกันเสียงได้แนบสนิท และไม่ต้องกลัวร่วงหล่นขณะใช้งาน มักพบได้แพร่หลายมาก
2. ที่ครอบหูกันเสียงแบบติดหมวก
มักนิยมใช้งานกับงานก่อสร้าง หรือลักษณะงานที่ผู้ใช้ต้องมีการสวมหมวกนิรภัยก่อนเข้าไปยังพื้นที่ ที่ครอบหูประเภทนี้จึงจะมีตัวยึดล็อกเอาไว้กับหมวกอย่างแน่นหนา ไม่ต้องกลัวการหลุดร่วงใด ๆ ตอบโจทย์การใช้งานกับสถานการณ์อย่างดี
3. ที่ครอบหูกันเสียงแบบคล้องคอ
รูปแบบสุดท้ายจะคล้ายกับที่ครอบหูแบบครอบศีรษะ แต่ขนาดของก้านที่เชื่อมตัวปิดหูจะเล็กกว่ามาก เพื่อให้สามารถคล้องเอาไว้บริเวณท้ายทอย เหมาะกับการใช้งานบริเวณที่ไม่ได้มีเสียงดังติดต่อกันเป็นเวลานาน แต่เสียงมักเกิดขึ้นถี่ เมื่อไม่ได้ใช้ก็ถอดคล้องไว้กับคอได้ ลดอาการเจ็บเมื่อต้องครอบไว้นาน ๆ
ย้ำอีกครั้งว่าอุปกรณ์ป้องกันการได้ยินจากเสียงดังเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องใช้งาน ซึ่งทางด้าน Jenstore by Jenbunjerd ก็เป็นผู้จัดจำหน่ายอุปกรณ์ป้องกันเสียง ที่ครอบหูกันเสียงมาตรฐานระดับสากล นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์ความปลอดภัยอื่น ๆ เช่น หมวกนิรภัย รองเท้าเซฟตี้ แว่นตานิรภัย ฯลฯ ให้เลือกสรรอีกมากมาย ใช้งานได้อย่างมั่นใจทุกชิ้น
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่ :
ฝ่ายขาย : 02-096-9999 (200 คู่สาย)
Email : [email protected]
บริการลูกค้า : 02-096-9898 ext 3102-3103
Email : [email protected]
LINE Official Account: @jenstore
Facebook : เจนสโตร์ - JenStore by Jenbunjerd
PRIVACY POLICY
นโยบายในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ
บริษัท เจนบรรเจิด จำกัด (ต่อไปนี้จะเรียกว่า “บริษัท”) ตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล จึงได้จัดทำนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PERSONAL DATA PROTECTION POLICY) ขึ้น โดยนโยบายนี้ได้อธิบายถึงวิธีการที่บริษัทปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การเก็บรวบรวม การจัดเก็บรักษา การใช้ การเปิดเผย รวมถึงสิทธิต่าง ๆ ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้น เพื่อให้เจ้าของข้อมูลได้รับทราบถึงนโยบายในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท บริษัทจึงประกาศนโยบายฯ ดังต่อไปนี้
- คำนิยาม
“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ “ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว” หมายถึง ข้อมูลที่เป็นเรื่องส่วนบุคคลโดยแท้ของบุคคล แต่มีความละเอียดอ่อนและอาจสุ่มเสี่ยงในการเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม เช่น เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใด ซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด “คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง คณะกรรมการที่ได้รับการแต่งตั้งขึ้น โดยมีหน้าที่และอำนาจกำกับดูแล ออกหลักเกณฑ์ มาตรการ หรือข้อปฏิบัติอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับ การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 - การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลโดยมี วัตถุประสงค์ ขอบเขต และใช้วิธีการที่ชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรม โดยในการเก็บรวบรวมนั้นจะทำเพียงเท่าที่จำเป็นแก่การดำเนินงานภายใต้วัตถุประสงค์ของบริษัทเท่านั้น ทั้งนี้ บริษัทจะดำเนินการให้เจ้าของข้อมูล รับรู้ ให้ความยินยอมทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือตามแบบวิธีการของบริษัท กรณีที่บริษัทจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวของเจ้าของข้อมูล บริษัทจะขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลโดยชัดแจ้งก่อนทำการเก็บรวบรวม เว้นแต่การเก็บข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวจะเข้าข้อยกเว้นตามที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หรือกฎหมายอื่นกำหนดไว้ - วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม หรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะทำการเก็บรวบรวม หรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล เพื่อประโยชน์ในการดำเนินงานของบริษัท เช่น การจัดซื้อจัดจ้าง การทำสัญญา การทำธุรกรรมทางการเงิน การดำเนินกิจกรรมบริษัท การติดต่อประสานงานต่าง ๆ หรือเพื่อปรับปรุงคุณภาพการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เช่น การจัดทำฐานข้อมูล วิเคราะห์และพัฒนากระบวนการดำเนินงานของบริษัท และเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดที่ไม่ต้องห้ามตามกฎหมาย และ/หรือเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อการดำเนินงานของบริษัท โดยบริษัทจะจัดเก็บและใช้ข้อมูลดังกล่าวตามระยะเวลาเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งเจ้าของข้อมูลหรือตามที่กฎหมายกำหนดไว้เท่านั้น บริษัทจะไม่กระทำการใด ๆ แตกต่างจากที่ระบุในวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมข้อมูล เว้นแต่ (1) ได้แจ้งวัตถุประสงค์ใหม่ให้แก่เจ้าของข้อมูลทราบ และได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล (2) เป็นการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติข้อมูลส่วนบุคคล หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง - การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลไปให้บุคคลใดโดยปราศจากความยินยอม และจะเปิดเผยตามวัตถุประสงค์ที่ได้มีการแจ้งไว้ อย่างไรก็ดี เพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงานของบริษัทและการให้บริการแก่เจ้าของข้อมูล บริษัทอาจมีความจำเป็นในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล ให้แก่บริษัทในเครือ หรือบุคคลอื่นทั้งในและต่างประเทศ เช่น ผู้ให้บริการต่าง ๆ ที่ต้องดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล โดยในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลดังกล่าว บริษัทจะดำเนินการให้บุคคลเหล่านั้นเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้เป็นความลับ และไม่นำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือจากขอบเขตที่บริษัทได้กำหนดไว้ นอกจากนี้ บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล ภายใต้หลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด เช่น การเปิดเผยข้อมูลต่อหน่วยงานราชการ หน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานกำกับดูแล รวมถึงในกรณีที่มีการร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย เช่น การร้องขอข้อมูลเพื่อการฟ้องร้องหรือดำเนินคดีตามกฎหมาย หรือการร้องขอจากหน่วยงานเอกชน หรือบุคคลภายนอกอื่น ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับกระบวนการทางกฎหมาย - แนวทางในการดำเนินการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะกำหนดมาตรการต่าง ๆ รวมถึงมาตรการด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่สอดคล้องกับกฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์ และแนวปฏิบัติด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่พนักงานของบริษัทและบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง รวมถึงสนับสนุนและส่งเสริมให้พนักงานมีความรู้และตระหนักถึงหน้าที่และความรับผิดชอบในการเก็บรวบรวม การจัดเก็บรักษา การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล โดยพนักงานของบริษัทต้องปฏิบัติตามนโยบายฯ และแนวปฏิบัติการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามที่บริษัทกำหนดไว้ เพื่อให้บริษัทสามารถปฏิบัติตามนโยบายและกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ - สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการดำเนินการ ดังต่อไปนี้
(6.1) สิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ให้ ความยินยอมไว้ ทั้งนี้ การเพิกถอนความยินยอมย่อมไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ให้ความยินยอมไว้แล้ว
(6.2) สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลและขอทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงการขอให้เปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่ได้ให้ความยินยอม
(6.3) สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง
(6.4) สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล
(6.5) สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
(6.6) สิทธิในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล
(6.7) สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
เจ้าของข้อมูลสามารถขอใช้สิทธิดังกล่าวข้างต้นได้ โดยยื่นคำร้องขอใช้สิทธิต่อบริษัทเป็นลายลักษณ์อักษรหรือผ่านทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ตามแบบฟอร์มที่บริษัทกำหนด ผ่าน “ช่องทางการติดต่อของบริษัท” ด้านล่าง โดยบริษัทจะพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณาตามคำร้องฯ ของเจ้าของข้อมูล ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำร้องฯ ดังกล่าว ทั้งนี้ บริษัทอาจปฏิเสธสิทธิของเจ้าของข้อมูลได้ในกรณีที่มีกฎหมายกำหนดไว้ - การทบทวนและเปลี่ยนแปลงนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทอาจทำการปรับปรุงหรือแก้ไขนโยบายนี้เป็นครั้งคราวเพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดตามกฎหมาย การเปลี่ยนแปลงการดำเนินงานของบริษัท รวมถึงข้อเสนอแนะและความคิดเห็นจากหน่วยงานต่าง ๆ โดยบริษัทจะประกาศแจ้งการเปลี่ยนแปลงให้ทราบอย่างชัดเจน ก่อนจะเริ่มดำเนินการเปลี่ยนแปลง - การใช้คุกกี้ (Cookies)
“คุกกี้” คือ ข้อมูลที่ (หน่วยงาน/เว็บไซต์) ส่งไปยังโปรแกรมค้นผ่านเว็บไซต์ (Web browser) ของผู้ใช้บริการ และเมื่อมีการติดตั้งข้อมูลดังกล่าวไว้ในระบบของท่านแล้ว หากมีการใช้ “คุกกี้” ก็จะทำให้เว็บไซต์บริษัทสามารถบันทึกหรือจดจำข้อมูลของผู้ใช้บริการไว้ จนกว่าผู้ใช้บริการจะออกจากโปรแกรมค้นผ่านเว็บไซต์ หรือจนกว่าผู้ใช้บริการจะทำการลบ “คุกกี้” นั้นเสีย หรือไม่อนุญาตให้ “คุกกี้” นั้นทำงานอีกต่อไป หากท่านเลือกใช้ “คุกกี้” แล้ว ท่านจะได้รับความสะดวกสบายในการท่องเว็บไซต์มากขึ้น เพราะ “คุกกี้” จะช่วยจดจำเว็บไซต์ที่ท่านแวะหรือเยี่ยมชม ทั้งนี้บริษัทจะนำข้อมูลที่ “คุกกี้” ได้บันทึกหรือเก็บรวบรวมไว้ไปใช้ในการวิเคราะห์เชิงสถิติ หรือในกิจกรรมอื่นของบริษัท เพื่อปรับปรุงคุณภาพการให้บริการของบริษัทต่อไป - ข้อกำหนดการใช้งาน
(9.1) การใช้งานและดำเนินการต่างๆ ผ่านเว็บไซต์นี้ถือว่าท่านยอมรับข้อตกลงการใช้งานแล้ว และให้เป็นไปตามข้อกำหนดของบริษัทฯ และตามกฏหมายของประเทศไทย
(9.2) ภาพ ข้อความ หรือเนื้อหาที่ปรากฏอยู่บนเว็บไซต์นี้ถือเป็นข้อมูลทั่วไปที่บริษัทฯได้จัดทำขึ้น ณ ช่วงเวลาหนึ่ง ซึ่งอาจไม่เป็นปัจจุบันหรือมีข้อผิดพลาดได้ บริษัทฯจึงขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลง แก้ไขภาพหรือข้อความ เนื้อหาที่ปรากฏอยู่บนเว็บไซต์นี้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า อย่างไรก็ตาม บริษัทฯจะดำเนินการตรวจสอบข้อมูลในเว็บไซต์อย่างสม่ำเสมอ และจะแก้ไขทันทีที่พบข้อผิดพลาด ทั้งนี้ สิทธิ์ในการพิจารณาดำเนินการใดๆ ก็ตามในทุกกรณีของบริษัทฯให้ถือเป็นที่สุด ผู้สมัครและ/หรือสมาชิกเข้าใจ และยอมรับตามข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้บริการเป็นอย่างดี และยืนยันจะไม่ฟ้องร้องดำเนินคดีใดๆ ทั้งทางแพ่งและอาญาต่อบริษัทฯ ท่านสามารถสอบถามข้อมูลปัจจุบันได้ที่บริษัทฯ
(9.3) การเชื่อมโยงจากเว็บไซต์นี้ไปยังเว็บไซต์อื่นที่มีชื่อปรากฏอยู่บนเว็บไซต์นี้ บริษัทฯมิได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับภาพหรือข้อความหรือเนื้อหา ตลอดจนระบบดำเนินการภายในเว็บไซต์นั้นๆ และไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด เสียหาย อันเกิดจากเว็บไซต์นั้นๆ
(9.4) บริษัทฯ ถือเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในเว็บไซต์นี้แต่เพียงผู้เดียว การนำภาพหรือข้อความในเว็บไซต์นี้ไปทำซ้ำ ดัดแปลง หรือเผยแพร่ต่อสาธารณชน โดยมิได้รับอนุญาตจากบริษัทฯ เป็นความผิด มีโทษทั้งจำและปรับตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ 2537 - ช่องทางการติดต่อบริษัท
ฝ่าย IT & Data Management
บริษัท เจนบรรเจิด จำกัด
359 ถนนบอนด์สตรีท (แจ้งวัฒนะ 33) ตำบลบางพูด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 11120
โทรศัพท์: 02-0969898 โทรสาร: 02-0152445
อีเมล: [email protected]
ยืนยันต้องการลบข้อมูล ?
มีสินค้าอยู่ภายในตะกร้า คุณต้องการลบสินค้าที่อยู่ในตะกร้าออกและเพิ่มสินค้าจากใบขอเสนอราคา ?