7 อุปกรณ์ความปลอดภัย ที่ใช้ในโกดังสินค้า
7 อุปกรณ์ความปลอดภัย ที่ใช้ในโกดังสินค้าอุบัติเหตุในโกดังสินค้าเกิดขึ้นได้ทุกวันทุกเวลา เนื่องจากต้องมีการเคลื่อนย้ายสินค้า การยกและจัดเก็บของที่ทั้งขนาดใหญ่และมีน้ำหนักมาก รวมถึงการใช้เครื่องจักรในบางพื้นที่ จึงต้องใช้อุปกรณ์ความปลอดภัยส่วนบุคคล หรือ Personal Protective Equipment (PPE) ระหว่างการทำงาน หากถามว่าทำไมต้องใช้อุปกรณ์ความปลอดภัย ในโกดังสินค้า? นั่นก็เพราะอุปกรณ์เซฟตี้ส่วนบุคคล หรือ PPE จะช่วยลดอาการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุระหว่างการทำงาน ไม่ว่าจะเป็น การใช้เครื่องจักร การลื่นล้ม การถูกของหนักตกใส่ เพลิงไหม้ รวมถึงการสัมผัสสารเคมีด้วยเช่นกัน อุปกรณ์ความปลอดภัย ในโกดังสินค้า มีอะไรบ้าง?1. หมวกนิรภัยหมวกเซฟตี้ เป็นอุปกรณ์ความปลอดภัยบริเวณศีรษะ ที่จะช่วยลดความเจ็บปวดเมื่อศีรษะได้รับแรงกระทบกระเทือน โดยวิธีเลือกหมวกนิรภัยที่ถูกต้อง ต้องเลือกหมวกที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน มอก. มีความแข็งแรงทนทาน มีขนาดพอดีกับศีรษะ ไม่คับหรือหลวมจนเกินไป ทั้งยังต้องมีสีสันโดดเด่น มองเห็นระยะไกลได้ชัด 2. ถุงมือเซฟตี้ถุงมือนิรภัย จะช่วยป้องกันการบาดเจ็บจากการยกของหนัก การจับวัตถุมีคม หรือวัตถุปลายแหลม และลดอันตรายจากการสัมผัสสารเคมีได้ ซึ่งถุงมือเซฟตี้นั้นมีหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น ถุงมือกันบาด, ถุงมือกันความร้อน, ถุงมือกันความเย็น และถุงมือกันสารเคมีสิ่งสำคัญในการเลือกอุปกรณ์ความปลอดภัยประเภทถุงมือ ต้องเลือกยี่ห้อที่มีการใช้วัสดุที่ดี ไม่มีการชำรุด ฉีกขาด และได้รับการรองรับมาตรฐานความปลอดภัย เช่น มาตรฐาน EN388 (การต้านทานการบาด), มาตรฐาน EN407 (การต้านทานความร้อน), มาตรฐาน EN374 (สารเคมี) เป็นต้น ทั้งต้องเลือกเหมาะสมกับประเภทการทำงานด้วย 3. รองเท้าเซฟตี้รองเท้าเซฟตี้ ถือเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ความปลอดภัยส่วนบุคคลที่โกดังสินค้าทุกที่ต้องมี เพราะช่วยปกป้องเท้าของผู้สวมใส่ในระหว่างทำงานได้อย่างดี ช่วยลดแรงกระแทกเมื่อถูกของหนักตกใส่ สามารถกันลื่น ป้องกันสารเคมี ป้องกันไฟฟ้า และป้องกันความร้อนได้ รองเท้าเซฟตี้ที่ดี ควรผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัย เช่น ISO 20345 มาตรฐานระดับสากล, ASTM มาตรฐานของสหรัฐอเมริกา, CE มาตรฐานยุโรป ในขณะเดียวกันก็ต้องมีสัญลักษณ์รับรองด้านความปลอดภัยที่ชัดเจนด้วยเช่นกันสำหรับวิธีการเลือกรองเท้านิรภัยนั้น โดยเบื้องต้นควรเลือกขนาดที่พอเหมาะกับเท้า ไม่ควรหนักมากไปจนทำให้เคลื่อนไหวลำบาก และผลิตจากวัสดุที่มีความแข็งแรงทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน ป้องกันแรงกระแทกได้อย่างดี 4. แว่นตานิรภัยแว่นตานิรภัย อุปกรณ์ความปลอดภัยที่จะช่วยป้องกันรอบดวงตา จากฝุ่นละออง สะเก็ดไฟ และสารเคมีต่าง ๆ ที่จะทำอันตรายต่อดวงตา มี 2 ประเภทให้เลือกตามลักษณะการใช้งาน ได้แก่ แว่นตานิรภัยแบบสวมปกติ ป้องกันได้ทั้งด้านหน้าและด้านข้าง (หากเลือกแบบมีกะบังข้าง) และแว่นตาครอบนิรภัย ที่มีคุณสมบัติปิดครอบได้รอบดวงตา วิธีการเลือกแว่นตานิรภัย พื้นฐานควรเลือกให้เหมาะกับขนาดของใบหน้า ไม่แน่นหรือหลวมมากเกินไป ใช้งานแล้วไม่รู้สึกอึดอัด สวมใส่ได้สะดวก ที่สำคัญ ยังต้องผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัย เช่น ANSI Z87.1 มาตรฐานอเมริกัน, EN 166 มาตรฐานยุโรป เป็นต้น 5. อุปกรณ์ป้องกันการได้ยินการใส่ที่ครอบหู (Ear muffs) หรือที่อุดหู (ear plugs) อุปกรณ์ความปลอดภัยที่จะช่วยปกป้องหูจากเสียงดังที่เป็นอันตรายต่อหูมนุษย์ได้ (เกิน 85 dB) เช่น เสียงเครื่องจักร (90-110 dB) เสียงรถโฟล์คลิฟท์ (85-95 dB) หรือเสียงเครื่องยนต์รถขนสินค้า (85-96 dB) โดยที่ครอบหู สามารถลดเสียงได้ประมาณ 30-40 dB ส่วนที่อุดหู สามารถลดเสียงได้ประมาณ 15-25 dBวิธีการเลือกอุปกรณ์ป้องกันการได้ยิน เบื้องต้นควรเลือกให้เหมาะกับขนาดศีรษะ ใส่แล้วไม่หลวมเกินไป และต้องผ่านการรองรับมาตรฐานความปลอดภัย เช่น มาตรฐาน ANSI S3.19 นอกจากนี้ ก่อนซื้อควรตรวจสอบสินค้าให้ดีว่าชำรุดหรือไม่ เมื่อซื้อมาแล้วอย่าลืมทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดการสะสมของเชื้อโรค 6. เข็มขัดนิรภัย และสายรัดตัวเข็มขัดเซฟตี้ จะช่วยรัดและยึดเกาะไม่ให้ตัวผู้ใช้งานตกจากที่สูง ตอบโจทย์การใช้งานในโกดังที่ต้องปีนขึ้นไปบนชั้นวางสินค้า มีให้เลือก 2 แบบ ได้แก่ เข็มขัดเซฟตี้แบบครึ่งตัว เหมาะกับการใช้งานในความสูงที่ไม่มากนัก และ เข็มขัดเซฟตี้แบบเต็มตัว ที่สามารถใช้งานได้ทุกระดับความสูงเข็มขัดนิรภัย เป็นอุปกรณ์ความปลอดภัยที่ควรเลือกให้เหมาะกับลักษณะงาน โดยเลือกยี่ห้อที่ตัววัสดุมีความแข็งแรงทนทาน มีระบบล็อกและตะขอที่แข็งแรง ยึดเกี่ยวได้ดี ที่สำคัญ ต้องผ่านการรองรับมาตรฐานความปลอดภัย เช่น มาตรฐาน EN 358:2018, EN 813 เป็นต้น 7. หน้ากากกันสารเคมี และฝุ่นละอองอุปกรณ์ป้องกันระบบทางเดินหายใจ ทั้งหน้ากากกันสารเคมี และหน้ากากกรองฝุ่น มีหน้าที่ช่วยป้องกันการสูดดมฝุ่นละออง สารเคมี หรืออนุภาคที่เป็นอันตราย ไม่ให้เข้าสู่ร่างกาย ถือเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ความปลอดภัยส่วนบุคคลที่ไม่ควรละเลย เพราะส่งผลกับสุขภาพโดยตรงวิธีการเลือกหน้ากากกันสารเคมี และฝุ่นละออง ควรเลือกยี่ห้อที่ผ่านการรองรับมาตรฐานแล้วเท่านั้น เพื่อยืนยันว่าเมื่อใช้งานแล้วจะไม่เป็นอันตรายใด ๆ กับผู้ใช้งาน นอกจากนี้ ยังต้องเลือกให้เหมาะกับงานที่ทำ สภาพอากาศ และขนาดใบหน้าของผู้สวมใส่ ต้องมีขนาดพอดี ไม่หลวมจนเกินไป หรือมีรอยรั่วจนอนุภาคต่าง ๆ หลุดเข้าไปได้ นอกจากนี้ อุปกรณ์ความปลอดภัยทุกชนิด ควรเพียงพอต่อการใช้งานของพนักงานทุกคน ทั้งยังต้องมีการติดตั้งอุปกรณ์ช่วยเหลือฉุกเฉิน เช่น ถังดับเพลิง, อุปกรณ์ปฐมพยาบาล รวมถึงติดตั้งป้ายเตือนและเครื่องหมายบอกทาง เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในระหว่างการทำงานให้กับพนักงานอีกด้วย
2025-05-22