Please wait...

E-catalogue
สายด่วน
0
Loading...
0
คุณไม่มีรายการสินค้าในตะกร้าของคุณ
0 สินค้าในตะกร้า
ยอดรวมรถเข็น : 0
×
เช็กลิสต์ 10 อุปกรณ์สำนักงาน เครื่องใช้ในออฟฟิศที่ควรมีไว้

เช็กลิสต์ 10 อุปกรณ์สำนักงาน เครื่องใช้ในออฟฟิศที่ควรมีไว้อุปกรณ์สำนักงาน หรือเครื่องใช้ต่าง ๆ ในออฟฟิศมีความสำคัญอย่างมากเพราะนี่คือตัวช่วยในการอำนวยความสะดวกในการทำงานให้กับพนักงาน เพิ่มประสิทธิภาพและผลลัพธ์ชั้นยอดในการทำงานให้ดีขึ้นกว่าเดิม จึงอยากพาทุกคนมาดูเช็กลิสต์ 10 อุปกรณ์เครื่องใช้ในสำนักงานที่ควรมีเอาไว้ในออฟฟิศ 10 อุปกรณ์สำนักงานที่ทุกออฟฟิศควรมีไว้ใช้1. โต๊ะทำงาน อุปกรณ์สำนักงานชิ้นแรกที่ขาดไม่ได้เด็ดขาด เพราะโต๊ะทำงานมีหน้าที่ในการตั้งวางสิ่งของทุกชนิด เช่น คอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก แฟ้ม เอกสาร ฯลฯ ซึ่งประเภทของโต๊ะก็มีให้เลือกหลายแบบ จุดเด่นแตกต่างกันออกไป อาทิ โต๊ะทำงานไม้ โต๊ะทำงานเหล็ก โต๊ะประชุม โต๊ะอเนกประสงค์ โต๊ะพับ สามารถเลือกซื้อได้ตามความเหมาะสม 2. เก้าอี้สำนักงานเมื่อมีโต๊ะทำงานแล้วจะขาดเก้าอี้ก็คงไม่ได้ ซึ่งเก้าอี้สำนักงานมีด้วยกันหลายรูปแบบขึ้นอยู่กับการใช้งาน หรือความชอบของแต่ละบุคคล เช่น เก้าอี้ผู้บริหาร สำหรับ CEO หรือผู้บริหาร บ่งบอกถึงความสง่าผ่าเผย เก้าอี้แบบหนัง หรือเก้าอี้แบบผ้า สำหรับพนักงาน หรืออาจใช้ในการประชุมทั่วไป นอกจากนี้ยังมีเก้าอี้แบบตาข่ายอีกด้วย 3. ตู้เก็บเอกสารแม้ปัจจุบันโลกออนไลน์จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น แต่ยังคงต้องมีการเก็บเอกสารฉบับจริงและต้องเก็บรักษาเอาไว้อย่างดี โดยเฉพาะเอกสารความลับ เอกสารสำคัญทั้งหลาย เช่น สูตรการผลิต หนังสือสัญญา หรือเอกสารทั่วไปอื่น ๆ ดังนั้นการมีตู้เก็บเอกสารจะช่วยจัดเก็บเอกสารแต่ละประเภทให้เป็นระเบียบมากขึ้น ค้นหาง่าย หยิบใช้งานสะดวก 4. ตู้ล็อกเกอร์สังเกตว่าหลาย ๆ ออฟฟิศ โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจบริหารที่มีลูกค้าเข้ามาติดต่อสม่ำเสมอ หรือกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมซึ่งไม่อนุญาตให้นำของส่วนตัวเข้าไปภายในก็จำเป็นต้องมีตู้ล็อกเกอร์ที่มีกุญแจหรือระบบล็อกป้องกันการสูญหาย เพื่อเก็บสิ่งของต่าง ๆ ของลูกค้าและพนักงาน 5. ชั้นวางของอีกไอเทมสำคัญที่เชื่อว่าทุกออฟฟิศต้องมีเอาไว้ใช้งาน เพราะจุดเด่นสำคัญของอุปกรณ์สำนักงานชิ้นนี้จะช่วยเพิ่มพื้นที่ในการจัดเก็บสิ่งของให้มากขึ้นโดยการใช้ประโยชน์จากพื้นที่แนวตั้ง ชั้นวางของสามารถใช้ได้ทั้งกับห้องเก็บของสำหรับเก็บพัสดุ สินค้าตัวอย่าง หรือสินค้าทั่วไปสำหรับเติมขายหน้าร้าน ไปจนถึงการวางของใช้ส่วนรวม 6. อุปกรณ์เพื่อการประชุมและนำเสนอห้องประชุมเป็นอีกห้องหนึ่งที่สำคัญของทุกๆออฟฟิศ เพราะเป็นห้องที่ใช้พูดคุย ระดมสมอง ตัดสินใจและหาข้อสรุปในการดำเนินงานต่างๆ การประชุมสามารถมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลเพิ่มขึ้นได้ด้วยการมีตัวช่วยหรืออุปกรณ์ที่จำเป็นต่างๆ เช่น กระดานไวท์บอร์ด ที่มีทั้งแบบแขวนติดผนังและแบบมีขาตั้งล้อเลื่อน กระดานอิเล็กทรอนิกส์ ที่สามารถเขียนไอเดียต่างๆและเชื่อมต่อกับปริ๊นท์เตอร์พิมพ์ออกมาได้ทันที รวมถึงกระดานฟลิปชาร์ท ที่เหมาะสำหรับกิจกรรมกลุ่มออกไอเดีย 7. อุปกรณ์จัดเก็บเอกสารต่าง ๆการจัดระเบียบเอกสารทุกชนิดด้วยการแยกหมวดหมู่ให้ชัดเจนย่อมเพิ่มความสะดวกต่อการทำงานของชาวออฟฟิศได้อย่างดีเยี่ยม ดังนั้นอุปกรณ์จัดเก็บเอกสารต่าง ๆ จึงเป็นอีกไอเทมที่ทุกออฟฟิศควรมีเอาไว้ อาทิ ซองใส่เอกสาร แฟ้มใส่งานทั่วไป แฟ้มเก็บเอกสารแบบห่วง ฯลฯ 8. อุปกรณ์เกี่ยวกับกระดาษการทำงานออฟฟิศทุกประเภทต้องมีการใช้งานกระดาษ เช่น การออกเอกสารสั่งซื้อ เอกสารเสนอราคา การจดลิสต์สิ่งของ เอกสารข้อมูล ฯลฯ อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับกระดาษทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นกระดาษถ่ายเอกสาร สมุดโน้ต กระดาษใบเสร็จ จึงต้องมีพร้อมไว้ใช้งานอยู่เสมอเพื่อไม่ให้การทำงานชะงักล่าช้า 9. อุปกรณ์สำนักงานเบ็ดเตล็ดอุปกรณ์สำนักงานเพิ่มเติมอื่น ๆ ที่มีเอาไว้เพื่อใช้สำหรับการทำงานในแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเย็บกระดาษ ลวดเย็บกระดาษ ที่เจาะกระดาษ เทปกาว คลิปหนีบกระดาษ รวมถึงอุปกรณ์ตัดทั้งหลาย เช่น กรรไกร คัตเตอร์ แท่นตัดกระดาษ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ล้วนสำคัญมากเพื่อให้การทำงานดำเนินไปอย่างราบรื่น 10. อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ ปิดท้ายด้วยอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ทั้งหลาย เช่น คอมพิวเตอร์ เครื่องเคลือบกระดาษ เครื่องพิมพ์ เครื่องเข้าเล่มเอกสาร เครื่องทำลายเอกสาร ฯลฯ สำหรับใช้ทำงานเอกสาร เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น นี่คือทั้ง 10 อุปกรณ์สำนักงานที่ยืนยันว่าทุกออฟฟิศควรมีเอาไว้ใช้ ซึ่งออฟฟิศไหนกำลังมองหาตัวเลือกชั้นยอด สามารถเข้ามาดูได้ที่ Jenstore by Jenbunjerd ผู้จัดจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์สำนักงานหลากหลายชนิด การันตีคุณภาพ ครบจบในที่เดียว ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่ :ฝ่ายขาย : 02-096-9999 (200 คู่สาย)Email : [email protected]บริการลูกค้า : 02-096-9898 ext 3102-3103Email : [email protected] Official Account: @jenstoreFacebook : เจนสโตร์ - JenStore by Jenbunjerd

2024-05-07
ข้อดีของการใช้งานโต๊ะสแตนเลส มีมากกว่าที่หลายคนเคยรู้

ข้อดีของการใช้งานโต๊ะสแตนเลส มีมากกว่าที่หลายคนเคยรู้หนึ่งในประเภทของอุปกรณ์เครื่องใช้ที่พบเห็นได้บ่อยครั้งในชีวิตประจำวันต้องมีชื่อของ “โต๊ะสแตนเลส” แบบไม่ต้องสงสัย ด้วยสแตนเลส หรือเหล็กกล้าไร้สนิม มักเป็นวัสดุที่ถูกนำมาผลิตเป็นเครื่องใช้หลายประเภทไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเครื่องครัว จานชาม ช้อนส้อม หม้อ กระทะ ภาชนะต่าง ๆ อุปกรณ์ทางการแพทย์ รวมถึงโต๊ะอย่างที่กล่าวไป ซึ่งข้อดีของวัสดุประเภทนี้ก็มีด้วยกันอยู่หลายอย่างมากกว่าที่คุณอาจเคยรู้ ข้อดีของการใช้งานโต๊ะสแตนเลส1. ความแข็งแรงสแตนเลส หรือเหล็กกล้าไร้สนิม คือ วัสดุที่ผลิตขึ้นจากเหล็ก โครเมียม นิกเกิล และคาร์บอน จึงมีความแข็งแรงทนทานไม่ต่างจากเหล็กชนิดอื่น ๆ แต่มีน้ำหนักเบากว่า และยังสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะความสามารถในการรองรับของที่มีน้ำหนักซึ่งแม้แต่คนขึ้นไปนั่งก็ไม่เกิดความเสียหาย 2. ทนต่อสภาพแวดล้อมนอกจากความสามารถในการรับน้ำหนักสิ่งของต่าง ๆ แล้ว ด้วยกระบวนการผลิตวัสดุจึงปรากฏชั้นฟิล์มบาง ๆ เคลือบเหล็กด้านใน ทำให้มีคุณสมบัติกันน้ำ ไม่ก่อให้เกิดสนิมแม้ต้องเจอกับความชื้นสูง ทนความร้อนได้ดีเยี่ยม ทนการกัดกร่อนของกรด ด่าง สารเคมีหลายชนิด ยิ่งถ้าเป็นโต๊ะสแตนเลสเกรด 304 มั่นใจได้ว่าจะสามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน 3. ดูแลรักษาทำความสะอาดง่ายอีกจุดเด่นที่สำคัญของการเลือกใช้โต๊ะสแตนเลส คือ ในสแตนเลสจะมีการเพิ่มโครเมียมและนิกเกิล ทำให้ทนทานต่อความชื้น ไม่ก่อให้เกิดสนิม ดังนั้นแม้จะตากฝน หรืออยู่ในบริเวณพื้นที่ซึ่งมีความชื้นสูงก็ไม่เกิดความเสียหาย กรณีเกิดคราบสิ่งสกปรกต่าง ๆ ก็เช็ดล้างทำความสะอาดได้ง่าย แค่ใช้น้ำและน้ำยาทำความสะอาด โต๊ะสแตนเลสไม่มีปฏิกิริยากับกรด-ด่างของน้ำยาทำความสะอาดจึงไม่ต้องกังวลว่าโต๊ะจะเสียหายจากผลิตภัณฑ์เคมี 4. ดูดีมีระดับอีกข้อดีของการใช้โต๊ะประเภทนี้ คือ ความสวยงาม หรูหรา ด้วยดีไซน์แบบเฉพาะตัวมีความมันเงาเป็นสีเงิน แม้ใช้งานไปนาน ๆ ตัวสีก็ไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง โต๊ะสแตนเลสเหมาะกับการใช้ในห้องครัวเป็นอย่างมากเพราะนอกจากทำความสะอาดง่ายแล้วยังเข้ากับเครื่องครัวสแตนเลส ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดูสะอาดตา 5. โต๊ะสแตนเลสสามารถสั่งทำได้หากโต๊ะสแตนเลสที่มีขายทั่วไปยังไม่ตรงกับความต้องการ คุณสามารถสั่งผลิตได้เพื่อปรับรูปแบบ ขนาด หรือเพิ่มฟังก์ชั่นต่างๆให้ตรงกับการใช้งานของคุณได้ โดยการสั่งทำโต๊ะหรืออุปกรณ์สแตนเลส ควรพิจารณาเลือกร้านที่มีตัวอย่างผลงานเพื่อดูฝีมือของช่างและความประณีตของชิ้นงาน ที่สำคัญคือมีบริการหลังการขายที่รับประกันสินค้า รับซ่อม เคลม ให้ลูกค้ามั่นใจในคุณภาพและการใช้งานสินค้า โต๊ะสแตนเลส สามารถใช้งานแบบไหนได้บ้างโต๊ะสแตนเลสสามารถนำไปใช้งานได้อย่างหลากหลายตามจุดประสงค์ของผู้ใช้ ซึ่งตัวอย่างงานที่พบได้บ่อย ๆ มีดังนี้โรงอาหาร ร้านอาหาร เป็นพื้นที่ที่ทุกคนสามารถพบเจอโต๊ะสแตนเลสได้บ่อยครั้ง ช่วยให้บริเวณดังกล่าวดูหรูหรา สะอาดตา เช็ดล้างทำความสะอาดง่าย วางของร้อน-ของเย็นไม่มีปัญหาห้องทดลอง ห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ เป็นจุดที่ต้องพบเจอกับสารเคมี กรด-ด่าง และการกัดกร่อนต่าง ๆ อยู่ตลอด การใช้สแตนเลสจึงไม่ต้องกังวลเรื่องการเสื่อมสภาพ ความเสียหาย และอื่น ๆ โรงพยาบาล โต๊ะสแตนเลสนอกจากดูหรูหรา สวยงาม ยังสะดวกต่อการทำความสะอาด จัดการคราบสิ่งสกปรกต่าง ๆ ได้ง่าย ช่วยเพิ่มภาพลักษณ์ที่ดีให้กับสถานพยาบาลทุกแห่ง ผู้ป่วยสบายใจมากขึ้นโรงงานอุตสาหกรรม อีกสถานที่ในการพบเจอโต๊ะประเภทนี้ ซึ่งถูกนำไปใช้งานได้หลากหลายวัตถุประสงค์ ตั้งแต่การตั้งวางสิ่งของทั่วไป ตัวอย่างงาน วางงานหลังการผลิต หรือแม้แต่วางน้ำยาสารเคมี วิธีเลือกโต๊ะสแตนเลสให้ตอบโจทย์กับการใช้งาน1. ขนาดของโต๊ะที่ต้องการ การเลือกขนาดที่เหมาะสมจะทำให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีพื้นที่มากพอในการวางสิ่งของต่าง ๆ ซึ่งผู้ใช้สามารถสั่งทำโต๊ะสแตนเลสตามขนาดที่ต้องการได้ 2. คุณภาพของสแตนเลสที่ใช้ในการผลิตเกรดสแตนเลสในการผลิตมีความสำคัญมาก ส่วนใหญ่แล้วต้องเลือกสแตนเลสเกรด 304 เพราะแข็งแรง ทนทานต่อสภาพแวดล้อมทุกประเภท ไม่ต้องกังวลเรื่องความเสียหายใด ๆ 3. ฟังก์ชันเสริมอื่น ๆ อาจพิจารณาเพิ่มเติมจากฟังก์ชันเสริมอื่น ๆ ของโต๊ะ เช่น มีล้อเคลื่อนย้ายสะดวก มีชั้นวางด้านล่างเพิ่มประโยชน์ใช้สอย หรือพับเก็บได้เพื่อการประหยัดพื้นที่ เมื่อรู้ข้อดีและการใช้งานกันไปแล้วหากต้องการโต๊ะสแตนเลสมีคุณภาพสามารถเข้ามาดูได้ที่ Jenstore by Jenbunjerd นอกจากนี้ทางร้านยังรับทำโต๊ะสแตนเลสตามสั่งทุกขนาด ทุกดีไซน์ สนใจแบบไหนสามารถติดต่อเข้ามาได้เลย

2024-04-26
เครื่องมือวัดที่ใช้ในงานช่างหรือโรงงานอุตสาหกรรม

ในโลกของงานช่างและโรงงานอุตสาหกรรม "เครื่องมือวัด" เปรียบเสมือนกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ช่างผู้ชำนาญและวิศวกรผู้มากประสบการณ์ทำงานได้อย่างปลอดภัย แม่นยำ และมีประสิทธิภาพ บทความนี้จึงขอพาทุกท่านก้าวเข้าสู่โลกของเครื่องมือวัด เรียนรู้ประเภท การใช้งาน และวิธีเลือกเครื่องมือวัดให้เหมาะสมกับงานทั้งนี้ก่อนที่จะเข้าไปถึงเนื้อหา หลายคนอาจตั้งคำถามว่าทำไมเครื่องมือวัดจึงสำคัญ? ให้คุณลองจินตนาการว่าช่างจะสร้างบ้านได้อย่างไรหากไม่มีตลับเมตร? หรือวิศวกรจะออกแบบเครื่องยนต์ได้อย่างไรหากไม่มีไมโครมิเตอร์? ฉะนั้นเครื่องมือวัดจึงช่วยให้การทำงานมีความแม่นยำ ลดข้อผิดพลาด และสร้างผลงานที่มีคุณภาพ ประเภทของเครื่องมือวัดพื้นฐานสำหรับเครื่องมือวัดมีหลากหลายประเภท ซึ่งจะขึ้นอยู่กับลักษณะการวัด หัวข้อนี้นำเสนอประเภทของเครื่องมือวัดที่ใช้กันทั่วไป ดังนี้ แบ่งตามลักษณะการวัด โดยเครื่องมือวัดพื้นฐานสามารถแบ่งออกได้เป็น 5 ประเภทหลัก ได้แก่เครื่องมือวัดมิติ (Dimensional Measuring Instruments) ใช้สำหรับวัดขนาด ความยาว ความกว้าง ความสูง ความหนา เส้นผ่านศูนย์กลางของวัตถุ และเครื่องมือวัดที่เรารู้จักกันก็คงจะเป็นเวอร์เนียคาลิปเปอร์ ไมโครมิเตอร์ เครื่องวัดระยะเลเซอร์ ตลับเมตร เครื่องวัดมุม เป็นต้น เครื่องมือวัดทางไฟฟ้า (Electrical Measuring Instruments) ในส่วนนี้จะใช้สำหรับวัดค่าทางไฟฟ้า เช่น แรงดันไฟฟ้า กระแสไฟฟ้า ความต้านทาน กำลังไฟฟ้า อาทิ มัลติมิเตอร์ แคลมป์มิเตอร์ เครื่องวัดค่า pH เครื่องวัดออสซิลโลสโคปเครื่องมือวัดทางกลศาสตร์ (Mechanical Measuring Instruments) ใช้สำหรับวัดค่าทางกลศาสตร์ เช่น แรงดึง แรงบิด แรงอัด แรงเฉือน ความแข็ง ซึ่งชื่อเรียกอุปกรณ์ก็ถูกระบุตามการใช้งาน อาทิ เครื่องวัดแรงดึง เครื่องวัดแรงบิด เครื่องวัดความแข็งเครื่องมือวัดทางเคมี (Chemical Measuring Instruments) ใช้สำหรับวัดค่าทางเคมี เช่น ค่า pH ความหนาแน่น ความเข้มข้น สำหรับเครื่องมือทางเคมีอาจจะไม่เกี่ยวกันกับเครื่องมือวัดอุตสาหกรรม แต่ทั้งนี้รู้จักไว้ก็ไม่เสียหายเช่นกัน เครื่องมือวัดทางกายภาพ (Physical Measuring Instruments) ใช้สำหรับวัดค่าทางกายภาพ เช่น อุณหภูมิ ความดัน ความชื้น ระดับเสียง เทอร์โมมิเตอร์ เครื่องวัดความดัน เครื่องวัดความชื้น เครื่องวัดระดับเสียง ให้เห็นภาพง่าย ๆ คือ ถ้าไปหาหมอ คุณจะได้เจอกับเครื่องมือเหล่านี้แน่นอน แบ่งตามความละเอียด ลำดับแรกคือ เครื่องมือวัดความละเอียดสูง (High-Precision Measuring Instruments) โดยจะมีความแม่นยำสูง ละเอียด เหมาะกับงานที่ต้องการความแม่นยำสูง อย่างเช่น ไมโครมิเตอร์ เครื่องวัดระยะเลเซอร์ เครื่องวัดค่า pH เครื่องวัดความหนาแน่นส่วนเครื่องมือวัดความละเอียดต่ำ (Low-Precision Measuring Instruments) จะมีความแม่นยำปานกลาง ซึ่งจะเหมาะกับงานทั่วไป เช่น เวอร์เนียคาลิปเปอร์ ตลับเมตร เทอร์โมมิเตอร์ เครื่องวัดความดันสำหรับปัจจัยที่ส่งผลต่อความละเอียดของเครื่องมือวัด จะขึ้นอยู่กับหลักการทำงาน เพราะเครื่องมือวัดบางชนิดมีหลักการทำงานที่แม่นยำและเที่ยงตรงสำหรับการใช้งานโดยเฉพาะ ตัวอย่างเครื่องมือวัดในงานอุตสาหกรรมเวอร์เนียคาลิปเปอร์ (Vernier Caliper) ใช้สำหรับวัดขนาด ความยาว ความกว้าง ความสูง ความหนา เส้นผ่านศูนย์กลางของวัตถุ เหมาะสำหรับงานช่างทั่วไป ที่สำคัญมีทั้งแบบแอนะล็อกและดิจิทัล ไมโครมิเตอร์ (Micrometer) ใช้สำหรับวัดขนาดที่มีความละเอียดสูง เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความแม่นยำสูง มีทั้งแบบวัดนอก วัดใน และวัดลึก แต่ราคาอาจจะสูงกว่าเวอร์เนียคาลิปเปอร์มัลติมิเตอร์ (Multimeter) สำหรับมัลติมิเตอร์จะใช้สำหรับวัดค่าทางไฟฟ้า เช่น แรงดันไฟฟ้า กระแสไฟฟ้า ความต้านทาน กำลังไฟฟ้า ใช้ในงานช่างไฟฟ้า และมีทั้งแบบแอนะล็อกและดิจิทัลเช่นกัน เครื่องวัดระยะเลเซอร์ (Laser Distance Meter) ใช้สำหรับวัดระยะทางด้วยลำแสงเลเซอร์ เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความแม่นยำสูง เป็นเครื่องมือวัดที่ใช้งานง่าย แต่มีราคาค่อนข้างสูงเครื่องวัดความดัน (Pressure Gauge) เป็นเครื่องมือสำหรับวัดความดัน เหมาะสำหรับงานที่เกี่ยวข้องกับระบบแรงดัน มีหลายแบบ เช่น แบบเกจเข็ม แบบดิจิทัล ราคาจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับรุ่นและคุณสมบัติเครื่องวัดระดับ (Level Gauge) ใช้สำหรับวัดระดับของของเหลว เหมาะสำหรับงานที่เกี่ยวข้องกับถังเก็บของเหลว มีหลากหลายแบบ เช่น แบบทุ่นลอย แบบแม่เหล็ก ควรเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งาน เครื่องวัดอัตราการไหล (Flow Meter) ใช้สำหรับวัดอัตราการไหลของของเหลว เหมาะสำหรับงานที่เกี่ยวข้องกับระบบท่อ มีหลายแบบ เช่น แบบโรเตอร์ แบบอัลตราโซนิก เครื่องมือวัดเหล่านี้เป็นเพียงตัวอย่าง ยังมีเครื่องมือวัดอีกมากมายที่ใช้ในงานช่างและโรงงานอุตสาหกรรม การเลือกเครื่องมือวัดให้เหมาะสม ขึ้นอยู่กับประเภทของงาน ลักษณะของชิ้นงาน ความแม่นยำที่ต้องการ งบประมาณ และความสะดวกในการใช้งาน การเลือกใช้เครื่องมือวัดการเลือกใช้เครื่องมือวัดอุตสาหกรรมที่เหมาะสมนั้น มีหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณา ไม่ว่าจะเป็นประเภทของงาน โดยต้องพิจารณาว่าต้องการวัดอะไร? (มิติ ไฟฟ้า แรงดัน อุณหภูมิ ฯลฯ) ต้องการความแม่นยำมากน้อยแค่ไหน? และต้องการวัดชิ้นงานแบบไหน? (ขนาด รูปทรง วัสดุ) เป็นต้น ต่อมาจึงพิจารณาเรื่องคุณสมบัติของเครื่องมือวัด เช่น ช่วงการวัด (Range) ความละเอียด (Resolution) ความแม่นยำ (Accuracy) ฟังก์ชันการใช้งาน ความทนทาน ทั้งนี้ควรเลือกเครื่องมือวัดที่ได้รับรองตามมาตรฐานสากล เช่น ISO, DIN, ASTM มีใบรับรองการสอบเทียบจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ สุดท้ายแล้วการเลือกใช้เครื่องมือวัดที่เหมาะสม จะช่วยให้การทำงานปลอดภัย มีประสิทธิภาพ แม่นยำ และได้ผลลัพธ์ที่มีคุณภาพ เพื่อให้คุณทำงานได้อย่างมืออาชีพ มั่นใจทุกงานกับเครื่องมือวัดที่เชื่อถือได้ ครบครันทุกฟังก์ชัน ยกระดับงานช่างของคุณด้วยเครื่องมือวัดที่แม่นยำและทันสมัยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุน ช่างมืออาชีพเลือกใช้เครื่องมือวัดคุณภาพจากเรา ติดต่อเลย

2024-04-12
เครื่องมือวัดที่ใช้ในงานช่างหรือโรงงานอุตสาหกรรม

เครื่องมือวัดที่ใช้ในงานช่างหรือโรงงานอุตสาหกรรม ในโลกของงานช่างและโรงงานอุตสาหกรรม "เครื่องมือวัด" เปรียบเสมือนกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ช่างผู้ชำนาญและวิศวกรผู้มากประสบการณ์ทำงานได้อย่างแม่นยำ และมีประสิทธิภาพ บทความนี้จึงขอพาทุกท่านก้าวเข้าสู่โลกของเครื่องมือวัด เรียนรู้ประเภท การใช้งาน และวิธีเลือกเครื่องมือวัดให้เหมาะสมกับงานทั้งนี้ก่อนที่จะเข้าไปถึงเนื้อหา หลายคนอาจตั้งคำถามว่าทำไมเครื่องมือวัดจึงสำคัญ? ให้คุณลองจินตนาการว่าช่างจะสร้างบ้านได้อย่างไรหากไม่มีตลับเมตร? หรือวิศวกรจะออกแบบเครื่องยนต์ได้อย่างไรหากไม่มีไมโครมิเตอร์? ฉะนั้นเครื่องมือวัดจึงเป็นเครื่องมือช่างที่ช่วยให้การทำงานมีความแม่นยำ ลดข้อผิดพลาด และสร้างผลงานที่มีคุณภาพ ประเภทของเครื่องมือวัดพื้นฐานสำหรับเครื่องมือวัดมีหลากหลายประเภท ซึ่งจะขึ้นอยู่กับลักษณะการวัด หัวข้อนี้นำเสนอประเภทของเครื่องมือวัดที่ใช้กันทั่วไป ดังนี้ 1. แบ่งตามลักษณะการวัด โดยเครื่องมือวัดพื้นฐานสามารถแบ่งออกได้เป็น 5 ประเภทหลัก ได้แก่เครื่องมือวัดมิติ (Dimensional Measuring Instruments) ใช้สำหรับวัดขนาด ความยาว ความกว้าง ความสูง ความหนา เส้นผ่านศูนย์กลางของวัตถุ และเครื่องมือวัดที่เรารู้จักกันก็คงจะเป็นเวอร์เนียคาลิปเปอร์ ไมโครมิเตอร์ เครื่องวัดระยะเลเซอร์ ตลับเมตร เครื่องวัดมุม เป็นต้น เครื่องมือวัดทางไฟฟ้า (Electrical Measuring Instruments) ในส่วนนี้จะใช้สำหรับวัดค่าทางไฟฟ้า เช่น แรงดันไฟฟ้า กระแสไฟฟ้า ความต้านทาน กำลังไฟฟ้า อาทิ มัลติมิเตอร์ แคลมป์มิเตอร์ เครื่องวัดค่า pH เครื่องวัดออสซิลโลสโคปเครื่องมือวัดทางกลศาสตร์ (Mechanical Measuring Instruments) ใช้สำหรับวัดค่าทางกลศาสตร์ เช่น แรงดึง แรงบิด แรงอัด แรงเฉือน ความแข็ง ซึ่งชื่อเรียกอุปกรณ์ก็ถูกระบุตามการใช้งาน อาทิ เครื่องวัดแรงดึง เครื่องวัดแรงบิด เครื่องวัดความแข็งเครื่องมือวัดทางเคมี (Chemical Measuring Instruments) ใช้สำหรับวัดค่าทางเคมี เช่น ค่า pH ความหนาแน่น ความเข้มข้น สำหรับเครื่องมือทางเคมีอาจจะไม่เกี่ยวกันกับเครื่องมือวัดอุตสาหกรรม แต่ทั้งนี้รู้จักไว้ก็ไม่เสียหายเช่นกัน เครื่องมือวัดทางกายภาพ (Physical Measuring Instruments) ใช้สำหรับวัดค่าทางกายภาพ เช่น อุณหภูมิ ความดัน ความชื้น ระดับเสียง เทอร์โมมิเตอร์ เครื่องวัดความดัน เครื่องวัดความชื้น เครื่องวัดระดับเสียง ให้เห็นภาพง่าย ๆ คือ ถ้าไปหาหมอ คุณจะได้เจอกับเครื่องมือเหล่านี้แน่นอน 2. แบ่งตามความละเอียด ลำดับแรกคือ เครื่องมือวัดความละเอียดสูง (High-Precision Measuring Instruments) โดยจะมีความแม่นยำสูง ละเอียด เหมาะกับงานที่ต้องการความแม่นยำสูง อย่างเช่น ไมโครมิเตอร์ เครื่องวัดระยะเลเซอร์ เครื่องวัดค่า pH เครื่องวัดความหนาแน่น ส่วนเครื่องมือวัดความละเอียดต่ำ (Low-Precision Measuring Instruments) จะมีความแม่นยำปานกลาง ซึ่งจะเหมาะกับงานทั่วไป เช่น เวอร์เนียคาลิปเปอร์ ตลับเมตร เทอร์โมมิเตอร์ เครื่องวัดความดัน สำหรับปัจจัยที่ส่งผลต่อความละเอียดของเครื่องมือวัด จะขึ้นอยู่กับหลักการทำงาน เพราะเครื่องมือวัดบางชนิดมีหลักการทำงานที่แม่นยำและเที่ยงตรงสำหรับการใช้งานโดยเฉพาะ ตัวอย่างเครื่องมือวัดในงานอุตสาหกรรม 1. เวอร์เนียคาลิปเปอร์ (Vernier Caliper)เวอร์เนียคาลิปเปอร์มีลักษณะเหมือนไม้บรรทัดมีหัววัดปรับเลื่อนได้ ใช้สำหรับวัดขนาด ความยาว ความกว้าง ความสูง ความหนา เส้นผ่านศูนย์กลางของวัตถุ สามารถใช้วัดได้ทั้งภายนอกและภายในวัตถุ มีสเกลการวัดที่ละเอียดอ่านค่าได้ทั้งเป็นมิลลิเมตรและนิ้ว มีทั้งแบบแอนะล็อกและดิจิทัล ใช้งานได้หลากหลายแบบ เช่น การวัดขนาดของชิ้นงาน ตรวจสอบคุณภาพการผลิต การขยายตัวของโลหะในการทดลอง 2. เครื่องมือตรวจหากระแสไฟฟ้า (Electronic test and measurement)อุปกรณ์สำหรับใช้การตรวจหากระแสไฟฟ้า ตรวจเช็คระบบไฟฟ้า ตรวจหาจุดไฟฟ้ารั่ว ซึ่งอุปกรณ์สพหรับตรวจหากระแสไฟฟ้ามีหลายชนิด อย่างเช่น แคลมป์มิเตอร์ ที่สามารถวัดสระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านสายไฟโดยไม่ต้องหยุดการทำงาน สามารถตรวจหาไฟฟ้ารั่วได้อย่างแม่นยำ ตัวเครื่องมีลักษณะเป็นด้ามจับแล้วมีปากคีบสำหรับใช้ในการวัดต่างๆปากกาวัดไฟ เป็นอุปกรณ์สำหรับตรวจว่าบริเวณนั้นมีกระแสไฟฟ้ารั่วไหลหรือไม่ ใช้ตรวจสอบก่อนตรวจเครื่องจักรหรืออุปกรณ์ต่างๆเพื่อความปลอดภัยว่าไม่มีไฟฟ้ารั่ว เป็นอุปกรณ์สามัญสำหรับช่างไฟฟ้า มีขนาดกระทัดรัดพกพาง่าย 3. มัลติมิเตอร์ (Multimeter)สำหรับมัลติมิเตอร์จะใช้สำหรับวัดค่าทางไฟฟ้ามีทั้งแบบแอนะล็อกและดิจิทัล ใช้ในการวัดทางไฟฟ้าได้หลากหลาย เช่น แรงดันไฟฟ้า กระแสไฟฟ้า ความต้านทาน กำลังไฟฟ้า ความต่างศักย์ สามารถใช้ได้ทั้งไฟฟ้ากระแสตรงและกระแสสลับ บางเครื่องอาจสะสามารถวัดค่าอื่นๆได้อีกตามความสามารถของเครื่องหรือรุ่นที่ใช้งาน มัลติมิเตอร์มักใช้ในงานไฟฟ้า งานอุตสาหกรรม งานอิเล็กทรอนิกส์ ที่ต้องการความละเอียดสูงมาก 4. เครื่องวัดระยะเลเซอร์ (Laser Distance Meter)ใช้สำหรับวัดระยะทางด้วยลำแสงเลเซอร์ โดยใช้หลักการการยิงเลเซอร์ไปที่เป้าหมายแล้ววัดสัญญาณที่สะท้อนกลับมา ทำให้การวัดมีความแม่นยำมาก นอกจากนี้ยังสามารถวัดพื้นที่และปริมาตรได้ด้วย เครื่องวัดระยะเลเซอร์จึงเหมาะกับงานที่ต้องการความแม่นยำมากๆ เช่น การติดตั้งเครื่องจักร การก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่ 5. ฟิลเลอร์เกจ (Feeler gauge)ฟิลเลอร์เกจ หรือ เกจวัดความหนา เป็นเครื่องมือสำหรับวัดความหน้าระหว่างช่องว่างของวัตถุที่ประกบกัน เช่น ช่องว่างระหว่างแผ่นเหล็ก นอกจากนี้ยังสามารถใช้ตรวจสอบการแอ่นและการโก่งของแผ่นเหล็กได้ โดยวิธีการใช้งานจะใช้ใบเกจสอดเขาไประหว่างช่องว่างจนใส่เข้าไปไม่ได้อีกแล้ววัดค่าที่ได้ 6. เครื่องวัดระดับ (Precision Level)เครื่องวัดระดับหรืออาจจะเรียกว่าไม้วัดระดับน้ำ มีลักษณะเป็นกล่องสี่เหลี่ยมภายในเป็นหลอดใสมีน้ำและฟองอากาศ เป็นเครื่องสำหรับใช้ตรวจความเอียงของพื้นที่ สามารถตรวจสอบได้ทั้งในแนวราบและแนวดิ่ง มักใช้ในงานติดตั้งอุปกรณ์เครื่องจักร งานก่อสร้าง การทำถนน 7. เครื่องวัดความเร็วรอบ (Tachometer)เครื่องวัดความเร็วรอบ เป็นอุปกรณ์ที่ใช้วัดความในการหมุนของวัตถุ เช่น การวัดรอบการหมุนของ เครื่องจักร เครื่องยนต์ มอเตอร์ เครื่องวัดความเร็วรอบมีทั้งแบบแอนะล็อกและดิจิทัล นอกจากนี้ยังมีแบบสัมผัสกับไม่สัมผัส 8. เครื่องวัดอุณหภูมิและความชื้น (Temperature Humidity Meter)ใช้ในการวัดอุณหภูมิและความชื้นของสิ่งต่างๆ ซึ่งเครื่องวัดอุณหภูมินั้นมีหลายชนิด เช่น เครื่องวัดอุณหภูมิอินฟาเรด เครื่องวัดอุณหภูมิดิจิทัล กล้องภาพภาพความร้อน ซึ่งเครื่องวัดอุณหภูมิและความชื้นถูกใช้ในงานที่หลากหลาย เช่น การวัดอุณภูมิเครื่องจักรไม่ให้ร้อนเกิน การวัดอุณภูมิของโรงงานให้เหมาะแก่การทำงานของพนักงาน การวัดอุณหภูมิในห้องเก็บสารเคมีหรือในอุตสาหกรรมอาหาร เครื่องมือวัดเหล่านี้เป็นเพียงตัวอย่าง ยังมีเครื่องมือวัดอีกมากมายที่ใช้ในงานช่างและโรงงานอุตสาหกรรม การเลือกเครื่องมือวัดให้เหมาะสม ขึ้นอยู่กับประเภทของงาน ลักษณะของชิ้นงาน ความแม่นยำที่ต้องการ งบประมาณ และความสะดวกในการใช้งาน การเลือกใช้เครื่องมือวัดการเลือกใช้เครื่องมือวัดอุตสาหกรรมที่เหมาะสมนั้น มีหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณา ไม่ว่าจะเป็นประเภทของงาน โดยต้องพิจารณาว่าต้องการวัดอะไร? (มิติ ไฟฟ้า แรงดัน อุณหภูมิ ฯลฯ) ต้องการความแม่นยำมากน้อยแค่ไหน? และต้องการวัดชิ้นงานแบบไหน? (ขนาด รูปทรง วัสดุ) เป็นต้น ต่อมาจึงพิจารณาเรื่องคุณสมบัติของเครื่องมือวัด เช่น ช่วงการวัด (Range) ความละเอียด (Resolution) ความแม่นยำ (Accuracy) ฟังก์ชันการใช้งาน ความทนทาน ทั้งนี้ควรเลือกเครื่องมือวัดที่ได้รับรองตามมาตรฐานสากล เช่น ISO, DIN, ASTM มีใบรับรองการสอบเทียบจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ สุดท้ายแล้วการเลือกใช้เครื่องมือวัดที่เหมาะสม จะช่วยให้การทำงานปลอดภัย มีประสิทธิภาพ แม่นยำ และได้ผลลัพธ์ที่มีคุณภาพ เพื่อให้คุณทำงานได้อย่างมืออาชีพ มั่นใจทุกงานกับเครื่องมือวัดที่เชื่อถือได้ ครบครันทุกฟังก์ชัน ยกระดับงานช่างของคุณด้วยเครื่องมือวัดที่แม่นยำและทันสมัยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุน ช่างมืออาชีพเลือกใช้เครื่องมือวัดคุณภาพจาก Jenstore นอกจากเครื่องมือวัดยังมีเครื่องมือช่างอื่นๆ เช่น เครื่องมือไฟฟ้า เครื่องมือเชื่อมและตัด เครื่องมือลม สามารถเข้ามาเลือกดูได้

2024-04-11
หมวกนิรภัย หมวกเซฟตี้ มีกี่ประเภท เหมาะกับการใช้งานแบบไหน

การทำงานในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ หมวกนิรภัยคืออุปกรณ์สำคัญที่ผู้ปฏิบัติงานทุกคนจำเป็นต้องสวมใส่เพื่อป้องกันอันตรายบริเวณศีรษะ อย่างไรก็ตามหมวกนิรภัยนั้นมีหลายแบบ การเลือกใช้หมวกนิรภัยให้เหมาะกับลักษณะการทำงานจะยิ่งช่วยลดความเสี่ยงได้อีกมาก ประเภทของหมวกนิรภัยที่ใช้งานในปัจจุบัน1. หมวกนิรภัย ชนิด Class Gหมวกนิรภัยประเภทแรกใช้สวมใส่เพื่อป้องกันอันตรายจากไฟฟ้าแรงดันต่ำ คุณสมบัติสำคัญคือสามารถต้านทานแรงดันไฟฟ้ากระแสสลับไม่ต่ำกว่า 2,200 โวลต์ ระดับความถี่ 50 Hz ได้ 1 นาที ค่าเฉลี่ยการกระแทกส่งผ่านต้องไม่เกิน 3,781 นิวตัน สามารถรับแรงกระแทกสูงสุดได้ไม่เกิน 4,448 นิวตัน ทนต่อแรงเจาะหรือรอยเจาะ ได้ลึกไม่เกิน 10 มม. หมวกนิรภัยชนิดนี้นิยมใช้กับงานก่อสร้าง งานเดินระบบไฟฟ้าทั่วไป2. หมวกนิรภัย ชนิด Class Eหมวกนิรภัยประเภทต่อมาจะนิยมสวมใส่เพื่อป้องกันอันตรายจากไฟฟ้าแรงดันสูง ลดความเสี่ยงในการได้รับอันตรายที่อาจถึงแก่ชีวิต ทำหน้าที่ต้านทานแรงดันไฟฟ้ากระแสสลับไม่ต่ำกว่า 20,000 โวลต์ ระดับความถี่ 50 Hz ได้ 3 นาที ค่าเฉลี่ยการกระแทกส่งผ่านต้องไม่เกิน 3,781 นิวตัน สามารถรับแรงกระแทกสูงสุดได้ไม่เกิน 4,448 นิวตัน ทนต่อแรงเจาะหรือรอยเจาะ ได้ลึกไม่เกิน 10 มม. หมวกนิรภัยชนิดนี้นิยมใช้กับงานเดินระบบไฟฟ้าแรงสูง หรือพื้นที่ซึ่งมีการติดตั้ง ซ่อมแซมไฟฟ้าแรงสูง3. หมวกนิรภัย ชนิด Class Cหมวกนิรภัยประเภทนี้ไม่มีคุณสมบัติในการทนแรงดันไฟฟ้า เพราะผลิตจากวัสดุในกลุ่มโลหะ ค่าเฉลี่ยการกระแทกส่งผ่านต้องไม่เกิน 3,781 นิวตัน สามารถรับแรงกระแทกสูงสุดได้ไม่เกิน 4,448 นิวตัน ทนต่อแรงเจาะหรือรอยเจาะ ได้ลึกไม่เกิน 10 มม. หมวกนิรภัยชนิดนี้นิยมใช้กับงานในกลุ่มโรงกลั่นน้ำมัน หรืองานประเภทการขุดเจาะน้ำมันต่าง ๆ4. หมวกนิรภัย ชนิด Class Dหมวกนิรภัยประเภทสุดท้าย แม้ไม่ได้ทนต่อแรงดันไฟฟ้าแต่มีคุณสมบัติเด่นเรื่องการทนความร้อนสูงเพราะผลิตจากพลาสติกหรือไฟเบอร์กลาส ไม่ลามไฟ และบางครั้งหากติดไฟไม่รุนแรงก็สามารถดับเองได้ ค่าเฉลี่ยการกระแทกส่งผ่านต้องไม่เกิน 3,781 นิวตัน สามารถรับแรงกระแทกสูงสุดได้ไม่เกิน 4,448 นิวตัน ทนต่อแรงเจาะหรือรอยเจาะ ได้ลึกไม่เกิน 10 มม. ด้วยคุณสมบัติดังกล่าวหมวกนิรภัยชนิดนี้จึงนิยมใช้กับงานประเภทดับเพลิง งานเหมือง เป็นต้นข้อมูลเพิ่มเติมที่ควรรู้เกี่ยวกับหมวกนิรภัยโดยเฉลี่ยแล้วหมวกนิรภัยทุกประเภทหากผลิตได้ตามมาตรฐานสามารถใช้งานได้ยาวนานระดับ 3-5 ปีก่อนการใช้งานทุกครั้งต้องมีการตรวจสอบคุณภาพของหมวกเสมอ กรณีเจอรอยแตกร้าว หรือรอยถลอกต้องเปลี่ยนใบใหม่ทันที อย่าฝืนใช้งานหมวกใบดังกล่าวเป็นอันขาด เพราะอุปกรณ์ที่เสียหายจะมีคุณสมบัติในการป้องกันลดลงและเพิ่มความเสี่ยงต่อตัวผู้ใช้งานหลีกเลี่ยงการวางหมวกนิรภัยเอาไว้บริเวณที่มีแสงแดดส่องถึง หรือพื้นที่มีฝนตก เพื่อคงคุณสมบัติในการใช้งานให้เกิดประสิทธิภาพอยู่เสมอ แนะนำให้เก็บไว้ในตู้หรือบริเวณพื้นที่ร่มทั่วไปจะดีที่สุดในการทำความสะอาดหมวกนิรภัยเพียงแค่เช็ดด้วยผ้าแห้งหรือผ้าชุบน้ำหมาด ๆ ตามด้วยผ้าแห้งอีกรอบก็เพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำยาทำความสะอาดหรือสารเคมีใดทั้งสิ้น เพราะอาจทำให้ตัววัสดุลดประสิทธิภาพการป้องกันลงได้นอกจากหมวกนิรภัยแล้วควรเลือกใช้อุปกรณ์ความปลอดภัยหรือ PPE สำหรับส่วนอื่นๆของร่างกายด้วยเมื่อต้องอยู่ในพื้นที่อันตราย การใช้งานหมวกนิรภัยและอุปกรณ์ความปลอดภัยป้องกันร่างกายต่างๆเป็นเรื่องสำคัญอย่างมากที่ไม่อาจมองข้าม เพราะความประมาทแม้เพียงเล็กน้อยอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตได้ ดังนั้นการเลือกใช้หมวกนิรภัยและ PPE ให้ตรงกับการใช้งาน จะสามารถช่วยป้องกันได้มากขึ้น สามารถเข้ามาเลือกซื้ออุปกรณ์ป้องกัน อุปกรณ์เซฟตี้ได้ที่ Jenstore

2024-03-04
ถังดับเพลิงสีเขียว คืออะไร มีคุณสมบัติอย่างไร

“ถังดับเพลิง” ถือเป็นอุปกรณ์ความปลอดภัยที่มีความสำคัญอย่างมาก แทบทุกพื้นที่ต้องทำการติดตั้งเอาไว้เพื่อใช้ระงับเหตุไม่คาดฝันเกี่ยวกับอัคคีภัยหรือไฟไหม้ อย่างไรก็ตามชนิดของถังดับเพลิงที่หลายคนคุ้นตามักเป็นสีแดง แต่ในความเป็นจริงยังมีถังดับเพลิงอีกหลายสี ไม่ว่าจะเป็นสีขาว สีฟ้า สีเงิน สีเขียว ซึ่งถังดับเพลิงสีเขียวคือ ถังดับเพลิงอีกประเภทที่ได้รับความนิยมและถูกใช้งานบ่อยครั้ง แต่ความเป็นจริงแล้วเพลิงไหม้มีหลายประเภทจากการเผาไหม้วัสดุที่แตกต่างกัน ตั้งแต่เพลิงไหม้จากวัสดุทั่วไป สารอันตรายและของเหลวไวไฟ อุปกรณ์อิเล็คทรอนิคส์ โลหะติดไฟได้ และเพลิงไหม้จากการประกอบอาหาร เป็นต้น มาดูกันว่าถังดับเพลิงสีเขียว คืออะไร แตกต่างจากถังดับเพลิงประเภทอื่นอย่างไร เมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินจะได้ใช้งานอย่างถูกต้องตอบข้อสงสัย ถังดับเพลิงสีเขียว คืออะไรถังดับเพลิงสีเขียว คือ ถังดับเพลิงที่บรรจุน้ำยาเหลวระเหย หรือ Clean Agent ซึ่งมีความสะอาด ปราศจากสี สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ส่งผลกระทบต่อตัวบุคคลและสิ่งแวดล้อม เนื่องจากเมื่อมีการใช้งาน สารดังกล่าวจะระเหยหายไปในอากาศทันทีจึงไม่หลงเหลือคราบตกค้างใด ๆถังดับเพลิงสีเขียวเป็นหนึ่งในประเภทของถังดับเพลิงสำหรับใช้ระงับเหตุไฟไหม้และอัคคีภัยที่มีสาเหตุจากเพลิงไหม้ชนิด A, B และ C ซึ่งเพลิงไหม้แต่ละชนิด มีความหมายดังนี้เพลิงไหม้ชนิด A มีสาเหตุจากเชื้อเพลิงทั่วไป เช่น ไม้ กระดาษ ผ้า พลาสติก ติดไฟง่าย พบเจอได้ทั่วไปเพลิงไหม้ชนิด B มีสาเหตุจากของเหลวติดไฟได้ เช่น น้ำมันเบนซิน น้ำมันก๊าด น้ำมันหล่อลื่น สารอันตรายและของเหลวไวไฟวัตถุไวไฟทั้งหลาย ส่วนมากมักอยู่ในบริเวณโรงงานอุตสาหกรรมหลายประเภทเพลิงไหม้ชนิด C มีสาเหตุจากอุปกรณ์ที่มีกระแสไฟฟ้าไหลเวียนอยู่ หรืออธิบายง่าย ๆ คือ เพลิงไหม้จากกลุ่มไฟฟ้าลัดวงจร ไฟรั่ว จุดเด่นของถังดับเพลิงสีเขียวจากคำอธิบายข้างต้น จะสังเกตเห็นว่าถังดับเพลิงสีเขียว มีคุณสมบัติเด่นที่แตกต่างจากถังดับเพลิงประเภทอื่นคือการใช้น้ำยาเหลวระเหย ไม่ทิ้งคราบตกค้าง ไม่สร้างมลพิษหรือผลกระทบกับสิ่งของโดยรอบ นั่นทำให้ส่วนใหญ่มักพบเจอถังดับเพลิงดังกล่าวติดตั้งไว้ตามบริเวณพื้นที่ที่มีทรัพย์สินมูลค่าสูง เช่น เครื่องจักรในโรงงาน ห้องเซิร์ฟเวอร์ ตู้เซฟธนาคาร ห้องทดลอง ฯลฯ เมื่อต้องใช้งาน สารที่ฉีดพ่นออกมาจะไม่เป็นกรด ไม่เกิดคราบ ไม่ทำให้ทรัพย์สินเสียหายมากกว่าเดิมชนิดของถังดับเพลิงสีเขียวที่ใช้งานในปัจจุบัน1. ถังดับเพลิงสีเขียวชนิดฮาโลตรอน (Halotron)น้ำยาฮาโลตรอนจัดอยู่ในกลุ่มน้ำยาเหลวระเหยที่มีสาร HCFC-123 เป็นส่วนประกอบหลัก แม้ไม่มีสี ไม่ติดไฟ แต่มีผลกระทบโดยตรงกับชั้นบรรยากาศของโลกรวมถึงภาวะเรือนกระจก เดิมทีจะถูกใช้งานเพื่อทดแทนสารฮาลอน 1211 ทว่าด้วยวิวัฒนาการทางเทคโนโลยี หลายประเทศทั่วโลกต่างพยายามลดการใช้งานถังดับเพลิงสีเขียวชนิดนี้ ซึ่งประเทศไทยจะหยุดการนำเข้าจากอเมริกาในปี 20302. ถังดับเพลิงสีเขียวชนิดน้ำยาเหลวระเหย HFC-236faน้ำยาเหลวระเหย HFC-236fa จัดอยู่ในกลุ่มน้ำยาสะอาด ไม่เกิดคราบ ไม่เป็นกรด ไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้งานและสิ่งแวดล้อม มีความเป็นพิษต่ำมาก ผ่านการรับรองมาตรฐาน UL-Listed Standard ส่วนมากมักติดตั้งไว้ในบริเวณที่มีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น ห้องเซิร์ฟเวอร์ ห้องคอมพิวเตอร์ ห้องควบคุมไฟฟ้า หากต้องฉีดเพื่อดับเพลิงสามารถทำความสะอาดได้ง่ายและไม่ส่งผลเสียหายต่ออุปกรณ์โดยรอบ3. ถังดับเพลิงสีเขียวชนิดน้ำยาเหลวระเหย BF2000ถังดับเพลิงสีเขียวชนิดนี้ภายในมีการบรรจุน้ำยาเหลวระเหยประเภท NON CFC เนื่องจากเพลิงไหม้จะขยายความรุนแรงตามปริมาณออกซิเจนโดยรอบต้นเพลิง ฉะนั้นสารดังกล่าวจะเข้าไปแทนที่ออกซิเจนเพื่อตัดการไหลเวียนของอากาศบริเวณที่กำลังเกิดเพลิงไหม้ น้ำยาเหลวระเหยชนิดนี้ ถือว่าเป็นสารสะอาด ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่ทิ้งคราบ และยังไม่มีผลกระทบใด ๆ กับผู้ใช้งานและสิ่งแวดล้อม นิยมใช้กับทุกพื้นที่ตั้งแต่บ้านเรือน โรงงาน โรงพยาบาล โรงเรียน ไปจนถึงหน่วยงานต่าง ๆ ถังดับเพลิงเป็นอุปกรณ์ป้องกันอัคคีภัยที่จำเป็นอย่างมาก ช่วยเพิ่มความปลอดภัยหากเกิดเหตุเพลิงไหม้ แต่จะดีกว่ามากหากมีการจัดเก็บวัตถุไวไฟหรือวัตถุอันตรายไว้ใน ตู้เก็บสารอันตรายหรือสารไวไฟ ซึ่งเป็นการป้องกันและลดความเสี่ยงการเกิดอัคคีภัยตั้งแต่ต้น ถ้าต้องการถังดับเพลิงและตู้เก็บสารอันตรายสามารถเข้ามาเลือกซื้อได้ที่ Jenstore จำหน่ายอุปกรณ์ดับเพลิงป้องกันอัคคีภัย เช่น ถังดับเพลิง ผ้าห่มกันไฟ ป้ายทางหนีไฟ อุปกรณ์ป้องกันและจัดเก็บสารเคมี และสินค้าในการดำเนินธุรกิจอีกกว่า 10,000 รายการ

2024-03-04
การใช้บันไดอย่างปลอดภัย ลดการเกิดอันตรายต่อตนเองและคนรอบข้าง

อุปกรณ์อย่างบันไดถือเป็นเครื่องมือช่างที่มีความสำคัญอย่างมากโดยเฉพาะกับงานก่อสร้าง ซ่อมแซม หรือแม้แต่การต่อเติม งานที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่สูงต่าง ๆ การใช้บันไดอลูมิเนียมหรือบันไดต่างๆ อย่างปลอดภัยจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกคนไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด ลดโอกาสเสี่ยงต่ออันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเวลา หากโชคไม่ดีอาจถึงขั้นพิการและเสียชีวิตกันเลยทีเดียว ซึ่งการใช้บันไดที่ดีต้องเป็นยังไงบ้าง ขอพาทุกคนมาหาข้อมูลกันเลยประเภทบันไดที่นิยมใช้ในงานช่างบันไดเองก็มีหลายชนิดตามลักษณะการใช้งาน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นบันไดอลูมิเนียม เพราะเป็นวัสดุที่แข็งแรง ทนทาน และน้ำหนักเบาช่วยให้เคลื่อนย้ายบันไดได้ง่าย แต่บันไดที่ผลิตจากวัสดุอื่นก็มี เช่น เหล็ก สแตนเลส ไฟเบอร์กลาส 1. บันไดทรงเอ (Step Ladder)ลักษณะบันไดเมื่อกางตั้งออกมาแล้วจะคล้ายกับอักษร A มีขาวางตั้งบนพื้น 2 ข้าง (4 ขา) กางออกจากกัน มักเป็นบันไดอลูมิเนียม ถือเป็นประเภทบันไดที่พบเจอได้บ่อยมากเพราะสะดวกต่อการใช้ เคลื่อนย้ายง่าย ไม่จำเป็นต้องมีผนังใด ๆ สำหรับพาด ทว่าหากมีการใช้ระดับสูงมากก็ต้องระวังอันตรายอยู่พอสมควร2. บันไดยืด (Extension Ladder)บางคนจะคุ้นชินกับคำว่า “บันไดพาด” ซึ่งความหมายก็ไม่แตกต่างกัน ลักษณะจะเป็นบันไดอลูมิเนียมแบบท่อนเดียวตรง แต่ละขั้นจะถูกยึดไว้กับขาบันไดแค่ 2 ฝั่ง การใช้งานต้องพาดบนผนังเป็นหลัก ยกเว้นบางกรณีที่ต้องพาดระหว่างทาง 2 ฝั่ง สำหรับใช้เดินข้าม (แต่ไม่นิยมให้ทำหากไม่ใช่สถานการณ์ฉุกเฉินเพราะอันตรายมาก) มักมีความยาวเพื่อการใช้งานบนที่สูงมาก ๆ จากพื้น3. บันไดสเต็ป (Step Stool)เป็นบันไดที่มีจำนวนขั้นไม่มากอยู่ที่ 2 - 3 ขั้นเท่านั้น เพื่อใช้งานในการหยิบสิ่งของที่ไม่สูงมากนัก มักใช้งานในลักษณะ หยิบหนังสือในห้องสมุด หยิบสิ่งของบนชั้นวาง บันไดสเต็ปมีทั้งแบบบันไดอลูมิเนียม พลาสติก เหล็ก ไม้ ให้เลือกใช้งานตามความเหมาะสม4. บันไดไฟเบอร์กลาส (Fiberglass Ladder)เป็นบันไดที่ผลิตจากไฟเบอร์กลาส มีคุณสมบัติในการไม่นำไฟฟ้าและทนความร้อนได้สูง บันไดไฟเบอร์กลาสจึงเหมาะสมกับงานที่มีความเกี่ยวข้องกับไฟฟ้า เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ บันไดไฟเบอร์กลาสจะมีราคาสูงกว่าบันไดอลูมิเนียม5. บันได 4 ท่อน (Multi-Purpose Ladder)บางคนอาจจะเรียกว่า บันไดอเนกประสงค์ เพราะ บันได 4 ท่อน เป็นบันไดอลูมิเนียมที่ใช้งานได้หลากหลาย โดยตัวบันไดจะเป็นบันไดพับเป็น 4 ท่อน เมื่อกางออกก็จะได้บันไดที่มีความยาวมาก สามารถนำกางออกเป็นบันไดทรง บันไดพาด หรือ บันไดนั่งร้านก็ได้ และเมื่อไม่ใช้งานหรือต้องการเคลื่อนย้ายก็พับเก็บทำให้ใช้งานได้สะดวกความปลอดภัยในการใช้บันไดเบื้องต้นความปลอดภัยในการใช้บันไดเรื่องแรกต้องตั้งบันไดให้อยู่บนพื้นที่สามารถรองรับน้ำหนักได้ดี แข็งแรง เรียบเสมอกัน หรือไม่มีขาบันไดข้างหนึ่งเอนเอียง ลองจับก่อนปีนขึ้นไปแล้วต้องไม่โยกเยกแต่งตัวให้เหมาะสม พยายามไม่มีสิ่งของมากเกินจำเป็น และสวมเสื้อผ้าที่กระชับกับตัว พยายามอย่าให้มีช่องหรือตะขอไปเกี่ยวขณะอยู่บนบันไดทุกครั้งที่ไต่ขึ้น-ลงบันไดต้องมีสมาธิ สายตา ขา มือ เท้า ต้องประสานการทำงานอย่างลงตัว พยายามจับราวบันไดให้แน่นแต่อย่าทิ้งน้ำหนักมากเกิน เพิ่มความมั่นคงให้กับบันไดด้วยการใช้งานบันไดไม่ว่าบันไดแบบไหนก็ตาม ควรขึ้น-ลงไม่เกินครั้งละ 1 คน หรือไม่เกินการรองรับน้ำหนักมาตรฐานที่ตัวบันไดสามารถทำได้การยืนทำงานบนบันไดเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำโดยเฉพาะกับพื้นที่สูง ควรประเมินลักษณะงานให้ดีถ้าต้องยืนจริง ๆ ก็ไม่ควรเกิน 15-20 นาที การใช้บันไดอย่างปลอดภัยต้องไม่มีการเล่น หยอกล้อ หรือกลั่นแกล้งกันในระหว่างที่มีคนหนึ่งปีนอยู่บนบันไดเป็นอันขาดตรวจสอบสภาพของบันไดก่อนใช้งานว่ายังคงรองรับน้ำหนักได้ตามปกติ ไม่มีจุดไหนแตกหัก มีรอยร้าวเสียหาย หากพบการชำรุดต้องรีบซ่อมแซมหรือเปลี่ยนใหม่ทันทีอย่าฝืนใช้งานเป็นอันขาดอย่าปีนขึ้นไปชั้นบนสุดของบันไดไม่ว่าจะเป็นบันไดประเภทไหนก็ตาม เพราะการปีนดังกล่าวนั่นหมายถึงคุณจะไม่มีที่ยึดจับใด ๆ ให้กับมือของตนเองแล้วรูปแบบการทำงานขณะใช้บันไดต้องมีความปลอดภัยสูง เช่น ไม่มีการเอื้อมมือ เอื้อมตัวออกห่างจากบันได ไม่แบกของหนัก การเคลื่อนไหวตัวเร็ว ๆ เมื่ออยู่บนบันไดขั้นสูง หรือใช้แรงเยอะ ๆ ขณะที่กำลังอยู่บนบันได เป็นต้นกรณีใช้บันไดทรงเอห้ามพับเก็บให้ 2 ด้านชิดกันแล้วพาดผนังทำเหมือนการปีนบันไดยืดเด็ดขาด เพราะโอกาสที่ตัวบันไดจะรับน้ำหนักไม่ไหวและล้มมีสูงมากด้วยการออกแบบไม่ได้ถูกทำมาเพื่อใช้ในลักษณะดังกล่าวหากต้องปีนบันไดขั้นสูงมาก ๆ ไม่แนะนำให้ทำงานเพียงลำพังด้วยตนเองคนเดียว เพราะกรณีเกิดเรื่องไม่คาดฝันก็ยังมีเพื่อนคอยดูแลนี่ถือเป็นวิธีง่าย ๆ ในการใช้บันไดอลูมิเนียมหรือบันไดต่างๆ อย่างปลอดภัยสำหรับทุกคน ไม่ใช่แค่ช่างหรือคนที่ต้องทำงานด้วยการปีนขึ้นไปบนที่สูงเท่านั้น แต่คนทั่วไปที่นาน ๆ ต้องใช้บันไดสักครั้งก็อย่ามองข้ามความปลอดภัยของการใช้บันไดเป็นอันขาด เพราะถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาแล้วย่อมไม่ใช่เรื่องดีแน่ ๆ เจ็บตัว เสียเงินค่ารักษาพยาบาล เสียเวลา บางคนอาจถึงขั้นโชคร้ายพิการและเสียชีวิตได้เลย ปลอดภัยไว้ก่อนคำนี้ยังคงใช้งานได้อย่างดีเยี่ยมเสมอ หากสนใจบันไดประเภทต่างๆทั้ง บันไดอลูมิเนียม บันได 4 ท่อน บันไดทรงเอ สามารถเข้ามาดูได้ที่ Jenstore มีบันไดหลากหลายรูปแบบให้ท่านเลือกซื้อ

2024-03-04
ถังขยะแต่ละสีมีความหมายว่าอะไร ก่อนทิ้งต้องรู้และเลือกให้ถูก

ในแต่ละวันมนุษย์เราสร้างขยะเฉลี่ยแล้วประมาณ 1 กิโลกรัม ซึ่งถือว่าเยอะมาก ขยะบางประเภทก็สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ บางอย่างต้องผ่านกระบวนการรีไซเคิล ขณะที่บางชิ้นต้องจัดการทำลายด้วยวิธีที่เหมาะสมเพื่อลดความเสี่ยงการเกิดอันตรายและลดการสร้างปรากฏการณ์เรือนกระจก นั่นจึงเป็นเหตุผลที่หลายประเทศรวมถึงเมืองไทยของเราพยายามใช้ถังขยะแยกประเภท หรือถังขยะ 4 สี เพื่อแยกถังขยะตามสีพร้อมรณรงค์ให้ความรู้ เพื่อทิ้งอย่างถูกต้องมากขึ้น ประโยชน์ของการแยกขยะมีมากกว่าที่หลายคนรู้หากพูดถึงประโยชน์โดยรวมของการแยกขยะก่อนทิ้งลงตามถังขยะแต่ละสีถือว่ามีหลายด้านมากโดยขอสรุปให้เห็นภาพชัดเจน ดังนี้ช่วยลดปริมาณขยะลงได้เยอะ เพราะคนทิ้งจะรู้ว่าสิ่งไหนควรทิ้ง สิ่งไหนยังสามารถสร้างประโยชน์ต่อ คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับขยะ เช่น พนักงานเก็บขยะ โรงงานรีไซเคิล จะลดภาระการทำงานลงได้เยอะมาก การนำขยะที่รีไซเคิลได้มาเข้าสู่กระบวนการดังกล่าวจะช่วยลดการสิ้นเปลืองพลังงาน ลดการใช้ทรัพยากรของโลกแบบไม่จำเป็นที่ต้องผลิตวัตถุดิบใหม่อีกพอสมควร ตัวอย่างง่าย ๆ การรีไซเคิลขวดพลาสติก 1 ตัน จะช่วยลดการใช้น้ำมันดิบได้ถึง 3.8 บาร์เรล หรือประมาณ 604 ลิตร เลยทีเดียวลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อม เช่น การทิ้งพลาสติกลงทะเลทำให้สัตว์ทะเลกินเข้าไปและล้มตาย ส่งผลเสียต่อระบบนิเวศ หรือกลิ่นขยะไม่พึงประสงค์เป็นส่วนหนึ่งของการเกิดก๊าซเรือนกระจก หากคุณแยกขยะแล้วนำไปขายต่อก็สามารถสร้างรายได้เล็ก ๆ น้อย ๆ ให้กับครอบครัวได้ ดีกว่าการทิ้งไปแบบไม่มีประโยชน์อื่นใดลดผลเสียที่จะเกิดขึ้นกับโลกในระยะยาวจากภาวะเรือนกระจก เช่น สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง ภาวะน้ำแข็งขั้วโลกละลาย น้ำท่วมเฉียบพลัน เป็นต้นฝึกการสร้างระเบียบวินัยให้กับตนเอง รู้จักคิดก่อนทำทุกครั้ง ซึ่งการมีวินัยที่ดีย่อมส่งผลเชิงบวกต่อตนเองและประเทศชาติในอนาคตด้วยความหมายของถังขยะแต่ละสี มีอะไรบ้างมาถึงสิ่งที่ทุกคนควรทำความเข้าใจกันมากที่สุดนั่นคือความหมายของถังขยะแยกประเภทแต่ละสีซึ่งถูกทำขึ้นเพื่อให้คนทั้งโลกเกิดความเข้าใจไปตามทิศทางเดียวกัน สามารถทิ้งอย่างถูกต้อง ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลโลกใบน้อยของเรา โดยถังขยะแยกประเภทแต่ละสีแยกประเภทขยะก่อนทิ้งได้ ดังนี้1. ถังขยะสีเขียวมีไว้สำหรับการทิ้งของสด ขยะเน่าเสียจากครัวเรือน สามารถย่อยสลายได้ภายในเวลาอันรวดเร็วหรือนำไปทำประโยชน์เกี่ยวกับปุ๋ยหมัก ส่วนใหญ่มักเป็นพวกเศษอาหารจากมื้ออาหาร หรือการทำอาหาร ผัก ผลไม้ กระดูก น้ำมันทอด เศษข้าว เศษใบไม้ ต้นไม้ เป็นต้น2. ถังขยะสีเหลืองมีไว้สำหรับการทิ้งขยะทั่วไปที่สามารถนำไปรีไซเคิลเพื่อกลับมาใช้งานใหม่ได้ เช่น ขวดพลาสติก กระดาษ แก้ว โลหะบางประเภท การทิ้งขยะเหล่านี้ลงในถังสีเหลืองจะช่วยให้ผู้คัดแยกขยะทำงานได้สะดวกมากขึ้น3. ถังขยะสีฟ้า หรือ สีน้ำเงินมีไว้สำหรับการทิ้งขยะที่ไม่สามารถย่อยสลายได้ แต่ไม่ใช่ขยะพิษ มักเป็นวัสดุที่ถูกประเมินว่าไม่คุ้มค่าเมื่อต้องเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล เช่น ซองพลาสติกขนมขบเคี้ยว พลาสติกห่อลูกอม หมากฝรั่ง โฟม ฟอยล์ ที่มีการปนเปื้อนอาหาร ขวดพลาสติกประเภทสี ถุงพลาสติก 4. ถังขยะสีแดง หรือ ถังขยะสีเทาฝาสีส้ม สำหรับขยะอันตรายเป็นถังขยะสีแดง มีสัญลักษณ์รูปหัวกะโหลกมีกระดูกไขว้ มีไว้สำหรับการทิ้งขยะพิษซึ่งอาจเกิดผลกระทบและอันตรายกับสิ่งมีชีวิตได้ ไม่ควรปะปนไปกับขยะประเภทอื่น ๆ เช่น หลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ ถ่านไฟฉาย กระป๋องสีสเปรย์ กระป๋องยาฆ่าแมลง ขวดหรือกระป๋องบรรจุสารเคมี ขวดยาบางชนิด เป็นต้น5. ถังขยะสีแดง สำหรับขยะติดเชื้อเป็นถังขยะสีแดงเหมือนกับขยะอันตราย แต่จะมีสัญลักษณ์ติดเชื้อแปะไว้ ใช้สำหรับใส่ขยะที่เกิดจากการแพทย์ การตรวจสอบโรค ขยะที่อาจมีเชื้อโรคหากสัมผัสโดยตรงอาจเสี่ยงต่อการติดโรค เช่น ชุดตรวจโควิด19 หน้ากากอนามัย ผ้าพันแผล เข็มฉีดยา การเข้าใจความหมายของถังขยะแยกประเภทแต่ละสี ย่อมช่วยให้การแยกขยะแล้วทิ้งอย่างถูกต้องเป็นเรื่องง่ายขึ้นกว่าเดิม ซึ่งสิ่งสำคัญทุกคนควรเริ่มต้นทำทันทีตั้งแต่วันนี้และพยายามทำจนเกิดเป็นนิสัย อาจซื้อถังขยะแยกประเภทแต่ละสีเอาไว้ในบ้านเลยก็นับเป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะคนส่วนใหญ่มักรวมขยะใส่ถุงเป็นถุงเดียวแล้วทิ้งโดยขาดการคัดแยกอย่างเหมาะสม ขณะที่อีกหลายคนชอบมองว่าเมื่อทิ้งแล้วขยะเหล่านี้ก็ต้องถูกกองรวมกันอยู่ดี แต่ในความเป็นจริงหากแยกขยะตั้งแต่ต้น จะสร้างประโยชน์อย่างมาก

2024-03-04
การใช้งานลังพลาสติก กล่องพลาสติก กับประโยชน์อันหลากหลาย

เมื่อพูดถึงลังพลาสติก หรือกล่องพลาสติก ความคิดแรกที่ทุกคนคุ้นเคยกันดี นั่นคือมีเอาไว้สำหรับใส่สิ่งของตามวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันออกไป ช่วยจัดระเบียบพื้นที่ให้มีความเรียบร้อย อย่างไรก็ตามหากเจาะลึกประโยชน์ที่ได้จากลังพลาสติกหรือกล่องพลาสติก คงต้องกล่าวได้ว่ามีมากมาย ทั้งการใช้งานในการจัดเก็บสินค้าในคลังสินค้า และใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ไปจนถึงการนำลังพลาสติกมาประยุกต์ใช้ในรูปแบบต่าง ๆ ข้อดีของการใช้งานลังพลาสติกลังพลาสติกมีน้ำหนักเบา ขนย้ายง่าย สามารถยกขึ้นที่สูงเพื่อเพิ่มพื้นที่ในการจัดเก็บสิ่งต่าง ๆ ให้มากขึ้นแข็งแรงทนทานในระดับหนึ่ง กันน้ำและความชื้น ไม่ต้องกลัวสิ่งของด้านในเปียก สามารถบรรจุสิ่งของได้ตามน้ำหนักที่เหมาะสมกล่องพลาสติกทนต่อสภาพอากาศทุกรูปแบบไปจนถึงสารเคมีจำพวกกรดและด่างที่ไม่มีฤทธิ์รุนแรง ป้องกันไม่ให้สิ่งของภายในถูกทำลายหรือเสียหายไม่นำไฟฟ้าจึงสามารถเก็บอุปกรณ์ไฟฟ้าได้ราคาถูกเมื่อเทียบกับกล่องหรือลังที่ทำจากวัสดุประเภทอื่น ประหยัดต้นทุนในการใช้งานลังพลาสติกมีอายุการใช้งานได้ยาวนานถึง 10 ปี หากตั้งวางไว้บริเวณที่เหมาะสม มีประโยชน์ในการจัดระเบียบพื้นที่และสิ่งของ ลังพลาสติกกับการใช้ในอุตสาหกรรม1. ใช้สำหรับขนส่งและจัดเก็บสินค้าลังพลาสติก ถือเป็นตัวช่วยสำคัญให้กับธุรกิจและการใช้งานของคนทั่วไปเมื่อต้องทำการขนส่งสินค้า เพราะสามารถรวมสิ่งของทุกชิ้นที่ต้องการส่งไว้ในลังตามปริมาตรการบรรจุ หลังจากปิดฝาลังเรียบร้อยแล้ว สินค้าก็จะพร้อมนำส่งไปยังปลายทางทันที โดยกล่องพลาสติกและลังพลาสติกจะช่วยป้องกันสิ่งของภายในไม่ให้ชำรุดเสียหาย รวมถึงการสูญหายระหว่างขนส่ง อีกทั้งยังสามารถใช้สำหรับจัดเก็บและแยกสินค้าทุกประเภทให้มีระเบียบ ถ้าต้องการหยิบใช้ก็สะดวกสบาย ง่ายดาย และหากเลือกใช้งานลังชนิดซ้อนได้จะช่วยประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บมากขึ้น2. การใช้งานในร้านค้าและคลังสินค้าอย่างที่ได้เกริ่นไปก่อนหน้านี้ว่าลังพลาสติกเหมาะสำหรับการจัดเก็บสินค้า จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ร้านค้า โรงงาน และ คลังสินค้าทั้งหลายจะเลือกนำลังกระจายสินค้าไปใช้เพื่อจัดเก็บสินค้าแต่ละประเภท ช่วยเพิ่มพื้นที่การจัดเก็บมากขึ้น และยังดูมีระเบียบ บริหารจัดการง่าย เพิ่มความรวดเร็วต่อการทำงานมากขึ้นกว่าเดิม3. ใช้กับงานด้านเกษตรกรรมอีกประโยชน์ของการใช้งานกล่องพลาสติกและลังพลาสติกที่หลายคนอาจไม่เคยรู้ นั่นคือเกษตรกรจำนวนมากนิยมใช้ลังพลาสติกในการเก็บผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งอาจจะเลือกใช้ลังชนิดสวมได้ซ้อนได้ เหตุเพราะความแข็งแรง ป้องกันความเสียหายจากภายนอกได้ดี น้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายง่าย หากไม่ใช้งานก็สามารถซ้อนทับกันไว้เพื่อประหยัดพื้นที่จัดเก็บ เมื่อต้องขนส่งผลผลิตไปยังสถานที่ต่าง ๆ ก็สะดวก ปลอดภัย เมื่อถึงจุดหมายสภาพสินค้าทางการเกษตรก็ยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง การใช้งานลังพลาสติกแบบประยุกต์นอกจากการใช้งานทั่วไปแล้ว ยังสามารถนำลังพลาสติกมาประยุกต์ใช้งานเพื่อเพิ่มอรรถประโยชน์ในการใช้งาน เป็นการประหยัดต้นทุน ซึ่งมีตัวอย่างที่น่าสนใจ ดังนี้1. ใช้เป็นกระถางปลูกต้นไม้ลังพลาสติกเหมาะอย่างมากกับการเป็นกระถางต้นไม้ เพราะกล่องพลาสติกมีความแข็งแรง ทนทานต่อทุกสภาพอากาศ เริ่มจากการเจาะรูเล็ก ๆ ที่ก้นกล่อง จากนั้นรองก้นด้วยกากมะพร้าวหรือวัสดุอื่น ๆ ตามด้วยการใส่ดินก็สามารถปลูกต้นไม้ได้ทันที (ส่วนมากนิยมเป็นพืชผักขนาดเล็ก เช่น ถั่วงอก ผักสวนครัว)2. ใช้เป็นเก้าอี้อีกประโยชน์คือการใช้นั่งเป็นเก้าอี้ วิธีใช้งานง่ายมาก นั่นคือจับลังพลาสติกหรือกล่องพลาสติกพลิกคว่ำ นำด้านก้นขึ้นมาจากนั้นรองด้วยเบาะนิ่ม ๆ ก็จะได้เก้าอี้ไว้นั่งเล่นกันตามสะดวก เหมาะไว้นั่งเล่นกับเพื่อน หรือใช้ในร้านอาหารก็ได้เช่นกัน นี่คือข้อดีและประโยชน์ของการใช้งานลังพลาสติก กล่องพลาสติกที่อยากแนะนำให้ทุกคนได้ลองประยุกต์ใช้กันดู การันตีความคุ้มค่า ราคาไม่แพงแต่ได้รับประโยชน์มากกว่าที่คิด ลองหาซื้อกันได้ ไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน สามารถเข้ามาเลือกซื้อได้ที่ JenStore by Jenbunjerd จำหน่ายอุปกรณ์จัดเก็บหลากหลายชนิด

2024-03-04
อุปกรณ์กันตกจากที่สูงมีอะไรบ้าง ต้องรู้ไว้เพื่อความปลอดภัย

อุปกรณ์กันตกจากที่สูงมีอะไรบ้าง ต้องรู้ไว้เพื่อความปลอดภัยหนึ่งในอาชีพที่มีความเสี่ยงต่อชีวิตเป็นอย่างมาก ย่อมปฏิเสธไม่ได้ว่าคือกลุ่มคนที่ต้องทำงานบนที่สูง เช่น งานก่อสร้าง งานเดินระบบไฟฟ้า เช็ดกระจก ฯลฯ ด้วยเหตุนี้การใช้อุปกรณ์เซฟตี้สำหรับขึ้นที่สูงคือหัวใจสำคัญที่จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดเหตุไม่คาดฝันทุกรูปแบบ ดังนั้นไม่ว่าคุณที่เพิ่งเป็นมือใหม่ซึ่งต้องทำงานบนที่สูงหรือทำมานานแล้วก็ตาม การทำความรู้จักกับเข็มขัดเซฟตี้แบบเจาะลึกจะช่วยให้คุณรู้จักและใช้งานอุปกรณ์ได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม และปลอดภัยอุปกรณ์กันตกจากที่สูงประกอบไปด้วยอะไรบ้าง1. จุดยึด Anchor Point (Tie-Off Point)อุปกรณ์ชิ้นแรกที่ต้องให้ความสำคัญมากเมื่อคุณต้องทำงานบนที่สูง เนื่องจากจุดยึดจะมีหน้าที่ในการยึดระหว่างตัวบุคคลกับโครงสร้าง มาตรฐานของ ANSI จากสหรัฐฯ ระบุว่าอุปกรณ์ชิ้นนี้ต้องสามารถรับแรงไม่น้อยกว่า 22 KN หรือ 5,000 ปอนด์ (ประมาณ 2,267 กิโลกรัม) รูปแบบการใช้ต้องยึดไว้เหนือศีรษะและอยู่แนวเดียวกับตัวผู้ใช้ ป้องกันไม่ให้ตัวบุคคลกระแทกกับโครงสร้าง ลดโอกาสเกิดการเหวี่ยงและลดระยะการตก2. อุปกรณ์เชื่อมต่อ Connecting Device (Lanyard & Connector)อุปกรณ์กันตกจากที่สูงชิ้นต่อมาจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน โดยส่วนแรกต้องเชื่อมต่ออยู่กับจุดยึดโครงสร้างและส่วนที่สองใช้ยึดเชือกเข้ากับตัวบุคคล อุปกรณ์กันตกชิ้นนี้ต้องมีผิวเรียบ แข็งแรง ทนทานต่อการกัดกร่อน ควรทำจากเหล็กหล่อหรือปั๊มขึ้นรูป โดยเชือกที่ใช้ทำงานในที่สูงสามารถแบ่งประเภทได้ ดังนี้เชือกรักษาตำแหน่ง ผลิตจากวัสดุหลายประเภท เช่น ไนลอน สลิง โซ่ แต่สิ่งสำคัญคือต้องไม่ยาวเกินไปเพื่อป้องกันผู้ใช้พลัดตกลงไปเกิน 2 ฟุตเชือกป้องกันการตก มักผลิตจากไนลอน หรือ เส้นใย Dacron ซึ่งเป็นอุปกรณ์ดูดซับแรงสำหรับช่วยลดแรงกระแทกหากพลัดตก และขณะผู้ใช้งานตกสู่พื้นต้องไม่ทำให้เข็มขัดเซฟตี้รัดลำตัวด้วยแรงเกิน 1,800 ปอนด์ (ประมาณ 800 กิโลกรัม) รวมถึงต้องไม่ทำให้ผู้ใช้หล่นลงมาเกิน 6 ฟุตเชือกช่วยชีวิต อุปกรณ์เสริมเพิ่มเติมเพื่อลดอันตรายจากการตกจากที่สูง สามารถใช้ร่วมกับอุปกรณ์ยึดจับเชือกได้ เมื่อผู้ใช้หล่นจากที่สูง อุปกรณ์จะยึดจับเชือกไว้โดยอัตโนมัติ นอกจากนั้นยังมีเชือกช่วยชีวิตประเภทหดกลับอัตโนมัติ ซึ่งไม่ต้องมีตัวยึดจับก็ได้3. เข็มขัดเซฟตี้ (Safety Belt)อุปกรณ์ชิ้นสุดท้ายเป็นเข็มขัดเซฟตี้สำหรับให้ผู้ทำงานสวมใส่ โดยยึดเข้ากับอุปกรณ์กันตกจากที่สูง ต้องมีจุดเชื่อมต่อขั้นต่ำ 1 จุด อยู่ทางด้านหลัง สายรัดไม่ทำจากวัสดุแข็งหรือวัสดุที่อาจทำให้เกิดบาดแผล ส่วนมากมักผลิตจากโพลีเอสเตอร์ หรือเชือกไนลอน ที่สำคัญต้องเลือกให้เหมาะกับรูปร่างของผู้ใช้และลักษณะงานด้วยเช็กลิสต์อุปกรณ์เซฟตี้ อุปกรณ์ทำงานบนที่สูง มีอะไรบ้าง1. เข็มขัดนิรภัยแบบครึ่งตัวเข็มขัดนิรภัยประเภทนี้เป็นอุปกรณ์ทำงานบนที่สูงซึ่งเหมาะกับงานที่มีความสูงไม่มากนัก ประมาณ 4 เมตร เพราะเข็มขัดนิรภัยแบบครึ่งตัวจะมีจุดรัดเฉพาะตรงเอว บริเวณช่วงกลางลำตัวทำให้ไม่หนาแน่นปลอดภัยพอสำหรับการทำงานบนที่สูงมากกว่า 4 เมตร แต่อุปกรณ์กันตกจากที่สูงประเภทนี้จะสามารถเคลื่อนที่ได้สะดวก ทำงานได้อย่างคล่องแคล่ว สวมใส่ง่าย2. เข็มขัดนิรภัยแบบเต็มตัวเข็มขัดนิรภัยแบบเต็มตัวเหมาะกับการทำงานบนที่สูงทุกรูปแบบเนื่องจากมีจุดรัดและจุดเชื่อมต่อหลายจุดทั้งตัว หากเกิดอุบัติเหตุตัวเข็มขัดสามารถรองรับน้ำหนักและช่วยพยุงร่างกายผู้ใช้งานไม่ให้ร่วงสู่พื้นได้อย่างแน่นอน แต่เข็มขัดนิรภัยแบบเต็มตัวจะต้องใช้เวลานานในการสวมใส่ การทำงานไม่คล่องตัว เคลื่อนไหวลำบาก และทำให้การทำงานและการเคลื่อนไหวคล่องตัวน้อยกว่าการสวมใส่เข็มขัดนิรภัยแบบครึ่งตัวเนื่องจากเป็นชุดที่มีการรัดกุมมากกว่า3. แผ่นรองนั่งสำหรับทำงานบนที่สูง แผ่นรองนั่งสำหรับทำงานบนที่สูงเป็นอุปกรณ์ทำงานบนที่สูงซึ่งช่วยให้ทำงานสะดวกมากขึ้น หากต้องทำงานบนที่สูงเป็นเวลานานอาจเกิดอาการบาดเจ็บจากการรั้งของสายเข็มขัดซึ่งรัดตัวผู้ใช้งานโดยเฉพาะบริเวณต้นขา การใช้งานแผ่นรองนั่งทำงานบนที่สูงจะช่วยลดภาระของร่างกาย ทำให้สามารถทำงานได้นานขึ้น จึงเหมาะกับงานซึ่งต้องอยู่บนที่สูงเป็นเวลานาน เช่น การเช็ดกระจก ทาสี ซ่อมแซม4. เปลกู้ภัยบนที่สูงการทำงานบนที่สูงแม้จะมีอุปกรณ์เซฟตี้แต่ก็มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ จึงต้องมีอุปกรณ์สำหรับช่วยเหลือในการทำงานบนที่สูง นั่นคือเปลกู้ภัย โดยเปลกู้ภัยที่เรามักเห็นกันในการทำงานคือ เปลกู้ภัยสามเหลี่ยม ซึ่งสวมใส่ได้ง่ายและใช้เวลาไม่นาน เพื่อให้ใช้งานได้สะดวกรวดเร็วในเวลาที่เกิดอุบัติเหตุข้อควรปฏิบัติเมื่อต้องทำงานบนที่สูงตรวจสอบอุปกรณ์กันตก อุปกรณ์เซฟตี้ต่าง ๆ ให้พร้อมก่อนขึ้นไปทำงาน โดยอุปกรณ์เหล่านั้นต้องไม่มีรอยฉีกขาด และแข็งแรงทนทาน ยึดเกาะได้ดีร่างกายและจิตใจของผู้ทำงานบนที่สูงต้องอยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อม มีสติครบถ้วน เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุผู้ทำงานต้องมีความระมัดระวังอยู่เสมอเมื่อต้องทำงานบนที่สูง สิ่งใดที่มีความเสี่ยงมากเกินไป อย่าตัดสินใจทำโดยพลการ ควรมีคนคอยให้ความช่วยเหลือหรือการป้องกันอื่น ๆ เพิ่มเติมควรทำงานในช่วงที่สภาพแวดล้อมเหมาะสม เช่น แสงแดดไม่ร้อนจัด ไม่มีพายุฝนฟ้าคะนอง ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ หรือใช้สารเสพติดทั้งก่อนและขณะทำงานบนที่สูงเมื่อเริ่มรู้สึกเหนื่อยล้า หรือสภาพร่างกายเริ่มอ่อนเพลีย อย่าฝืนตนเองและรีบกลับลงมายังพื้นที่ปลอดภัยทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลของอุปกรณ์กันตกทั้งเข็มขัดเซฟตี้และข้อควรระวังอื่น ๆ ทุกครั้งที่ต้องทำงานบนพื้นที่สูงต้องเตือนสติตนเองอยู่เสมอว่าเป็นงานอันตราย อย่าประมาทเลินเล่อ และศึกษาการใช้อุปกรณ์เซฟตี้ให้ถูกต้อง ทดสอบคุณภาพของอุปกรณ์ทุกครั้งก่อนใช้งาน จะช่วยให้การทำงานดำเนินไปอย่างปลอดภัย หากต้องการอุปกรณ์ทำงานบนที่สูง อุปกรณ์กันตกจากที่สูง สามารถเข้ามาเลือกซื้อได้เลยที่ JenStore by Jenbunjerd มีอุปกรณ์ความปลอดภัยได้มาตรฐานให้เลือกมากมาย

2024-02-22
5 เครื่องทุ่นแรงยกของหนักที่ควรมีเอาไว้ใช้งาน เพื่อความสะดวก

5 เครื่องทุ่นแรงยกของหนักที่ควรมีเอาไว้ใช้งาน เพื่อความสะดวกการมีเครื่องทุ่นแรงยกของหนักถือเป็นตัวช่วยชั้นยอดในการเพิ่มความสะดวก รวดเร็ว และลดความเหนื่อยล้าจากการยกของ ประเภทการใช้งานอุปกรณ์เหล่านี้มีตั้งแต่ระดับใช้ทั่วไปในบ้านเรือน ร้านอาหาร ไปจนถึงการใช้ในระดับคลังสินค้า โรงงานอุตสาหกรรม โดย 5 เครื่องทุ่นแรงยกของหนักที่จะแนะนำต่อไปนี้ จะช่วยให้งานยกของหนักเป็นเรื่องง่าย และรวดเร็วแนะนำ 5 เครื่องทุ่นแรงยกของหนักที่ควรมีไว้ใช้งาน1. รถเข็นหากจะบอกว่ารถเข็นอเนกประสงค์คือเครื่องทุ่นแรงยกของหนักที่พบเจอได้บ่อยสุด และสามารถใช้งานกับทุกสถานการณ์คงไม่ใช่เรื่องผิดนัก ด้วยหลักสำคัญเพียงแค่วางสิ่งของที่ต้องการเคลื่อนย้ายไว้ในรถ จากนั้นก็เข็นไปตามเส้นทางถึงจุดหมายที่ต้องการ โดยสามารถแบ่งประเภทรถเข็นเพื่อให้เหมาะกับรูปแบบการใช้งานที่แตกต่างกัน ได้แก่ รถเข็น 4 ล้ออเนกประสงค์ รถเข็นล้อลาก รถเข็นทรงสูง รถเข็น 2 ล้อ รถเข็นปูน รถเข็นถังน้ำมัน รถเข็นช้อปปิ้ง ซึ่งรถเข็นบางรุ่นพับเก็บได้ เหมาะกับการใช้ทั้งพื้นที่ภายในและภายนอกอาคาร2. รถแฮนด์ลิฟต์รถแฮนด์ลิฟต์ หรือ รถลากพาเลท เป็นอีกอุปกรณ์ทุ่นแรงที่พบเจอได้บ่อยมากโดยเฉพาะในคลังสินค้า โรงงานอุตสาหกรรม รถแฮนด์ลิฟต์ใช้สำหรับยกสิ่งของที่อยู่บนพาเลท จึงเหมาะกับพื้นที่ซึ่งต้องขนย้ายสินค้าที่มีน้ำหนักปานกลางถึงน้ำหนักมาก สามารถบังคับทิศทางพร้อมกดเบรกเพื่อความปลอดภัย มีระบบไฮดรอลิกเพื่อยกพาเลทขึ้นจากพื้น ช่วยให้การยกและเคลื่อนที่ง่ายขึ้นกว่าเดิม แบ่งประเภทเป็นรถแฮนด์ลิฟต์แบบมาตรฐาน รถแฮนด์ลิฟต์กึ่งไฟฟ้า และรถแฮนลิฟต์ไฟฟ้า ซึ่งราคาย่อมแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของการใช้3. รถโฟล์คลิฟต์ ความสะดวกและประสิทธิภาพการใช้งานเพิ่มขึ้นมาอีกขั้นจากรถแฮนด์ลิฟต์ เครื่องทุ่นแรงยกของประเภทนี้ มีการออกแบบตัวรถและระบบการทำงานคล้ายกับรถยนต์ ขับเคลื่อนด้วยน้ำมันเชื้อเพลิงหรือระบบไฟฟ้า ต้องใช้คนบังคับแบบเดียวกับการขับรถเพื่อเคลื่อนย้ายสิ่งของไปยังจุดต่าง ๆ ด้านหน้าจะมีงาเพื่อสอดเข้ากับพาเลทและสิ่งของที่ต้องการเคลื่อนย้าย เหมาะอย่างยิ่งกับการขนส่งสิ่งของขนาดใหญ่ น้ำหนักมาก ช่วยประหยัดแรงงานคนได้อย่างดีเยี่ยม แต่ทั้งนี้จะมีราคาสูงและต้องอาศัยความชำนาญในการบังคับเพื่อให้เคลื่อนย้ายสิ่งของได้อย่างมั่นใจ และปลอดภัย 4. โต๊ะยกปรับระดับเครื่องทุ่นแรงอีกประเภทที่อยากแนะนำคือ โต๊ะยกปรับระดับ ซึ่งเหมาะกับการขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง รองรับน้ำหนักได้ดี แข็งแรงทนทาน มีล้อด้านล่างสำหรับเข็นไปยังจุดต่าง ๆ ขากรรไกรแบบ X Lift ทั้งแบบเดี่ยว 1 ชั้น และคู่ 2 ชั้น เพื่อใช้ยกขึ้นสู่ด้านบนอย่างมีประสิทธิภาพ ระบบการทำงานมีทั้งแบบ Manual คือ การใช้เท้าเหยียบให้ขากรรไกรค่อย ๆ ยกสูงขึ้น แต่ถ้าเน้นความรวดเร็ว ปลอดภัย ไม่ต้องเหนื่อยมากก็มีโต๊ะยกปรับระดับแบบไฟฟ้า เพียงแค่กดปุ่มก็ยกขึ้น-ลงได้ตามสั่ง เมื่อไม่ใช้งานแล้วยังลดระดับขากรรไกรให้ทับซ้อนเก็บเข้าที่ เพื่อประหยัดพื้นที่ได้อีกมาก5. รอกรอกเป็นอุปกรณ์ช่วยทุ่นแรงในการยกและเคลื่อนย้ายสินค้า เครื่องจักร หรือ สิ่งของที่มีน้ำหนักมาก ตัวรอกจะมีลักษณะเป็นล้อหมุนทำจากเหล็ก แล้วใช้โซ่หรือสลิงพันรอบ แล้วปลายเป็นตะขอสำหรับเกี่ยวของที่จะยก โดยหลักการทำงานของรอกจะมีชุดเฟืองเพื่อช่วยเพิ่มแรงในการยก รอกที่มักพบเห็นได้บ่อย ได้แก่ รอกโซ่มือสาว รอกชนิดนี้จะต้องใช้มือในการชักรอกโซ่ รอกมือโยก รอกชนิดนี้ใช้มือในการชักรอกเหมือนรอกมือสาว แต่จะมีคันโยกเพิ่มเข้ามาช่วยให้ชักรอกได้สะดวกขึ้นรอกมือหนุม รอกชนิดนี้จะชักรอกโดยใช้กว้านมือหมุน ที่สามารถหมุนได้ 360 องศา ช่วยให้ชักรอกได้ง่ายขึ้นข้างต้นคือ 5 เครื่องทุ่นแรงยกของหนักที่ตอบโจทย์การใช้งานเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นบ้านเรือน ร้านค้า ร้านอาหาร และแน่นอนว่าในโรงงานอุตสาหกรรม คลังสินค้า และบริษัทขนส่ง อุปกรณ์เหล่านี้มีความสำคัญในการทำงานอย่างมาก หากต้องการรถเข็น รถยกลากพาเลท โต๊ะยกปรับระดับ สามารถเข้ามาเลือกซื้อได้ที่ JenStore โดย บริษัท เจนบรรเจิด จำกัด เรามีอุปกรณ์ขนย้าย อุปกรณ์คลังสินค้าต่าง ๆ และสินค้าในการดำเนินธุรกิจอีกกว่า 10,000 รายการ

2024-02-13
อุปกรณ์สำคัญในการแพ็กสินค้า สำหรับขายของออนไลน์มีอะไรบ้าง

อุปกรณ์สำคัญในการแพ็กสินค้า สำหรับขายของออนไลน์มีอะไรบ้างในยุคที่ใครก็สามารถทำอาชีพพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ นอกจากการขายสินค้าคุณภาพดี ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าแล้ว ขั้นตอนของการแพ็กสินค้าเพื่อส่งต่อไปยังบริษัทขนส่งก็เป็นอีกสิ่งสำคัญที่ต้องให้ความใส่ใจ ยิ่งถ้าเป็นกลุ่มสินค้าที่แตกหักหรือเสียหายได้ง่ายด้วยแล้ว หากแพ็กไม่ดี สินค้าจะมีโอกาสเสียหายค่อนข้างสูง อาจส่งผลให้ผู้รับไม่พึงพอใจจนเกิดการบอกต่อในเชิงลบ ดังนั้นวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้แพ็กสินค้า จึงเป็นอีกปัจจัยที่จะช่วยให้สินค้าของคุณไปถึงมือลูกค้าแบบปลอดภัยเช็กลิสต์อุปกรณ์ในการแพ็กสินค้า มีอะไรบ้าง1. กล่องพัสดุ / ซองใส่พัสดุอุปกรณ์ชิ้นแรกถือเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญลำดับต้น ๆ เมื่อจะแพ็กสินค้า เริ่มจากเลือกชนิดของกล่องกระดาษหรือประเภทของซองที่เหมาะกับสินค้าของคุณ เช่น ถ้าสินค้ามีลักษณะเป็นแผ่นบาง ทำจากวัสดุที่ไม่แตกหัก ใช้ซองพัสดุจะช่วยให้ประหยัดเงินมากกว่าหลายเท่า แต่ถ้าเป็นของชิ้นใหญ่ ส่งพร้อมกันหลายชิ้น หรือแตกหักง่ายก็ควรเลือกกล่องพัสดุซึ่งควรพิจารณาระดับความหนาให้เหมาะสมเพื่อป้องกันแรงกระแทกและความเสียหายอื่น ๆ 2. ใช้อุปกรณ์กันกระแทกให้เหมาะกับสินค้าอุปกรณ์กันกระแทกเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่จะขาดไม่ได้เด็ดขาดเมื่อเตรียมแพ็กสินค้า เหตุเพราะเป็นตัวช่วยสำคัญเพื่อป้องกันการเคลื่อนตัว หรือการกระแทกระหว่างขนส่งจนอาจก่อให้เกิดความเสียหาย ซึ่งอุปกรณ์ใช้กันกระแทกมีอยู่ด้วยกันหลายรูปแบบ เช่นพลาสติกกันกระแทก หรือที่หลายคนชอบเรียกว่า บับเบิล ลักษณะจะเป็นพลาสติกที่ออกแบบให้มีรูเก็บอากาศเล็ก ๆ ทั่วทั้งแผ่น เมื่อพลาสติกถูกกระแทก แรงซับจากรูที่อัดอากาศไว้จะช่วยลดทอนความรุนแรงไม่ให้เข้าไปถึงตัวสินค้า โอกาสแตกหักเสียหายจึงน้อยลง นอกจากนี้ยังมีแบบเป็นซองกันกระแทก สำหรับใส่สินค้าลักษณะเป็นแผ่นเรียบ ๆ อีกด้วยถุงลมกันกระแทก หลักการคล้ายกับพลาสติกกันกระแทก แต่ถุงลมจะมีขนาดใหญ่ ใช้วิธีการอัดอากาศเข้าไปภายในเช่นกัน นิยมใช้กับสิ่งของขนาดใหญ่หรือของที่บอบบางมาก โอกาสแตกหักเสียหายสูงสิ่งของประยุกต์ใช้ ถ้าต้องการประหยัดเงิน ให้ลองประยุกต์ใช้จากสิ่งของต่าง ๆ ภายในบ้าน เช่น กระดาษหนังสือพิมพ์ กระดาษนิตยสาร แผงไข่แบบกระดาษ เป็นต้น3. เทปกาวเมื่อจัดสินค้าลงกล่องหรือซอง และใส่ตัวช่วยกันกระแทกเรียบร้อยแล้ว ต้องทำการปิดด้วยเทปกาวให้ครบทุกด้าน ป้องกันการร่วงหล่น เสียหาย และสูญหาย คำแนะนำในการแปะเทปกาวให้แปะตามแนวฝากล่องอย่างน้อย 2 รอบ แล้วแปะขนานกับฝากล่องอีกอย่างน้อย 3-4 จุด 4. กรรไกร / คัตเตอร์อุปกรณ์ชิ้นนี้อยู่คู่กับการแพ็กสินค้าแบบไม่ต้องสงสัย เพราะทำหน้าที่ในการตัดสิ่งของ เช่น เทปกาว ฟิล์มยืด หรือแม้แต่พลาสติกกันกระแทกให้มีขนาดเหมาะสม หรืออาจใช้ที่ตัดเทปโดยเฉพาะ อย่างไรก็ตาม ต้องระวังการใช้งานและเก็บให้เป็นที่โดยเฉพาะถ้าบ้านมีเด็กเล็ก5. ใบปะหน้าเป็นการระบุข้อมูลของผู้รับและผู้ส่งเพื่อให้บริษัทขนส่งดำเนินการได้อย่างถูกต้อง ซึ่งปัจจุบันมีเครื่องพิมพ์ใบปะหน้า ราคาไม่แพง ช่วยประหยัดเวลาในการเขียนข้อมูลผู้รับสินค้า แถมลดโอกาสที่จะเขียนผิด จนเป็นเหตุให้สินค้าจัดส่งไม่ได้หรือไปไม่ถึงมือผู้ซื้อ6. ฟิล์มยึดพันพาเลท ปกติจะพบฟิล์มยึดพันพาเลทได้บ่อยในโรงงานอุตสาหกรรม หรือคลังสินค้าที่มีการแพ็กของจำนวนมากลงบนพาเลท แต่ในบางกรณีก็สามารถนำมาใช้กับการแพ็กสินค้าทั่วไป โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าที่ไม่สามารถโดนน้ำได้ การพันฟิล์มยึดรอบสินค้าหรือกล่องแพ็กเกจจะช่วยให้สินค้าถูกส่งถึงมือผู้รับได้อย่างสมบูรณ์ ไม่ได้รับความเสียหายจากน้ำและความชื้นข้างต้นคืออุปกรณ์ในการแพ็กสินค้าโดยพื้นฐานซึ่งทุกคนคงคุ้นเคยกันดีพอควร การเตรียมทุกอย่างให้พร้อมก่อนลงมือแพ็กสินค้าจะช่วยให้ทำงานได้สะดวก รวดเร็ว การแพ็กสินค้าให้ดีจะช่วยให้สินค้าส่งถึงปลายทางอย่างมั่นใจ หากกำลังมองหาอุปกรณ์แพ็กสินค้า เช่น กล่องกระดาษ เทปกาว อุปกรณ์กันกระแทก สามารถเลือกซื้อได้ที่ jenstore.com จำหน่ายอุปกรณ์แพ็กของ และสินค้าในการดำเนินธุรกิจอีกกว่า 10,000 รายการ

2024-01-19
รถเข็นอเนกประสงค์ JUMBO แข็งแรง ทนทาน

รถเข็นอเนกประสงค์ คือ ยานพาหนะที่เคลื่อนที่โดยการออกแรงเข็นหรือผลัก ในสมัยโบราณมนุษย์เริ่มทำล้อเลื่อนจากโครงไม้เป็นสำคัญ เช่น เกวียน รถม้า รถศึก เป็นต้น ปัจจุบันวัสดุที่นำมาใช้ทำรถเข็นมีหลากหลายชนิดด้วยกัน เช่น เหล็ก สเตนเลส พลาสติก อะลูมิเนียม เป็นต้น บริษัท เจนบรรเจิด จำกัด จำหน่ายรถเข็นอเนกประสงค์ JUMBO รถเข็น 4 ล้อ รับน้ำหนักได้ดี เคลื่อนย้ายและเข็นสะดวก แข็งแรง ทนทาน ได้รับความเชื่อมั่นอย่างสูงในด้านคุณภาพ และจำหน่ายอย่างกว้างขวางในทวีปยุโรป โดยเฉพาะประเทศเยอรมนี ประเทศในตะวันออกกลาง และเอเซีย มานานกว่า 2 ทศวรรษ รถเข็นอเนกประสงค์ JUMBO มีให้เลือกใช้งานหลากหลาย ทั้งรถเข็นพื้นเหล็ก รถเข็นพื้นพลาสติก รถเข็นพื้นสเตนเลส หากลูกค้าท่านใดสนใจ รถเข็นอเนกประสงค์ JUMBO สามารถติดต่อฝ่ายขาย Catalogue Sales โทร 02-096-9999 (200 คู่สาย) หรือสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่ www.jenbunjerdstore.com

2024-01-07
ล้อรถเข็น SUPO แข็งแรง ทนทาน แบบสวยทันสมัย อายุการใช้งานยาวนาน

ล้ออุตสาหกรรม ล้อรถเข็น SUPO (Castor Wheel Supo) โดยบริษัท เจนบรรเจิด จำกัด เป็นลูกล้ออุตสาหกรรมคุณภาพสูง ที่นำเข้าจากต่างประเทศ เป็นลูกล้อที่เหมาะกับงานอุตสาหกรรม ผลิตด้วยวัตถุดิบคุณภาพสูง การประกอบประณีตทุกขั้นตอน SUPO จึงเป็นผู้นำในด้านลูกล้อสำหรับรถเข็น รับน้ำหนักได้ตรงตามสเป็ค อายุการใช้งานยาวนานกว่า ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อยๆ แบบสวย ทันสมัย ล้อรถเข็น SUPO ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษตามหลักวิศวกรรมยานยนต์ โดยพื้นฐานเทคโนโลยีเยอรมัน ผ่านการตรวจสอบคุณภาพอย่างเข้มข้น โดยการทดสอบความแข็งของชิ้นส่วนที่เป็นโลหะ ทดสอบการสึกหรอของเนื้อล้อระหว่างล้อบดทั้ง 2 ด้าน และทดสอบความทนทานของล้อจานหมุน จึงมั่นใจได้ว่าลูกล้อ SUPO มีความแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษกว่าลูกล้อยี่ห้ออื่น ล้อรถเข็น SUPO มีหลากหลายรูปแบบ และหลากหลายชนิด อาทิ ล้อยูรีเทน PUb ล้อโพลีโอลีฟินYUPA ล้อพลาสติก PP ล้อยางสังเคราะห์ TPR ล้อกันชื้น ล้อกันน้ำ ล้อทนความร้อน เป็นต้น หากลูกค้าท่านใดสนใจ ล้อรถเข็น SUPO สามารถสั่งซื้อได้ที่ Catalogue Sales โทร 02-096-9999 (30 คู่สาย) หรือ www.jenbunjerdstore.com

2024-01-07
แฮนด์ลิฟท์ JUMBO คุณภาพสูง แข็งแรง ทนทาน มีหลากหลายแบบให้เลือกใช้งาน

แฮนด์ลิฟท์ รถยกลาก หรือรถยกลากแพลเลท เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ในการจัดเก็บและเคลื่อนย้าย ที่มีความสำคัญ และนิยมใช้กันเป็นอย่างมากในระบบการขนส่ง เพราะหากขาดอุปกรณ์เหล่านี้ อาจจะทำให้ระบบการขนส่งทำงานได้อย่างยากลำบาก บริษัท เจนบรรเจิด จำกัด จำหน่าย แฮนด์ลิฟท์ รถยกลาก และรถยกลากพาเลท มาเป็นเวลากว่า 30 ปี ภายใต้แบนด์ JUMBO แฮนด์ลิฟท์หรือรถยกลาพาเลท JUMBO สั่งผลิตเป็นพิเศษจากโรงงานที่มีกำลังผลิตอันดับต้นๆ ของโลก ได้รับความเชื่อถือจากผู้ใช้ในประเทศไทยอย่างกว้างขวาง และมีบริการหลังการขายโดยทีมงานมืออาชีพซึ่งพร้อมให้บริการถึงที่ ด้วยอะไหล่แท้คุณภาพเยี่ยม แฮนด์ลิฟท์ เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการเคลื่อนย้ายแพลเลทจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง กลไกการทำงานของแฮนด์ลิฟท์ จะควบคุมการทำงานด้วยแรงคน ในการเคลื่อนที่ ยกขึ้น ลง และบังคับทิศทาง โดยงาทั้ง 2 ข้างจะรับน้ำหนักเท่าๆ กัน ใช้พื้นที่ในการใช้งานน้อย มีหลากหลายรูปแบบให้เลือกตามการใช้งาน เพื่อตอบสนองความต้องการในการใช้งานได้เป็นอย่างดี ได้แก่ แฮนด์ลิฟท์ รุ่นมาตรฐาน, แฮนด์ลิฟท์ รุ่นหมอบต่ำ, แฮนด์ลิฟท์ รุ่นงายาว/สั้นพิเศษ, แฮนด์ลิฟท์ รุ่นเคลื่อนที่ได้ 4 ทิศทาง, แฮนด์ลิฟท์ รุ่นชุบกัลวาไนซ์ และแฮนด์ลิฟท์ รุ่นยกสูงพิเศษ ลูกค้าท่านใดสนใจสามารถสั่งซื้อแฮนด์ลิฟท์ JUMBO ได้ที่ www.jenbunjerdstore.com หรือสั่งซื้อผ่านทาง Catalogue Sales โทร. 02-096-9999 (30 คู่สาย) หรือหากท่านใดสะดวกเดินทางมาชมสินค้าจริงด้วยตัวเอง สามารถมาได้ที่โชว์รูมสาขาเมืองทองธานี โชว์รูมสาขาวังน้อย หรือโชว์รูมสาขาแม่สอด

2024-01-07
ทำไมถึงต้องรถลากจูงระบบไฟฟ้า JUMBO?

ที่ผ่านมาผู้ประกอบการบางรายอาจจะยังไม่เห็นถึงความสำคัญของการเลือกใช้อุปกรณ์ลากจูงหรือขนถ่ายวัสดุที่เหมาะสม และมักจะคิดว่าเป็นการเพิ่มค่าใช้จ่ายในกระบวนการผลิตโดยไม่ได้เพิ่มคุณค่าใดๆ ให้กับแบรนด์ผลิตภัณฑ์เลย อีกทั้งยังอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผลิตภัณฑ์ระหว่างการขนย้ายด้วยถ้าหากเลือกวิธีการและรถลากสำหรับเคลื่อนย้ายที่ไม่เหมาะสม บริษัท เจนบรรเจิด จำกัด ยังพบอีกว่าในภาคอุตสาหกรรมรถลากจูงระบบไฟฟ้าส่วนใหญ่เป็นรถนำเข้าจากต่างประเทศ จึงมีราคาที่ค่อนข้างสูง บริษัทฯ จึงได้ออกแบบและผลิตรถลากจูงระบบไฟฟ้า JUMBO รุ่น EV1200 และ EV2500 ในราคาที่ถูกกว่าและเป็นแบรนด์ของคนไทย เพื่อตอบสนองการใช้งานของอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจที่กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วและมีแนวโน้มที่ดีขึ้นเรื่อยๆ การทำงานในภาคอุตสาหกรรมจึงต้องมีการปรับตัวในทุกๆ ด้าน เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจให้สามารถแข่งขันกับประเทศอื่นๆ รถลากจูงระบบไฟฟ้า JUMBO รุ่น EV1200 และ EV2500 สามารถใช้งานได้กับทุกกลุ่มอุตสาหกรรม o กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ o กลุ่มธุรกิจปิโตรเลียม ปิโตรเคมี และเคมีภัณฑ์ o กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง o กลุ่มงานบริการ เช่น สนามบินหรือลานจอดรถ, โรงพยาบาล, โรงแรม, o กลุ่มอุตสาหกรรมอาหารที่ต้องการการขนส่งแบบไร้มลพิษและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม o กลุ่มอุตสาหกรรมอื่นๆ รถลากจูงระบบไฟฟ้า JUMBO ดีกว่าอย่างไร? ความน่าเชื่อถือและทนทาน (Durability & Reliability) o รถลากจูงระบบไฟฟ้า JUMBO มีความแข็งแรงทนทาน ได้รับพิสูจน์แล้วว่าสามารถรับมือกับการทำงานต่อเนื่องถึง 3 กะ o รถที่จำหน่ายตั้งแต่ปี 2539 ยังมีใช้งานอยู่ในสถานประกอบการของลูกค้าหลายแห่ง และผ่านการใช้งานมามากกว่า 25,000 ชั่วโมง o ได้รับความเชื่อถืออย่างสูง จากโรงงานประกอบรถยนต์ชั้นนำของโลกในประเทศไทยและ AEC อย่างกว้างขวางมาเป็นเวลายาวนาน o นอกจากนี้การผลิตรถลากจูงระบบไฟฟ้า JUMBO ยังควบคุมคุณภาพตามมาตรฐานของ GS อย่างเข้มงวด ทุกชิ้นส่วนผ่านการตรวจสอบอย่างปราณีต จึงทำให้มั่นใจได้ในทุกขั้นตอนการผลิต ใช้งานง่ายเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Easy Operation & Ergonomics) o ด้วยขนาดรถที่เล็ก กะทัดรัด ทำให้มีความคล่องตัวสูงในการทำงาน o เคลื่อนไหว เปลี่ยนทิศทางการขับเคลื่อนได้ง่าย o แผงควบคุมทำงานเงียบ ไม่มีเสียงรบกวน o ออกตัวและลดความเร็วได้อย่างนุ่มนวล o เปลี่ยนระดับความเร็วได้อย่างสะดวกสบาย o เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ประหยัดพลังงาน o ลดต้นทุนให้อุตสาหกรรม o รับน้ำหนักได้ 1,000-2,500 กิโลกรัม o ช่วยเสริมสร้างแบรนด์ของผลิตภัณฑ์และองค์กรของธุรกิจอุตสาหกรรมในการเอาใจใส่ต่อสุขอนามัยผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อมด้วย ลดขั้นตอนการบำรุงรักษา (Maintenance Free) o รถลากจูงไฟฟ้า รุ่น EV-2500 ใช้ระบบมอเตอร์ A/C ประสิทธิภาพสูง ช่วยลดงานซ่อมบำรุง o ระบบเบรกเป็นแบบแม่เหล็กไฟฟ้า ช่วยลดขั้นตอนการปรับตั้งระยะความห่างของผ้าเบรกกับจานเบรก เมื่อใช้งานไปได้สักระยะ และช่วยลดการใช้งานผ้าเบรก การออกแบบเพื่อความปลอดภัย (Considerate Design & Safety) การออกแบบพิถีพิถัน คำนึงถึงผู้ใช้งาน ตามหลัก Ergonomics และความปลอดภัย หากลูกค้าท่านใดสนใจ รถยกลากไฟฟ้า JUMBO สามารถติดต่อฝ่ายขายอุปกรณ์ยกย้ายและอะไหล่ โทร 02-096-9888 ต่อ 1203-1209 หรือ www.jenbunjerd.com

2024-01-07
โต๊ะปรับระดับ หรือ โต๊ะยกสูง JUMBO ช่วยผ่อนแรงในการยกชิ้นงาน คุ้มค่า น่าใช้

โต๊ะยกสูง (Lift Table) หรือโต๊ะปรับระดับ JUMBO ช่วยผ่อนแรงในการยกชิ้นงาน และลดระดับได้รวดเร็ว โต๊ะยกสูงมีให้เลือกใช้งานหลากหลายประเภทตามการใช้งาน ดังนี้ โต๊ะยกสูงติดล้อแบบเท้าเหยียบ JUMBO หน้าโต๊ะเรียบ ใช้สำหรับวางของหนัก โต๊ะยกสูงรับน้ำหนักได้ 150-1000 กิโลกรัม และยกได้สูง 740-1500 มิลลิเมตร ล้อปรับทิศทางได้คล่อง พร้อมเบรก เพิ่มความปลอดภัยระหว่างการใช้งาน มีระบบ Mechanic Safety ป้องกันการทรุดตัวของกระบอกไฮดรอลิก ดูแลรักษาง่าย โต๊ะยกสูงติดล้อแบบไฟฟ้า JUMBO ยกด้วยไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ขนาด 24V/33Ah เคลื่อนย้ายของหนักได้สะดวกรวดเร็ว รับน้ำหนักได้ 350-500 กิโลกรัม และยกได้สูง 900-1320 มิลลิเมตร แข็งแรงทนทาน คุ้มค่า น่าใช้งาน โต๊ะยกสูงติดล้อแบบหน้าโต๊ะพิเศษ JUMBO มีทั้งหน้าโต๊ะแบบลูกล้อเหล็ก และแบบโรลเล่อร์เหล็ก สามารถสไลด์ได้ โต๊ะยกสูงช่วยให้เคลื่อนย้ายสิ่งของบนโต๊ะได้ง่าย ไม่ต้องออกแรงมาก รับน้ำหนักได้ 270-700 กิโลกรัม และยกได้สูง 970-1150 มิลลิเมตร หากลูกค้าท่านใดสนใจ โต๊ะยกสูง JUMBO สามารถสอบถามรายละเอียดและราคาเพิ่มเติมได้ที่ Catalogue Sales โทร 02-096-9999 (30 คู่สาย) หรือ www.jenbunjerdstore.com

2024-01-07
รถเข็นดอลลี่ JUMBO แข็งแรง ทนทาน รับน้ำหนักได้มาก

บริษัท เจนบรรเจิด จำกัด เป็นผู้นำด้านการผลิต จำหน่ายและส่งออกอุปกรณ์จัดเก็บยกย้ายที่มีความหลากหลายมากที่สุดของประเทศ โดยจำหน่ายตั้งแต่อุปกรณ์ที่ใช้งานทั่วไป อาทิ รถเข็น รถลากจูงระบบไฟฟ้า รถยกสูงชนิดต่างๆ ชั้นวางสินค้า แพลเลทและภาชนะพลาสติก รวมถึงรถเข็นดอลลี่ด้วย รถเข็นดอลลี่ ที่บริษัท เจนบรรจิด จัดจำหน่ายมีหลากหลายประเภท เช่น รถเข็นดอลลี่สำหรับลังพลาสติก มีทั้งแบบปรับขนาดได้ และแบบใช้งานทั่วไป โครงผลิตจากอะลูมิเนียม มุมดอลลี่ผลิตจากพลาสติก ABS แข็งแรง รับน้ำหนักได้ดี - รถเข็นดอลลี่พื้นพลาสติก แบบต่อกันได้ แผ่นพื้นเจาะรูสำหรับมือหิ้วได้ ต่อกันได้อย่างง่ายดาย ไม่ต้องใช้เครื่องมือ - รถเข็นดอลลี่พื้นเหล็ก แผ่นพื้นปูทับด้วยแผ่นพีวีซีกันลื่น คุณภาพดี ทนทาน มีขอบยางกันชนโดยรอบ เพื่อป้องกันการกระแทก หากท่านใดกำลังมองหารถเข็นดอลลี่ไว้ใช้งาน สามารถเข้ามาดูรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ www.jenbunjerdstore.com หรือติดต่อ Catalogue Sales โทร 02-096-9999 (30 คู่สาย) ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.00-18.00 น.

2024-01-07
วิธีการใช้งานรถแฮนด์ลิฟท์อย่างปลอดภัย ลดอุบัติเหตุในสถานประกอบการ

วิธีการใช้งานรถแฮนด์ลิฟท์อย่างปลอดภัย ลดอุบัติเหตุในสถานประกอบการรถแฮนด์ลิฟท์ (Handlift) บางคนอาจเรียกว่า รถลากพาเลท หรือรถยกสินค้า ถือเป็นเครื่องมือทุ่นแรงอีกประเภทหนึ่งที่พบเจอได้ทั่วไปทั้งในคลังสินค้า ศูนย์กระจายสินค้า รวมถึงโรงงานอุตสาหกรรมแทบทุกประเภท การศึกษาแนวทางที่ถูกต้องเกี่ยวกับวิธีการใช้งานรถแฮนด์ลิฟท์อย่างปลอดภัยจึงเป็นสิ่งสำคัญในการลดความเสี่ยงของอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการทำงาน วิธีการใช้งานรถแฮนด์ลิฟท์อย่างปลอดภัย ไร้กังวลทุกสถานการณ์1. ศึกษาคู่มือหรืออบรมการใช้งานรถแฮนด์ลิฟท์ทุกครั้งเมื่อเป็นรถแฮนด์ลิฟท์คันใหม่หรือเพิ่งเคยใช้ครั้งแรกไม่ว่าคุณจะมีประสบการณ์เกี่ยวกับการใช้รถแฮนด์ลิฟท์มายาวนานแค่ไหนก็ตาม แต่เมื่อเป็นรถยกสินค้าคันใหม่ รุ่นใหม่ ยี่ห้อใหม่ ก็ต้องศึกษาคู่มือการใช้งาน หรือเข้าอบรมกับผู้เชี่ยวชาญเสียก่อนเพื่อให้สามารถใช้งานได้ถูกวิธี เพิ่มความมั่นใจในการใช้งาน สำหรับผู้ที่เพิ่งเคยใช้รถแฮนด์ลิฟท์หรือรถลากพาเลทเป็นครั้งแรก ยิ่งต้องศึกษาอย่างละเอียดเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้งานรถแฮนด์ลิฟท์ให้ได้มากที่สุด2. ตรวจเช็กอุปกรณ์และระบบต่าง ๆ ของรถแฮนด์ลิฟท์ ก่อนเริ่มใช้งานในแต่ละวันอีกหนึ่งวิธีการใช้งานรถแฮนด์ลิฟท์อย่างปลอดภัยที่สำคัญมากคือในทุกวันก่อนเริ่มต้นใช้งานควรตรวจเช็กอุปกรณ์และระบบต่าง ๆ ว่ายังทำงานเป็นปกติดีหรือไม่ อย่าผัดวันประกันพรุ่ง เพราะบ่อยครั้งอุบัติเหตุมักมาจากความประมาทเพียงเล็กน้อย จุดที่ควรตรวจสอบก่อนใช้งาน เช่น ระบบปั๊มไฮดรอลิก และระบบเบรกซึ่งต้องทำงานได้ตามปกติ ตลอดจนพาเลท และสิ่งของต่าง ๆ ที่จะยก ต้องอยู่ในสภาพพร้อมใช้ด้วยเช่นกัน3. ควบคุมความเร็วของรถแฮนด์ลิฟท์ให้เหมาะสมแม้การใช้งานรถแฮนด์ลิฟท์อาจไม่ได้เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงนัก แต่ในกรณีที่ยกลากสินค้าที่มีน้ำหนักมากย่อมต้องคำนึงถึงความปลอดภัยอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากหากมีรถหรือคนเข้ามาขวางเส้นทางในระยะกระชั้นชิด อาจทำให้ไม่สามารถควบคุมหรือหยุดรถได้ทันท่วงที มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุได้ ดังนั้นการควบคุมความเร็วที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มความปลอดภัย และไม่ก่อให้เกิดอันตรายทั้งตัวผู้ใช้ คนรอบข้าง และสิ่งของต่างๆ ในพื้นที่คลังสินค้าหรือพื้นที่ทำงานโดยรอบด้วย4. ใช้ความระมัดระวังเมื่อต้องควบคุมรถแฮนด์ลิฟท์บนทางลาดชันเป็นอีกหนึ่งกรณีที่ไม่ควรมองข้ามเด็ดขาดเมื่อต้องควบคุมรถแฮนด์ลิฟท์หรือรถยกสินค้าบนเส้นทางลาดชัน หากเป็นขาลง ความเร็วของรถอาจเพิ่มสูงจนเบรกไม่อยู่และเกิดอุบัติเหตุชนเข้ากับผู้คนและสิ่งของต่าง ๆ ที่กีดขวางเส้นทางเดินรถได้ ส่วนขาขึ้นถ้าแบกน้ำหนักมากจนเกินกำลังขับก็มีโอกาสที่ของหรือรถลากจะไถลไปชนกับสิ่งของที่อยู่ด้านหลังเช่นกันด้วยเหตุนี้ การประเมินความพร้อมของรถยกลาก น้ำหนักสิ่งของ และการใช้งานที่ชำนาญจะช่วยสร้างความปลอดภัยในทุกครั้ง แต่ทางที่ดีหากต้องใช้รถแฮนด์ลิฟท์ขนหรือยกของหนักขึ้นทางลาดชัน ควรเรียกให้คนอื่นมาช่วยหรือเปลี่ยนไปใช้รถโฟล์คลิฟท์แทน5. อย่าเล่นสนุกหรือขึ้นไปยืนบนรถแฮนด์ลิฟท์ขณะกำลังใช้งานเด็ดขาดบางทีการเผลอเล่นสนุกจนลืมตัว อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุแบบไม่คาดฝันได้ จึงต้องคอยย้ำเตือนตนเองอยู่เสมอว่า รถแฮนด์ลิฟท์เหล่านี้เป็นอุปกรณ์สำหรับใช้ทำงานที่มีความอันตรายในระดับหนึ่ง อย่าขึ้นไปยืนเล่นระหว่างที่กำลังลากสิ่งของ หรือหยอกล้อเล่นกับบุคคลอื่นระหว่างการใช้งาน เพื่อป้องกันการเกิดเรื่องไม่คาดฝันซึ่งอาจนำไปสู่การบาดเจ็บรุนแรง6. หลังใช้งานเรียบร้อย ควรจอดให้เป็นที่หลังการใช้งานเสร็จเรียบร้อย อย่าลืมจอดรถแฮนด์ลิฟท์ให้ตรงจุดที่กำหนดเอาไว้ และไม่ควรยกไฮดรอลิกสูง เพราะอาจทำให้บุคคลซึ่งผ่านไปผ่านมาและไม่ทันมอง สะดุดได้ง่าย ๆ วิธีการ คือ เมื่อจอดเรียบร้อย ให้ปรับขายกอยู่ในระดับต่ำสุด จากนั้นล็อกล้อรถไม่ให้ไหลไปยังจุดอื่น เพียงเท่านี้การใช้งานรถลากพาเลทในแต่ละวัน ก็ไม่มีอะไรให้ต้องกังวลใจหรือมีอันตรายแล้วจะเห็นว่าอันตรายจากการใช้งานแฮนด์ลิฟท์หรือรถยกลากมักเกิดจากความประมาทของตัวบุคคลเป็นหลัก ทั้งการไม่เช็กสภาพความพร้อม ไม่ศึกษาข้อมูลการใช้งานให้ดี การหยอกล้อกับเพื่อนร่วมงาน ฯลฯ ดังนั้นวิธีการใช้งานรถแฮนด์ลิฟท์อย่างปลอดภัยที่สุดต้องเริ่มจากการมีสติ เข้าใจแนวทางการใช้อย่างถูกต้อง และบริษัทควรมีการตั้งกฎอย่างชัดเจนเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้เสมอ เพียงเท่านี้ ทุกครั้งที่ใช้งานแฮนด์ลิฟท์หรือรถยกลากก็ไม่ต้องกังวลเรื่องใด แถมยังทำให้งานสำเร็จลุล่วงตามกำหนดอีกด้วย

2024-01-07
รถเข็นอเนกประสงค์ JUMBO แข็งแรง ทนทาน

รถเข็นอเนกประสงค์ คือ ยานพาหนะที่เคลื่อนที่โดยการออกแรงเข็นหรือผลัก ในสมัยโบราณมนุษย์เริ่มทำล้อเลื่อนจากโครงไม้เป็นสำคัญ เช่น เกวียน รถม้า รถศึก เป็นต้น ปัจจุบันวัสดุที่นำมาใช้ทำรถเข็นมีหลากหลายชนิดด้วยกัน เช่น เหล็ก สเตนเลส พลาสติก อะลูมิเนียม เป็นต้น บริษัท เจนบรรเจิด จำกัด จำหน่ายรถเข็นอเนกประสงค์ JUMBO รถเข็น 4 ล้อ รับน้ำหนักได้ดี เคลื่อนย้ายและเข็นสะดวก แข็งแรง ทนทาน ได้รับความเชื่อมั่นอย่างสูงในด้านคุณภาพ และจำหน่ายอย่างกว้างขวางในทวีปยุโรป โดยเฉพาะประเทศเยอรมนี ประเทศในตะวันออกกลาง และเอเซีย มานานกว่า 2 ทศวรรษ รถเข็นอเนกประสงค์ JUMBO มีให้เลือกใช้งานหลากหลาย ทั้งรถเข็นพื้นเหล็ก รถเข็นพื้นพลาสติก รถเข็นพื้นสเตนเลส หากลูกค้าท่านใดสนใจ รถเข็นอเนกประสงค์ JUMBO สามารถติดต่อฝ่ายขาย Catalogue Sales โทร 02-096-9999 (200 คู่สาย) หรือสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่ www.jenbunjerdstore.com

2023-09-25
×
สายด่วนสั่งซื้อสินค้า บริการจัดหาสินค้า สินค้าสั่งทํา 02 096 9999
บริการหลังการขาย 02 096 9898
ต่อ 3102-3103
ไลน์ @jenstore
เวลาทําการ 08.30 - 17.30 น.
Copy to Clipboard