Please wait...

E-catalogue
สายด่วน
0
Loading...
0
คุณไม่มีรายการสินค้าในตะกร้าของคุณ
0 สินค้าในตะกร้า
ยอดรวมรถเข็น : 0
×
เลือกซื้อ “โต๊ะคอมพิวเตอร์” ให้เหมาะกับการใช้งาน

การทำงานที่จะต้องมีคอมพิวเตอร์ใช้ร่วมด้วยนั้น โดยส่วนใหญ่แล้วในสถานที่ทำงานมักจะนิยมใช้เครื่องคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ หรือที่นิยมเรียกกันว่าเครื่อง PC เนื่องจากมีประสิทธิภาพสูงกว่าในแบบอื่นๆ นั่นเอง แต่ด้วยความเทอะทะ และมีอุปกรณ์ต่อพ่วงเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอ เครื่องประมวลผล (CPU) เม้าส์ คีย์บอร์ด นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์เสริม อาทิเช่น เครื่องพิมพ์ โทรศัพท์ตั้งโต๊ะ เครื่องสแกนเนอร์ เครื่องถ่ายเอกสาร หรืออื่นๆ อีก ที่ต้องการใช้งาน ทำให้โต๊ะโดยทั่วไปนั้นรองรับการใช้งานไม่ได้อย่างเหมาะสมเท่าที่ควร ด้วยเหตุผลดังกล่าว จึงได้มีการออกแบบโต๊ะสำหรับการใช้งานคอมพิวเตอร์ PC โดยเฉพาะ ซึ่งสามารถที่จะรองรับอุปกรณ์ต่างๆ ไว้ให้อยู่ในที่เดียวกันได้ และยังสะดวกต่อการใช้งานอีกด้วย เช่น มีตำแหน่งสำหรับวาง CPU โดยเฉพาะ ไม่เกะกะและปลอดภัยจากกระแสไฟฟ้า มีตำแหน่งไว้สำหรับวางเครื่องพิมพ์หรือเครื่องสแกนเนอร์แยกต่างหาก สามารถใช้งานได้อย่างสะดวก มีตำแหน่งวางจอภาพที่เหมาะสม ถาดวางแป้นพิมพ์ที่สามารถเลื่อนเก็บเข้าไปใต้โต๊ะได้ บางแบบนั้นมีชั้นวางเมาส์ต่างหากให้ใช้งานสะดวกเพิ่มขึ้นอีกด้วย และยังมีพื้นที่เหลือสำหรับทำงานได้อย่างสะดวก โดยที่ไม่ต้องใช้พื้นที่การทำงานกว้างนัก โต๊ะคอมพิวเตอร์ถือว่าเป็นเฟอร์นิเจอร์อีกหนึ่งชิ้นที่ในปัจจุบันถือว่าจำเป็นมาก เพราะเชื่อว่าคนในปัจจุบันนี้ส่วนมากจะใช้คอมพิวเตอร์ในการให้ความบันเทิงหรือการทำงาน และแน่นอนว่าการเลือกซื้อโต๊ะคอมพิวเตอร์ก็ถือว่าจำเป็นอย่างมาก เพราะถ้าเลือกโต๊ะคอมพิวเตอร์ที่ดีและเหมาะสมก็จะทำให้เราสามารถทำงานได้อย่างราบรื่น แต่ถ้าเลือกโต๊ะคอมพิวเตอร์ที่ไม่เหมาะกับเราก็อาจจะทำให้เกิดอาการปวดเมื่อยและอาจจะส่งผลต่อคอมพิวเตอร์ของเราได้ด้วยเช่นกัน ปัจจัยในการการเลือกซื้อโต๊ะคอมพิวเตอร์ มีดังนี้ 1. พื้นที่วางคีย์บอร์ด อันนี้ถือว่าสำคัญมากเพราะคนส่วนมากยังแยกไม่ออกระหว่างโต๊ะทำงานและโต๊ะคอมพิวเตอร์และมักจะนำโต๊ะทำงานไปวางคอมพิวเตอร์ ถ้าโดยทั่วไปแล้วสามารถทำได้แต่ไม่เหมาะสม เพราะโต๊ะทำงานส่วนมากจะมีลิ้นชักใต้โต๊ะสำหรับใส่เอกสารและงานอื่นๆ แต่โต๊ะคอมพิวเตอร์จะมีแท่นวางคีย์บอร์ดแทนลิ้นชัก ในส่วนของแท่นวางคีย์บอร์ดควรจะมีความกว้างมากพอที่จะสามารถวางคีย์บอร์ดและเม้าส์ เพราะโต๊ะคอมพิวเตอร์บางตัวจะวางได้แค่คีย์บอร์ดเท่านั้น ส่วนเม้าส์ต้องวางไว้บนโต๊ะแทน ซึ่งโต๊ะแบบนี้จะเป็นรูปแบบที่ไม่ถูกต้องกับลักษณะการใช้งาน เพราะเมื่อเราใช้คอมพิวเตอร์ระดับของมือและแขนทั้งสองข้างที่จับคีย์บอร์ดและเม้าส์จะมีระดับที่แตกต่างกันจะส่งผลต่อความปวดเมื่อยเวลาใช้งาน แท่นวางคีย์บอร์ดต้องห่างจากขอบโต๊ะด้านบนประมาณ 15 เซนติเมตร และเมื่อดึงออกมาควรจะมองเห็นคีย์บอร์ดได้อย่างชัดเจน เพราะความห่างของขอบบนกับคีย์บอร์ดถ้าต่ำเกินไปจะมีปัญหากับการพิมพ์ทำให้ทำงานได้ล่าช้า 2. ที่วาง CPU ควรมีลักษณะโปร่ง ที่วาง CPU คอมพิวเตอร์ควรจะมีความโปร่งและสามารถรับลมได้เป็นอย่างดี ซึ่งในปัจจุบันนั้นส่วนมากจะทำตู้เล็กๆ สำหรับใส่ CPU ไว้ด้านล่างของโต๊ะคอมพิวเตอร์ ซึ่งจริงๆ แล้วตามหลักการคือผิด เพราะจะทำให้คอมพิวเตอร์ของเราสะสมควรร้อนไว้มาก ทำให้พังและเสียหายได้ง่าย เราต้องเข้าใจว่า CPUคอมพิวเตอร์จะมีการทำงานและมีการระบายความร้อนอยู่ตลอดเวลา จึงต้องการอากาศที่ถ่ายเทสะดวกเพื่อระบายความร้อนจากภายในออกมานั่นเอง ที่วาง CPU ควรจะมีความโล่งและไม่มีอะไรบังพัดลมระบายอากาศ ข้อมูลข้างต้นก็เป็นปัจจัยง่ายๆ ในการเลือกซื้อโต๊ะคอมพิวเตอร์ให้เหมาะสมกับการใช้งาน สิ่งเหล่านี้ต้องบอกว่าสำคัญมากๆ เพราะใครที่ทำงานหน้าคอมพิวเตอร์แต่ได้โต๊ะคอมพิวเตอร์ที่ไม่เหมาะสมนอกจากจะทำงานได้ช้า แล้วยังมีผลกระทบต่อสุขภาพของผู้ใช้งานอีกด้วย หากท่านกำลังมองหา โต๊ะคอมพิวเตอร์ ดีไซน์ทันสมัย หลากหลายรูปแบบ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อได้ที่ Catalogue Sales โทร 02-096-9999 (200 คู่สาย) อีเมล [email protected] หรือเว็บไซต์ www.jenbunjerdstore.com และโชว์รูมเจนบรรเจิดทั้ง 3 สาขา - สาขาเมืองทองธานี โทร 02-096-9898 ต่อ 1181 - สาขาวังน้อย โทร 02-096-9898 ต่อ 1902 - สาขาแม่สอด โทร 055-563-782

2023-09-25
เลือกซื้อเครื่องชั่งดิจิตอลยังไง? ให้เหมาะกับการใช้งานของคุณ

เครื่องชั่งดิจิตอล เป็นเครื่องชั่งน้ำหนักแบบใหม่ ที่ออกแบบและปรับปรุงให้เครื่องชั่งทำงานด้วยระบบดิจิตอล มีหน้าจอ LCD ที่อ่านค่าตัวเลขได้ชัดเจน และสะดวก สามารถชั่งน้ำหนักได้อย่างแม่นยำ แตกต่างจากเครื่องชั่งแบบเก่า เช่น เครื่องชั่งสปริง เครื่องชั่งแบบหน้าปัด เครื่องชั่งน้ำหนักตัว ฯลฯ เครื่องชั่งดิจิตอลแต่ละขนาดใช้ชั่งน้ำหนักสิ่งของที่แตกต่างกัน โดยเครื่องชั่งดิจิตอลขนาดเล็กใช้ชั่งสิ่งของขนาดเล็ก เช่น แหวน สร้อยข้อมือ พระเครื่อง ส่วนเครื่องชั่งดิจิตอลขนาดใหญ่ใช้ชั่งสิ่งของที่มีขนาดใหญ่ น้ำหนักมาก หลักในการเลือกเครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอล 1. น้ำหนักที่่ต้องการชั่ง หรือความสามารถในการชั่ง โดยทั่วไปดูจากน้ำหนักน้อยสุดและมากสุดที่เครื่องสามารถวัดได้ ในการพิจารณาเลือกซื้อควรดูจากปริมาณของที่ต้องการชั่งเป็นส่วนใหญ่ เช่น ต้องการชั่งของน้ำหนักไม่เกิน 1 กิโลกรัม ควรเลือกเครื่องที่สามารถชั่งได้มากสุด 1 หรือ 2 กิโลกรัม เนื่องจากถ้าเลือกเครื่องชั่งดิจิตอลที่มีขอบเขตในการชั่งกว้างมาก จะทำให้งบประมาณในการซื้อมีราคาสูงเกินความจำเป็น หรือหากเลือกเครื่องชั่งดิจิตอลที่มีความสามารถสูงสุดในการชั่งน้อยกว่าของที่ต้องการชั่ง อาจจะทำให้เครื่องชั่งพังได้ 2. ความละเอียดในการแสดงผลหรือการชั่ง พิจารณาจากน้ำหนักสิ่งของที่ต้องการชั่ง แล้วเลือกเครื่องชั่งที่มีความละเอียดของน้ำหนักแต่ละขั้นอย่างที่่คุณต้องการ เช่น - หากต้องการชั่งแป้งสาลีปริมาณ 100.6 กรัม ควรเลือกเครื่องชั่งที่มีความสามารถในการแสดงค่าได้ละเอียดเป็น 0.1 กรัม - หากต้องการชั่งสารเคมี 10.250 กรัม ควรเลือกใช้เครื่องชั่งที่มีความสามารถในการแสดงค่าได้ละเอียดที่ 1 มิลลิกรัม 3. ความแม่นยำ เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้น้ำหนักที่ได้มีความถูกต้องมากหรือน้อย พิจารณาจากค่า Linearity และค่าความคลาดเคลื่อน เช่น +/- 10 กรัม หมายถึง น้ำหนักที่ชั่งได้ 500 กรัม แต่น้ำหนักจริงๆ อาจอยู่ในช่วง 490 – 510 กรัม 4. ฟังก์ชัน Tare (น้ำหนักเริ่มต้นเป็นศูนย์) หรือการลบน้ำหนักภาชนะที่ใส่ก่อนบรรจุของที่ต้องการชั่ง ในการใช้ปุ่ม Tare จะทำให้ผู้ใช้เริ่มต้นน้ำหนักของเครื่องชั่งจากศูนย์โดยหักลบน้ำหนักของภาชนะบรรจุ เช่น จาน หรือถุงพลาสติก เพื่อให้ได้ค่าที่แท้จริงของน้ำหนักที่ต้องการทราบค่า 5. หน่วยการชั่ง เครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอลส่วนใหญ่สามารถอ่านค่าได้ที่หน่วยกรัม หรือเครื่องชั่งดิจิตอลบางแบบสามารถเปลี่ยนหน่วยเป็น ออนซ์ ปอนด์ และนิวตันส์ ในห้องปฏิบัติการนั้นมักใช้เครื่องชั่งหน่วยกรัมหรือมิลลิกรัมในการอ่านค่า หรือทางฟิสิกส์มักอ่านค่าเป็นนิวตันส์ สำหรับเครื่องชั่งในห้องน้ำมักอ่านค่าเป็นหน่วยออนซ์ ปอนด์ หรือกิโลกรัม หากท่านกำลังมองหา เครื่องชั่งดิจิตอล มาใช้งาน เจนบรรเจิดจำหน่าย เครื่องชั่งดิจิตอล และเครื่องช่างชนิดอื่นๆ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อได้ที่ Catalogue Sales โทร 02-096-9999 (200 คู่สาย) อีเมล [email protected] หรือเว็บไซต์ www.jenbunjerdstore.com และโชว์รูมเจนบรรเจิดทั้ง 3 สาขา - สาขาเมืองทองธานี โทร 02-096-9898 ต่อ 1181 - สาขาวังน้อย โทร 02-096-9898 ต่อ 1902 - สาขาแม่สอด โทร 055-563-782

2023-09-25
ยางชะลอความเร็ว ลดความเร็ว ช่วยลดอุบัติเหตุ

ยางชะลอความเร็ว (Speed Ramp) เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำจากยางธรรมชาติ ยางสังเคราะห์ ยางรีไซเคิล หรือยางผสมของวัสดุ 2 ชนิด มีลักษณะเป็นยางตัน เป็นชั้นเดียวหรือ 2 ชั้นก็ได้ ใช้ติดตั้งเพื่อชะลอความเร็วของพาหนะ มีสีที่มองเห็นได้ชัดเจนในระยะไกลในเวลากลางคืน โดยทั่วไปจะเป็นสีดำและสีเหลือง ขนาดของยางชะลอความเร็วมีความกว้างประมาณ 30 ซม. และมีความสูงในช่วง 50 - 120 มม. นอกจากนี้ยังมียางปิดหัวท้ายชะลอความเร็ว (End Cap) เพื่อใช้ปิดปลายทั้งสองด้านของยางชะลอความเร็ว ยางชะลอความเร็ว เป็นอุปกรณ์จราจรที่นำมาใช้แทนลูกระนาดหรือเนินชะลอความเร็วแบบปูนที่ติดตั้งขวางทิศทางการจราจร เพื่อลดความเร็วของยานพาหนะ ตามข้อบังคับของเจ้าพนักงานจราจร รถยนต์ที่วิ่งผ่านยางชะลอความเร็วควรใช้ความเร็วไม่เกิน 30 กม./ชม. ซึ่งจะไม่ทำให้ระบบช่วงล่างของรถยนต์เสียหาย การบำรุงรักษายางชะลอความเร็ว เมื่อใช้งานยางชะลอความเร็วไปช่วงระยะเวลาหนึ่ง ยางชะลอความเร็วย่อมเกิดความชำรุดเสียหาย ซึ่งอาจเกิดจากสาเหตุหลายประการ เช่น ความเสื่อมสภาพของวัสดุจากการใช้งานปกติ ความเสียหายจากยานพาหนะที่มีน้ำหนักบรรทุกเกินกว่าที่ยางชะลอความเร็วจะสามารถรับน้ำหนักได้ ความบกพร่องในการผลิต เป็นต้น หากตรวจพบความชำรุดเสียหายของยางชะลอความเร็ว เช่น วัสดุแตกร้าวหรือหลุดร่อน ควรเร่งดำเนินการซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพดีดังเดิม เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายเพิ่มมากขึ้น และอาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดอุบัติเหตุบนถนนด้วย นอกจากนี้สีเครื่องหมายจราจรบริเวณยางชะลอความเร็วต้องมีการตรวจสอบความชัดเจนอยู่เสมอ หากพบว่าสีเครื่องหมายจราจรมีสภาพไม่ชัดเจน เนื่องจากความสกปรก ให้ทำความสะอาดโดยการขัดล้างเพื่อให้เส้นสีอยู่ในสภาพชัดเจน หากพบว่าสีเครื่องหมายจราจรเลือนราง หรือหลุดลอก ให้ดำเนินการซ่อมแซมและปรับผิวให้เรียบร้อย แล้วทาสีเส้นเครื่องหมายจราจรใหม่ ดังนั้นการบำรุงรักษายางชะลอความเร็วต้องจัดให้มีการสำรวจ ตรวจสอบ บำรุงรักษาและซ่อมแซมอยู่เป็นประจำ เพื่อให้การใช้ยางชะลอความเร็วเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย หากท่านใดสนใจ ยางชะลอความเร็ว เจนบรรเจิดจัดจำหน่าย ยางชะลอความเร็ว คุณภาพดี ราคาถูก เหมาะสำหรับติดตั้งบนถนนในโรงงานอุตสาหกรรม โรงเรียน หมู่บ้าน ยางชะลอความเร็วผลิตจากยางธรรมชาติ ลดการกระแทกกับช่วงล่างรถ ช่วยลดอุบัติเหตุ ชะลอความเร็วรถให้เหลือ 0-30 กม./ชม. สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อได้ที่ Catalogue Sales โทร 02-096-9999 (200 คู่สาย) อีเมล [email protected] หรือเว็บไซต์ www.jenbunjerdstore.com และโชว์รูมเจนบรรเจิดทั้ง 3 สาขา - สาขาเมืองทองธานี โทร 02-096-9898 ต่อ 1181 - สาขาวังน้อย โทร 02-096-9898 ต่อ 1902 - สาขาแม่สอด โทร 055-563-782

2023-09-25
มาทำความรู้จัก “ประเภทของอุปกรณ์งานช่าง” กันเถอะ..

อุปกรณ์งานช่าง เป็นสิ่งสำคัญในการปฏิบัติงานช่าง เครื่องมือในงานช่างมีหลายชนิดหลายประเภท อุปกรณ์งานช่างแต่ละประเภทก็มีลักษณะหน้าที่ในการใช้งานแตกต่างกันไปตามลักษณะของงาน อุปกรณ์งานช่างสามารถแยกได้ 3 ประเภท ได้แก่ เครื่องมือ (Hand Tools) เครื่องมือวัด (Measuring Tools) และเครื่องมือกล (Machine Tools) 1. เครื่องมือ (Hand Tools) เป็นเครื่องมือพื้นฐานที่ใช้สำหรับงานช่างทั่วไป มีทั้งขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ สามารถใช้ได้โดยไม่ต้องมีเครื่องจักรหรือกลไกอื่นมาบังคับ ช่างทุกประเภทหากขาดเครื่องมือนี้แล้ว ไม่อาจทำงานได้สำเร็จ เครื่องมือสามารถจำแนกได้ 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ - เครื่องมือทั่วไป เป็นเครื่องมือพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับช่าง เช่น ค้อน คีม ไขควง ประแจ ฯลฯ - เครื่องมือเฉพาะทาง เป็นเครื่องมือที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน เช่น เครื่องมือดูดพูลเลย์ หรือตลับลูกปืน 2. เครื่องมือวัด (Measuring Tools) ออกแบบมาเพื่อใช้กับงานวัด ตรวจสอบขนาดชิ้นงาน ต้องระมัดระวังในการใช้งานมาก เช่น ไมโครมิเตอร์ (Micrometer) เวอร์เนียร์ (Vernier) 3. เครื่องมือกล (Machine Tools) การใช้งานเครื่องมือประเภทนี้ มีต้นกำลังมาขับเคลื่อน และมีทั้ง ชนิด ขนาด แตกต่างกัน รวมถึงใช้งานเบา-หนักไม่เท่ากัน โดยส่วนใหญ่จะเรียกชื่อตามลักษณะการใช้งาน เช่น เครื่องกลึง เครื่องเจียระไน เครื่องคว้านกระบอกสูบ เพลาข้อเหวี่ยง เป็นต้น หากท่านใดสนใจ อุปกรณ์งานช่าง สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อได้ที่ Catalogue Sales โทร 02-096-9999 (200 คู่สาย) อีเมล [email protected] หรือเว็บไซต์ www.jenbunjerdstore.com และโชว์รูมเจนบรรเจิดทั้ง 3 สาขา - สาขาเมืองทองธานี โทร 02-096-9898 ต่อ 1181 - สาขาวังน้อย โทร 02-096-9898 ต่อ 1902 - สาขาแม่สอด โทร 055-563-782

2023-09-25
ประโยชน์ของโต๊ะพับ โต๊ะอเนกประสงค์ที่เหมาะกับทุกการใช้งาน

โต๊ะ เป็นเครื่องเรือนที่มีพื้นผิวด้านบนเรียบขนานกับพื้น รองรับน้ำหนักโดยขาโต๊ะ โดยอาจใช้สำหรับวางสิ่งของ เช่น อาหาร หนังสือ ฯลฯ โดยความสูงมีความพอเหมาะสำหรับการนั่ง และโดยมากจะใช้คู่กับเก้าอี้ โต๊ะในยุคก่อนหน้านี้ จะแตกต่างจากปัจจุบัน โดยโต๊ะในปัจจุบันมักไม่มีลิ้นชัก โต๊ะที่มีไว้สำหรับเขียนและทำงานในออฟฟิศจะเรียก โต๊ะทำงาน (Desk) ซึ่งจะมีลิ้นชักอย่างน้อย 1 อันหรือมากกว่านั้น โต๊ะสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทตามลักษณะโครงสร้าง คือ โต๊ะพับได้ และโต๊ะพับไม่ได้ บทความนี้เราจะพูดถึงโต๊ะพับได้กัน ซึ่งโต๊ะพับนั้นมีอยู่ด้วยกันมากมายหลายแบบ ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมในแต่ลักษณะงานที่ใช้ บางแบบนั้นเป็นโต๊ะสี่เหลี่ยมจตุรัส บางแบบนั้นก็เป็นโต๊ะยาว และก็มีอีกหลายๆ แบบที่เป็นโต๊ะกลม เรื่องของวัสดุที่ใช้เป็นแผ่นโต๊ะนั้นก็แตกต่างออกไป บางแบบก็จะใช้เนื้อไม้ บางแบบก็จะเป็นเหล็กแผ่นขึ้นรูป บางแบบก็เป็นพลาสติก และอื่นๆ แต่ก็จะมีองค์ประกอบหลักที่ตรงกันนั่นก็คือ พับได้ ประโยชน์ของโต๊ะพับ 1. ประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บ เนื่องจากโต๊ะสามารถพับได้ จึงไม่เกะกะพื้นที่ใช้สอย หลังจากใช้งานเรียบร้อยแล้ว 2. สามารถนำไปใช้นอกสถานที่ได้อย่างสะดวก เพราะมีน้ำหนักเบา และเคลื่อนย้ายได้ง่าย 3. สามารถนำไปใช้กับงานได้หลายประเภท เนื่องจากมีหลายรูปแบบให้เลือก 4. ดูแลรักษาได้ง่าย เพราะโครงสร้างไม่มีอะไรที่ซับซ้อน 5. เป็นที่นิยมนำไปทำธุรกิจด้านงานจัดเลี้ยงต่าง ๆ ได้ทุกประเภท นี่เป็นเพียงประโยชน์ส่วนหนึ่งของโต๊ะพับเท่านี้ ก็ทำให้สามารถตัดสินใจได้ว่าในบ้าน หรือที่ทำงานของคุณน่าจะมีโต๊ะพับไว้สักตัวหนึ่งสำหรับไว้ใช้งาน เจนบรรเจิด ขอแนะนำ โต๊ะพับ (Foldable Table) หน้าโต๊ะผลิตจาก HDPE บริสุทธิ์และสามารถรับแรงกระแทกได้ดี มีสารป้องกัน UV 100% ทนแดดและความร้อน ทนฝน เหมาะสำหรับใช้ในร่ม และกลางแจ้ง โครงสร้างเหล็กกล้า ใต้หน้าโต๊ะ สามารถรับน้ำหนักได้ดี ไม่บิดงอ เชื่อมต่อโครงสร้างด้วยระบบดิจิตอลพร้อมทำสีด้วยระบบ Power Coated ป้องกันสนิม โต๊ะสามารถพับได้พร้อมคลิปล็อกขา ง่ายต่อการขนย้ายและจัดเก็บ และยังมีห่วงล็อกขาโต๊ะ 2 ระดับ เพิ่มความมั่นคง ป้องกันขาโต๊ะพับงอเมื่อกางใช้งาน หากท่านใดสนใจ โต๊ะพับ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อได้ที่ Catalogue Sales โทร 02-096-9999 (200 คู่สาย) อีเมล [email protected] หรือเว็บไซต์ www.jenbunjerdstore.com และโชว์รูมเจนบรรเจิดทั้ง 3 สาขา - สาขาเมืองทองธานี โทร 02-096-9898 ต่อ 1181 - สาขาวังน้อย โทร 02-096-9898 ต่อ 1902 - สาขาแม่สอด โทร 055-563-782

2023-09-25
ประวัติของกระดาษ ก่อนจะมาเป็นกระดาษ A4

มนุษย์เริ่มรู้จักวิธีทำกระดาษเมื่อประมาณ 2,000 กว่าปีมาแล้วในประเทศจีน โดยเอาฟางมาแช่น้ำทิ้งไว้ เมื่อฟางเปื่อยดีแล้วนำไปตีจนเละ จึงกรองเยื่อที่ได้ออก เอาไปล้างให้สะอาดอีกครั้งก็จะได้เยื่อกระดาษ วิธีทำกระดาษให้เป็นแผ่นในสมัยนั้น ทำโดยเอาเยื่อกระดาษที่ล้างสะอาดแล้วมาละลายน้ำอีกครั้งหนึ่งในถังไม้ น้ำที่ใช้ผสมต้องมากประมาณ 10-15 เท่าของเนื้อเยื่อ แล้วใช้ตะแกรงไม้ไผ่ตาถี่ช้อนลงไปในถัง เนื้อเยื่อจะติดตะแกรง พอหมาดดีแล้วลอกเยื่อกระดาษที่ติดตะแกรงเป็นแผ่นออกไปตากแดดจนแห้ง กระดาษจะหนาหรือบางขึ้นอยู่กับความข้นของเยื่อ ถ้าต้องการกระดาษหนาก็ผสมเยื่อให้ข้น กระดาษที่ได้มีสีน้ำตาลเพราะทำจากฟาง จึงเรียกว่า กระดาษฟาง ต่อมามีการใช้ผ้าขี้ริ้วหรือเศษผ้าแช่ กับน้ำด่างที่ได้จากขี้เถ้าแล้วตีจนเละเช่น เดียวกับวิธีทำกระดาษฟาง แต่กระดาษที่ได้มีสีเทา และเนื้อละเอียดกว่ากระดาษฟางมาก ในอดีตการใช้กระดาษในประเทศไทยไม่ปรากฏหลักฐานอย่างชัดเจน แต่มีวัสดุที่มีลักษณะคล้ายกระดาษ ซึ่งผลิตจากเยื่อไม้ทุบละเอียด ต้มจนเปื่อย ใส่แป้งเพื่อให้เนื้อกระดาษเหนียว แล้วนำไปกรองในกระบะเล็กๆ ทิ้งไว้จนแห้ง แล้วลอกออกมาเป็นแผ่น พับทบไปมาจนตลอดความยาว จึงได้เป็นเล่มสมุด เรียกว่า “สมุดไทยขาว” แต่หากต้องการ “สมุดไทยดำ” ก็จะผสมผงถ่านในขั้นตอนการผลิต การใช้กระดาษในปัจจุบัน เนื่องจากกระดาษเป็นวัสดุสิ้นเปลือง จึงมีการนำกระดาษกลับมาใช้อีก เช่น กระดาษหนังสือพิมพ์นำมาพับถุงกระดาษ กระดาษสำหรับเขียนแม้ใช้แล้วทั้งสองหน้า ก็สามารถนำไปพิมพ์อักษรเบรลล์สำหรับคนตาบอดได้ เมื่อหมดสภาพแล้ว ก็นำไปเข้าโรงงานแปรรูปเป็นสินค้าประเภทลังกระดาษได้อีก กระดาษที่ใช้งานทั่วไป ปัจจุบันนี้ใช้ขนาดมาตรฐาน คือ ขนาด A4 น้ำหนัก 80-100 แกรม เป็นส่วนมาก หากท่านใดสนใจ กระดาษ A4 เจนบรรเจิด จัดจำหน่าย กระดาษ A4 กระดาษ A4 idea กระดาษ A4 Double A กระดาษสำนักงาน สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อได้ที่ Catalogue Sales โทร 02-096-9999 (200 คู่สาย) อีเมล [email protected] หรือเว็บไซต์ www.jenbunjerdstore.com และโชว์รูมเจนบรรเจิดทั้ง 3 สาขา - สาขาเมืองทองธานี โทร 02-096-9898 ต่อ 1181 - สาขาวังน้อย โทร 02-096-9898 ต่อ 1902 - สาขาแม่สอด โทร 055-563-782

2023-09-25
กระดานไวท์บอร์ด เขียนลื่น ลบง่าย อายุการใช้งานยาวนาน

เจนบรรเจิด จำหน่าย กระดานไวท์บอร์ด หลากหลายแบบ ทั้งกระดานไวท์บอร์ด แบบแขวนติดผนัง เคลือบด้วยเมลามีนอย่างดี เขียนลื่น ลบง่าย ไม่ทิ้งคราบ ขอบอะลูมิเนียม แข็งแรง ทนทาน พร้อมรางสำหรับวางแปรงลบกระดานและปากกาด้านล่าง และกระดานไวท์บอร์ด แบบขาตั้งล้อเลื่อน โครงขาตั้งผลิตจากเหล็กพ่นสี มีล้อเข็น เคลื่อนย้ายสะดวก สามารถถอดเก็บได้ มีหลายขนาดให้เลือกใช้ นอกจากการเลือกใช้กระดานไวท์บอร์ดที่เหมาะสมกับการใช้งานของเราแล้ว การเลือกใช้กระดานไวท์บอร์ดที่มีคุณสมบัติที่ดี ก็เป็นอีกปัจจัยที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง เพื่อให้กระดานไวท์บอร์ดของเรามีอายุการใช้งานที่ยาวนาน และปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน กระดานไวท์บอร์ดที่ดีควรมีลักษณะดังนี้ 1. มีโครงสร้างที่แข็งแรง จะเป็นไม้หรือเป็นเยื่อใยไม้ที่อัดด้วยความหนาแน่นสูงและขัดผิวหน้าเรียบเสมอกันทั้งแผ่น และจะต้องไม่มีไอระเหยจากสารเคมีที่มีอยู่ในขบวนการผลิตวัสดุเหล่านั้น โดยผู้ผลิตวัสดุจะต้องแสดงผลการตรวจสอบรับรองว่าได้ผลิตตามมาตรฐานที่มีการตรวจสอบระดับของสารเคมีในวัสดุในระดับที่ปลอดภัยแก่ผู้ใช้งานแล้ว 2. วัสดุที่เป็นผิวหน้าของกระดานต้องไม่เงาวาวสะท้อนแสง วัสดุที่ใช้ทำผิวหน้าของกระดานจะต้องมีความทนทานต่อการใช้งานทนต่อสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อยๆได้ดี มีมุมมองในการสะท้อนแสงน้อย ไม่ว่าแสงของดวงอาทิตย์หรือแสงไฟ แม้ว่าจะเคลื่อนที่ไปอยู่ในมุมใดๆ ก็ตามจะไม่เกิดเงาสะท้อนเข้าตาของผู้ใช้งาน 3. สีของแผ่นผิวหน้าของกระดานไวท์บอร์ด หากเป็นสีขาวล้วน เมื่อมองแล้วจะรู้สึกเมื่อยล้าสายตาจึงควรเลือกใช้ชนิดที่มีเส้นตารางด้วย ควรเลือกใช้เส้นตารางเป็นสีเทา เส้นตารางนี้นอกจากจะช่วยให้การเขียนกระดานได้ง่ายแล้ว ยังช่วยในการลดแสงสะท้อนที่รุนแรงให้อ่อนลงได้ด้วย เนื่องจากเส้นสีเทาอ่อนทำให้ช่วยปรับสภาพความจ้าของแสง และรู้สึกผ่อนคลายสายตามากขึ้นกว่ากระดานไวท์บอร์ดที่เป็นพื้นขาวโพลน 4. ผิวหน้าของกระดานไวท์บอร์ดควรตอบสนองกับการใช้งานอื่นๆ นอกเหนือจากการใช้เขียนคือ การใช้เป็นจอรับภาพจากเครื่องฉายโปรเจคเตอร์โดยที่ไม่เป็นเงาสะท้อนจากตัวกำเนิดลำแสงของเครื่องฉาย และควรเลือกกระดานที่มีผิวหน้าตอบสนองกับระบบอินเทอร์เรคทีฟชนิดต่างๆ โดยไม่ต้องจัดหาจอมอนิเตอร์ให้เสียงบประมาณซ้ำซ้อนอีก 5. ด้านหลังของแผ่นกระดานไวท์บอร์ดที่เป็นไม้ควรเลือกใช้แบบที่มีการติดแผ่น PROTECTION FILM ผนึกไว้ เพื่อกันความชื้นและน้ำ เนื่องจากแผ่นไม้จะดูดซับความชื้นทั้งในอากาศ การติดฟิล์มป้องกันน้ำและความชื้นจะทำให้อายุการใช้งานของกระดานไวท์บอร์ดหรือกรีนบอร์ดนี้ยาวนาน ตัดปัญหาการเสื่อมสภาพของแผ่นกระดานไปได้เลย 6. กระดานไวท์บอร์ดที่ดีจะไม่ต้องอาศัยน้ำยาทำความสะอาดที่เป็นเคมีหรือผสมเคมีมาใช้ทำความสะอาด เนื่องจากคุณภาพของพลาสติกสังเคราะห์ที่นำมาทำแผ่นผิวกระดานมีคุณภาพแตกต่างกันมาก บางชนิดเมื่อถูกใช้เขียนแล้วไม่สามารถลบออกจากผิวกระดานได้หมดยังคงเหลือคราบติดค้างทำให้ดูสกปรก ต้องใช้สารทำละลายกลุ่มสาร Solvent มาทำความสะอาด เช่น ทินเนอร์ น้ำมันสน แอลกอฮอล์ น้ำมันเบนซิน ซึ่งล้วนเป็นอันตรายต่อสุขภาพกระทบต่อภาวะโลกร้อน กระดานไวท์บอร์ดที่ดีจึงต้องมีคุณสมบัติพิเศษที่สามารถลบกระดานให้สะอาดได้ด้วยน้ำเปล่าธรรมดากับผ้าขนหนูเท่านั้น ซึ่งให้ทั้งความปลอดภัยต่อผู้ใช้ และไม่กระทบกับสิ่งแวดล้อม หากท่านใดสนใจ กระดานไวท์บอร์ด สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อได้ที่ Catalogue Sales โทร 02-096-9999 (200 คู่สาย) อีเมล [email protected] หรือเว็บไซต์ www.jenbunjerdstore.com และโชว์รูมเจนบรรเจิดทั้ง 3 สาขา - สาขาเมืองทองธานี โทร 02-096-9898 ต่อ 1181 - สาขาวังน้อย โทร 02-096-9898 ต่อ 1902 - สาขาแม่สอด โทร 055-563-782

2023-09-25
ไม่สวย ไม่เท่ แต่ปลอดภัยไว้ก่อน ด้วยอุปกรณ์จราจร “เสื้อสะท้อนแสง”

อุปกรณ์จราจร คือ อุปกรณ์ที่ใช้งานเพื่อควบคุมความเป็นระเบียบ ในการใช้เส้นทางต่างๆ บนท้องถนน เช่น เสื้อสะท้อนแสง กรวยจราจร กระจกมองทางโค้ง ป้ายจราจร ฯลฯ นอกจากนี้อุปกรณ์จราจรยังถือเป็นสัญลักษณ์ที่คอยเตือนผู้ใช้รถบนผิวจราจรให้เพิ่มความระมัดระวังในการใช้ถนนได้อย่างถูกต้อง เพื่อลดอันตรายหรืออุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นได้ อุปกรณ์จราจร เป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญอย่างมากสำหรับผู้ใช้ยานพาหนะ เพราะถ้าไม่มีอุปกรณ์เหล่านี้แล้ว อาจจะทำให้เกิดความสับสนในการใช้ถนน และเกิดอุบัติเหตุตามมาได้ ซึ่งอุปกรณ์จราจรในปัจจุบันมีหลากหลายประเภท โดยแต่ละประเภทมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งต้องมีการเลือกใช้ให้ถูกต้องตามความเหมาะสมของแต่ละสถานที่ อุปกรณ์จราจรที่สำคัญ มีดังนี้ 1. เสื้อสะท้อนแสง เป็นอุปกรณ์จราจร เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและสวัสดิภาพให้แก่ผู้สวมใส่ ซึ่งมีสีเสื้อและแถบคาดสะท้อนแสงที่ถูกออกแบบมาให้เห็นได้เด่นชัด ทั้งในเวลากลางวันและเวลากลางคืน เหมาะสมสำหรับผู้ปฏิบัติงานตามท้องถนนและอาคารสถานที่ต่าง ๆ เช่น ธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ ธุรกิจการบิน ธุรกิจปิโตรเคมี และหน่วยงานรักษาความปลอดภัย เป็นต้น 2. กรวยจราจร การตั้งกรวยจราจร มีจุดประสงค์เพื่อกั้นขอบเขต ล้อมรอบอาณาเขตหรือกั้นห้ามไม่ให้รถสามารถจอดได้ ทั้งยังไว้สำหรับเป็นสัญลักษณ์เตือนให้ระวัง หรือมีสิ่งกีดขวางบนผิวถนน เช่น ทางข้างหน้าอาจจะมีอุบัติเหตุ เป็นเขตก่อสร้างหรือซ่อมแซมถนน โดยกรวยจราจรนี้มักใช้กับงานจราจร ถือเป็นอุปกรณ์สำคัญที่จะช่วยเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก 3. กระจกโค้ง กระจกประเภทนี้จะมีลักษณะเป็นทรงกลม มักจะพบเห็นได้ตามมุมอับ หรือทางแยก เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ และการมองเห็นที่ชัดเจนแก่ผู้ขับขี่ในบริเวณทางจราจร สามารถช่วยลดอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นได้ 4. ป้ายจราจร หรือเครื่องหมายจราจร เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยของอุปกรณ์จราจร ที่ถือเป็นสัญลักษณ์ทางจราจรที่ใช้ในการควบคุมการจราจร มักเป็นสัญญาณแสงหรือป้าย มีจุดประสงค์เพื่อกำหนดบังคับการเคลื่อนตัวของจราจร การจอด หรืออาจเป็นการเตือน หรือแนะนำทางจราจร โดยทั่วไปลักษณะป้ายจราจร จะมีลักษณะต่างกันไปตามข้อกำหนดมาตรฐานสากล ซึ่งรูปแบบและสัญลักษณ์ต่างๆ เช่น รูปแบบ ตัวเลข สี ขอบป้าย จะมีความหมาย และสื่อถึงประเภทและการใช้งานที่แตกต่างกัน โดยตัวป้ายมักจะทำจากแผ่นอลูมิเนียม ที่จะมีน้ำหนักเบา ไม่ขึ้นสนิม โดยความหนาของแผ่นอลูมิเนียมที่นิยมใช้ ก็จะมีตั้งแต่ 1 มม. ขึ้นไป แต่ที่นิยมมากที่สุดคือความหนา 2 มม. ทั้งนี้ความหนาของแผ่นอะลูมิเนียมก็ขึ้นอยู่กับขนาดของป้ายด้วย โดยป้ายที่มีขนาดใหญ่ก็จะมีความหนาเพิ่มขึ้น หากท่านใดกำลังสนใจหาซื้อ อุปกรณ์จราจร อย่างเสื้อสะท้อนแสง กรวยจราจร กระจกมองทางโค้ง ป้ายจราจร ฯลฯ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อได้ที่ Catalogue Sales โทร 02-096-9999 (200 คู่สาย) อีเมล [email protected] หรือเว็บไซต์ www.jenbunjerdstore.com และโชว์รูมเจนบรรเจิดทั้ง 3 สาขา - สาขาเมืองทองธานี โทร 02-096-9898 ต่อ 1181 - สาขาวังน้อย โทร 02-096-9898 ต่อ 1902 - สาขาแม่สอด โทร 055-563-782

2023-09-25
เลือกสว่านไฟฟ้าอย่างไร ให้ถูกประเภทการใช้งาน

สว่านไฟฟ้า เป็นเครื่องมือประเภทเจาะที่นิยมใช้กันมากในปัจจุบัน สามารถใช้เจาะวัสดุต่างๆ เช่น คอนกรีตปูน โลหะ ไม้ และพลาสติก ได้สะดวกและรวดเร็ว เนื่องจากสว่านประเภทนี้ใช้พลังงานไฟฟ้าในการทำงาน ก่อนจะตัดสินใจเลือกซื้อสว่านไฟฟ้า ควรถามตัวเองก่อนว่า ต้องการสว่านเพี่อใช้งานกับอะไร ประเภทไหน งานหนัก งานเบา ใช้ซ่อมแซมตกแต่งบ้าน หรือใช้รับงานนอกบ้าน ใช้งานประดิษฐ์ (DIY) หรือใช้ทำลายถนนคอนกรีต วันนี้เจนบรรเจิดมีสิ่งที่ควรพิจารณาในการเลือกซื้อสว่านไฟฟ้า ให้ผู้ที่กำลังสนใจหาซื้อสว่านไฟฟ้าได้ทราบกัน มีดังนี้ 1. กำลังไฟ มีหน่วยเป็นวัตต์ จำนวนวัตต์สูงๆ นอกจากให้กำลังในการทะลุทะลวงสูงแล้ว ยังสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องนานกว่า โดยไม่ต้องกังวลว่าเครื่องจะร้อนเกิน แต่ก็กินไฟเยอะกว่าด้วย ส่วนสว่านไร้สาย กำลังไฟจะบอกเป็นโวลต์ ตัวเลขยิ่งสูง หมายถึง กำลังและน้ำหนักของแบตเตอรี่ที่มากกว่า แต่ไม่ได้หมายความว่าแบตเตอรี่จะอยู่ได้นานกว่า เช่น หากอยากได้สว่านใช้งานทั่วไปในบ้าน งาน DIY กำลังไฟฟ้าส่วนใหญ่ก็จะอยู่ที่ประมาณไม่เกิน 300 วัตต์ ซึ่งจะให้ความเร็วรอบในการเจาะงานประเภทต่างๆ ได้ 2. อัตราความเร็วรอบ (RPM) สว่านชนิดที่มีอัตราเร็วรอบสูงจะสามารถเจาะได้เร็วกว่า แรงกว่า ควรเลือกสว่านที่สามารถปรับ ความเร็วได้หลายระดับ สำหรับใช้งานกับความแข็ง และอ่อนของวัสดุที่ต่างกัน 3. เส้นผ่าศูนย์กลางสูงสุดของการเจาะ ส่วนมากจะบอกรายละเอียดเป็นตัวเลขเส้นผ่าศูนย์กลางสูงสุดที่สามารถเจาะคอนกรีต ไม้ เหล็กได้ (ขึ้นอยู่กับว่าสว่านรุ่นนั้นใช้เจาะวัสดุใดบ้าง) ถ้าเป็นสว่านกระแทกและสว่านโรตารี มักบอกตัวเลขเส้นผ่าศูนย์กลางสูงสุดของการเจาะคอนกรีตไว้ให้เห็นชัดเจน 4. อัตราการเจาะกระแทกต่อนาที (BPM หรือ IPM) คือ ค่าที่บ่งบอกความสามารถในการกระแทก สำหรับสว่านกระแทกและสว่านโรตารี หากท่านใดกำลังมองหา สว่านไฟฟ้า หรือเครื่องมือช่างไฟฟ้าอื่นๆ ไว้ใช้งาน ท่านสามารถสั่งซื้อที่ www.jenbunjerdstore.com หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Catalogue Sales โทร 02-096-9999 (200 คู่สาย) อีเมล [email protected] และโชว์รูมเจนบรรเจิดทั้ง 3 สาขา - สาขาเมืองทองธานี โทร 02-096-9898 ต่อ 1181 - สาขาวังน้อย โทร 02-096-9898 ต่อ 1902 - สาขาแม่สอด โทร 055-563-782

2023-09-25
แนวทางในการจัดเก็บสถานที่ทำงานของคุณให้น่าอยู่ ด้วย 5 ส.

การสร้างบรรยากาศที่ดีในที่ทำงานนั้นส่งผลต่อการทำงานของคุณได้มากกว่าที่คุณคิด แต่จะทำอย่างไรให้ที่ทำงานของคุณมีบรรยากาศที่ดี วันนี้เรามีวิธีจัดสถานที่ทำงานที่รกให้น่าอยู่โดยอาศัยหลัก 5 ส. (สะสาง สะดวก สะอาด สุขลักษณะ สร้างนิสัย) มาติดตามกันค่ะ การทำให้สถานที่ทำงานน่าอยู่ ด้วยหลัก 5 ส. ขั้นตอนแรก คือ การจัดเรียงสิ่งของให้เป็นระเบียบและลดความยุ่งเหยิง เช่น การนำสิ่งของที่ไม่จำเป็นออกจากสถานที่ทำงาน การกำจัดสิ่งของที่ไม่ได้ใช้ที่อาจรบกวนกระบวนการทำงาน เป็นต้น เมื่อเราจัดเรียงสิ่งของให้เป็นระเบียบแล้ว ก็จะช่วยให้เราหาสิ่งของได้ง่ายขึ้น หยิบใช้ได้ง่ายสะดวกขึ้น ไม่เสียเวลาในการค้นหา ทำให้กระบวนการทำงานเป็นไปอย่างรวดเร็วและปลอดภัย การจัดระเบียบชีวิตการทำงานของคุณที่เป็นเรื่องยากที่สุด คือ การกำจัดความยุ่งเหยิง และรักษาสิ่งที่มีคุณค่าในชีวิตของคุณ แนวคิดในการคัดแยกสิ่งของในที่ทำงานของคุณ มีดังนี้ - กำจัดสิ่งของที่ไม่ได้ใช้ - จัดระเบียบสภาพแวดล้อมที่ทำงานให้เป็นระเบียบ - ลดการสะสมสิ่งของที่ไม่เป็นระเบียบ หลังจากที่คุณได้กำจัดสิ่งที่ไม่ต้องการแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการจัดลำดับชีวิตการทำงานของคุณให้ง่ายที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ - เก็บสิ่งของที่มีลักษณะคล้ายกันไว้ในที่ที่เดียวกัน - เก็บสิ่งของที่ใช้เป็นประจำ ให้อยู่ใกล้กับพื้นที่ที่ต้องใช้งาน - จัดระเบียบที่ทำงานให้เป็นระเบียบ โดยการใช้กล่องอเนกประสงค์ช่วยจัดระเบียบ ขั้นตอนต่อมา คือ การดูแลรักษา ซึ่งเป็นเรื่องที่มีหลักการง่ายๆ คุณสามารถรักษาสิ่งของให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้นได้ด้วยการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ เช่น การทำความสะอาดพื้นที่ทำงานอย่างสม่ำเสมอ ป้องกันการเสื่อมสภาพของอุปกรณ์ เป้าหมายของขั้นตอนนี้ คือ การทำให้อุปกรณ์เครื่องมือและสิ่งของทั้งหมดในที่ทำงานมีลักษณะใหม่อยู่เสมอ โดยการปฏิบัติตามหลักการจะทำให้สถานที่ทำงานของคุณสะอาดและเป็นระเบียบเรียบร้อยยิ่งขึ้น ขั้นตอนถัดมา เป็นขั้นตอนที่สำคัญอีกหนึ่งขั้นตอน คือ การสร้างระเบียบวินัยในชีวิตการทำงาน การกำหนดกิจวัตรที่เป็นประโยชน์และดีต่อสุขภาพ จะช่วยลดความยุ่งยากในชีวิตของคุณ และทำให้ชีวิตของคุณง่ายขึ้น ขั้นตอนสุดท้าย คือ การดูแลรักษาสภาพแวดล้อมของคุณในระยะยาว คุณต้องปรับปรุงระบบการจัดระเบียบสิ่งต่างๆ และปฏิบัติตามอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดเป็นนิสัย ซึ่งถ้าคุณตัดสินใจที่จะจัดระเบียบตัวเองและปรับสภาพแวดล้อมในการทำงานของคุณให้ดีขึ้น การใช้หลัก 5 ส. เป็นวิธีที่ดีในการบรรลุเป้าหมายดังกล่าว ซึ่งวิธีการต่างๆ สามารถนำไปใช้งานได้จริงและได้ประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยม ถึงเวลาแล้วที่คุณจะนำหลัก 5 ส. มาใช้ในการจัดเก็บที่ทำงานของคุณ มันอาจจะยากมากที่จะทิ้งสิ่งของชิ้นแรกที่คุณไม่ต้องการ แต่เมื่อคุณได้ลงมือทำแล้ว ในที่สุดมันจะทำให้คุณเกิดความรู้สึกที่ดี และกระบวนการต่างๆ ของคุณจะสามารถเริ่มต้นขึ้นได้ เมื่อคุณได้สัมผัสถึงบรรยากาศที่ดีในการทำงาน มีสภาพแวดล้อมที่สะอาดและเป็นระเบียบ แล้วหลัก 5 ส. จะกลายเป็นส่วนสำคัญในการดำเนินชีวิตและกิจวัตรประจำวันของคุณ

2023-09-25
"เชือกไปรษณีย์" อุปกรณ์สำคัญในการหีบห่อและขนส่ง

ในปัจจุบันต้องยอมรับว่าการซื้อขายสินค้าออนไลน์ เป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก เพราะเป็นช่องทางที่สะดวก และไม่ต้องเสียเวลาออกไปเลือกซื้อ เพียงแค่คุณอยู่ที่บ้าน ที่ทำงาน ก็สามารถเลือกซื้อสินค้าได้ตามต้องการ แต่เมื่อมีการสั่งซื้อแล้ว ขั้นตอนต่อมาก็คือการเตรียมจัดส่งสินค้า ซึ่งสิ่งประทับใจที่นอกเหนือจากคุณภาพของสินค้าแล้ว หากแม่ค้า-พ่อค้ามีการบรรจุหีบห่อสินค้าเป็นอย่างดี ก็สามารถสร้างความประทับใจให้แก่ลูกค้า หรือผู้ซื้อได้เช่นกัน เจนบรรเจิด ขอแนะนำ เชือกไปรษณีย์ (Cotton Rope) ผลิตจากวัสดุอย่างดี มีความเหนียวเป็นพิเศษ ไม่ขาดง่าย และไม่พันกัน ใช้สำหรับรัดวัสดุสิ่งของ หีบห่อ กล่อง บรรจุภัณฑ์ และพัสดุต่างๆ ที่ต้องการความแน่นหนา มี 2 แบบให้เลือกใช้งาน 1. เชือกไปรษณีย์ รุ่นสีขาว เหมาะสำหรับการรัดวัสดุสิ่งของเพียงชั่วคราว 2. เชือกไปรษณีย์ รุ่นสีขาว-แดง เหมาะสำหรับการรัดวัสดุสิ่งของ ที่ต้องการความแน่นเป็นพิเศษ หากมีสนใจสั่งซื้อสินค้า หรือข้อสงสัยต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดต่อ Catalogue Sales โทร 02-096-999 (200 คู่สาย) หรืออีเมล [email protected] ทุกวันจันทร์ - วันศุกร์ เวลา 08.00 - 18.00 น.

2023-09-25
รถเข็นแบบไหน? ที่เหมาะกับการใช้งานของคุณ...

การเลือกใช้รถเข็นให้เหมาะสม เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุจากการใช้งานรถเข็น ขอบเขตของการใช้งานของรถเข็น มีการใช้งานอยู่ทั่วไป ตั้งแต่การใช้ส่วนตัวในที่พักอาศัย การใช้งานในห้างสรรพสินค้า ตลาด สำนักงาน โรงงาน หรือในคลังสินค้า เราจึงสามารถพบเห็นการใช้งานรถเข็นได้เกือบทุกแห่งรถเข็นในงานอุตสาหกรรมสามารถแบ่งประเภทตามโครงสร้างออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ 1. รถเข็นล้อเลื่อน ไม่มีมือจับ เป็นพื้นหรือโครงติดล้อ 4 ล้อ ใช้สำหรับวางสิ่งของที่ไม่หนักมาก และจะใช้งานในพื้นที่ที่มีบริเวณแคบ การใช้งานจะทำโดยการขยับรถเข็นไปมาในพื้นที่ใช้งานบริเวณใกล้ๆ ไม่ไกลมาก 2. รถเข็น 2 ล้อ มักจะเป็นรถเข็นที่มีโครงสร้างรถในแนวตั้งสูงระดับมือคน เหมาะที่จะใช้ในการขนส่งสิ่งของทั่วไป บนพื้นที่ทางแคบ หรือพื้นไม่เรียบเสมอกัน ใช้ในระยะทางไม่ไกลนัก 3. รถเข็น 4 ล้อ หรือมากกว่า 2 ล้อขึ้นไป เป็นรถเข็นที่มีพื้นวางตามแนวราบ สามารถวางสิ่งของชิ้นใหญ่หรือจำนวนมาก และรับน้ำหนักมากๆ ได้ มักจะใช้ในพื้นที่ทางราบ และต้องการเข็นไปไกล รถเข็นมักจะถูกออกแบบหรือดัดแปลงโครงสร้างให้เหมาะกับงานแต่ละประเภทได้ง่าย และเลือกใช้วัสดุต่างๆ กันในการทำรถเข็น ทำให้มีรูปแบบและการใช้งานที่ต่างๆ กันหลากหลายมาก การเลือกใช้รถเข็นจึงต้องพิจารณาจากปัจจัยด้านอื่นๆ ด้วย เช่น น้ำหนักและรูปทรงของวัสดุขนย้าย พื้นที่และลักษณะการใช้งาน ล้อรถ ช่องทางการวิ่ง เป็นต้น หากท่านใดสนใจ รถเข็น รถเข็น 2 ล้อ รถเข็น 4 ล้อ หรือรถเข็นชนิดอื่นๆ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อได้ที่ Catalogue Sales โทร 02-096-9999 (200 คู่สาย) อีเมล [email protected] หรือเว็บไซต์ www.jenbunjerdstore.com และโชว์รูมเจนบรรเจิดทั้ง 3 สาขา - สาขาเมืองทองธานี โทร 02-096-9898 ต่อ 1181 - สาขาวังน้อย โทร 02-096-9898 ต่อ 1902 - สาขาแม่สอด โทร 055-563-782

2023-09-25
ทำไมต้องเลือกใช้งานผลิตภัณฑ์สเตนเลส? สเตนเลสมีดีอย่างไร?

หลายๆ คนเคยสงสัยกันบ้างไหมว่า ทำไมปัจจุบันผลิตภัณฑ์สเตนเลสถูกนำมาใช้งานอย่างกว้างขวางมากขึ้น เหตุผลหลักๆ ที่ทำให้คนนิยมเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สเตนเลส เพราะข้อดีและคุณสมบัติทางกายภาพของมัน ซึ่งเป็นวัสดุที่มีความสามารถในด้านการต้านทานการถูกกัดกร่อนสูง สเตนเลส เป็นโลหะผสม (Ferrous Alloy) ระหว่างเหล็กกับสารหลายชนิด ที่สำคัญ คือ สารโครเมียมอย่างน้อย 10% ที่ทำให้เหล็กกลายเป็นโลหะผสม ที่สามารถทนการกัดกร่อน และทนสนิมทั้งจากธรรมชาติ และจากสิ่งแวดล้อมที่มนุษย์สร้างขึ้นได้ นิยมนำมาใช้สำหรับการใช้งานในภาคอุตสาหกรรมประเภทต่างๆ ในบทความนี้เราจะกล่าวถึงจุดเด่นที่สำคัญของผลิตภัณฑ์สเตนเลส ที่ทำให้เป็นที่นิยมและถูกนำมาใช้ในงานต่างๆ 1. ความแข็งแรงทนทาน วัสดุที่ใช้ทำผลิตภัณฑ์สเตนเลส ส่วนใหญ่ทำมาจากสเตนเลสเนื้อดีที่มีคุณสมบัติในด้านความแข็งแรงและทนทานต่ออุณหภูมิสูง/ต่ำ ทนต่อการกัดกร่อนได้ดี ไม่ผุร่อนง่าย อีกทั้งยังมีความปลอดภัยสูง ซึ่งเราจะเห็นได้ว่าในปัจจุบันสเตนเลสได้ถูกนำมาใช้ในการผลิตเครื่องใช้ในครัวเรือนรวมถึงเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ มากมาย 2. ความสวยงาม นอกจากความแข็งแรงทนทานแล้ว ปัจจุบันเราจะเห็นว่าผลิตภัณฑ์สเตนเลสนั้น มีรูปแบบการดีไซน์ต่างๆ ที่สวยงามทันสมัยมากขึ้น ซึ่งนอกจากจะตอบสนองความต้องการใช้งานแล้ว ยังส่งเสริมประสิทธิภาพการใช้งานและอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น 3. ทำความสะอาดง่าย เรื่องของการทำความสะอาดนั้นก็ง่ายมาก ๆ โดยปกติแล้ว เมื่อมีการใช้ผลิตภัณฑ์สเตนเลสก็มักจะเกิดรอยคราบ รอยสกปรกติดอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งร้านอาหารต่างๆ คราบอาหาร คราบลายนิ้วมือ คราบตกค้าง ก็ย่อมเกิดขึ้นได้ง่าย เพียงแค่ล้างทำความสะอาดด้วยฟองน้ำแล้วใช้ผ้าสะอาดเช็ดให้แห้งอีกครั้ง ในส่วนของผลิตภัณฑ์สเตนเลสที่มีคราบมัน ก็ให้ใช้น้ำอุ่นล้างคราบความมันออก เพียงเท่านี้ก็ทำให้ผลิตภัณฑ์สเตนเลสกลับมาเงางามเหมือนใหม่ได้แล้ว การทำความสะอาดจึงเป็นอีกวิธีการดูแลที่จะช่วยปกป้องและยืดอายุการใช้งาน และนี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมปัจจุบันผลิตภัณฑ์สเตนเลสถูกนำมาใช้งานอย่างกว้างขวาง ทั้งในงานโรง พยาบาล เครื่องครัว ด้านโภชนาการและด้านเภสัชกรรม เนื่องจากความทนทาน ต้องการการดูแลรักษาน้อย และค่าใช่จ่ายต่ำเมื่อเปรียบเทียบกับระยะเวลาการใช้ งาน การใช้ผลิตภัณฑ์สเตนเลสจึงให้ความรู้สึกถึงความปลอดภัยแก่ผู้ใช้งาน หากท่านใดสนใจ ผลิตภัณฑ์ อุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้สเตนเลสสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อได้ที่ Catalogue Sales โทร 02-096-9999 (200 คู่สาย) อีเมล [email protected] หรือเว็บไซต์ www.jenbunjerdstore.com และโชว์รูมเจนบรรเจิดทั้ง 3 สาขา - สาขาเมืองทองธานี โทร 02-096-9898 ต่อ 1181 - สาขาวังน้อย โทร 02-096-9898 ต่อ 1902 - สาขาแม่สอด โทร 055-563-782

2023-09-25
"รถยกลากไฟฟ้า รุ่น CBD-W-Li Series" พลังงานสะอาด เทรนด์ของโลกยุคใหม่

รถยกลากไฟฟ้า แบบเดินตามElectric Pallet Truck Walkieรุ่น CBD-W-Li Series - ยกน้ำหนักได้สูงสุง 1,200 และ 1,500 กก. - ขนาดเล็กกะทัดรัด เลี้ยวคล่องตัว ใช้ในพื้นที่จำกัดได้ดี เช่น ลิฟท์ ร้านค้าขนาดเล็ก - ระบบมอเตอร์ DC Brushless ไม่มีแปรงถ่าน บำรุงรักษาง่าย - แบตเตอรี่แบบ Lithium ไม่ต้องเติมน้ำกลั่น บำรุงรักษาง่าย - ระยะเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่ 3 ชม. และสามารถใช้งานต่อเนื่องได้นาน 6 ชม. หมายเหตุ: หากต้องการใช้งานต่อเนื่องมากกว่า 6 ชม. หรือการทำงานเป็นกะ ให้สำรองแบตเตอรี่ 1 ลูก เพื่อสลับใช้งาน (สามารถสั่งซื้อแบตเตอรี่เพิ่มเติมได้) สนใจติดต่อ ฝ่ายขาย Catalogue Sales โทร 02-096-9999 (200 คู่สาย) อีเมล [email protected]

2023-09-25
5 สัญลักษณ์ป้ายจราจร ที่ดูเหมือนง่าย แต่มือใหม่มักเข้าใจผิด

และนี่คือ 5 ป้ายสัญลักษณ์จราจรที่ควรรู้ เพราะมือใหม่หัดขับหลายๆ คนมักจะเข้าใจผิด มีอะไรบ้างไปดูกันเลย 1. เป็นป้ายที่หลายๆ คนมักจะเข้าผิดเป็นการเดินรถสวนกันซะมาก ซึ่งเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกันอย่างสิ้นเชิง เพราะป้ายสัญลักษณ์นี้คือ “ให้รถสวนทางไปก่อน”ท่านไหนที่เข้าใจผิดก็ขอให้ทำความเข้าใจใหม่นะคะ 2. ป้ายนี้อาจมีลักษณะคล้ายงู หรือคล้ายแม่น้ำ แต่จริงๆ แล้วนี่คือสัญลักษณ์ “ทางคดเคี้ยวเริ่มขวา” ดังนั้นเมื่อเจอป้ายนี้ต้องขับรถด้วยความระมัดระวัง ค่อยๆ เลี้ยว ไม่เช่นนั้นอาจจะเกิดอันตรายได 3. ป้ายนี้มีลักษณะคล้ายภูเขา แต่จริงๆ แล้วสัญลักษณ์นี้กำลังจะบอกเราว่าด้านหน้าเป็น “ผิวทางขรุขระ” มีหลุมบ่อ หรือสันติดต่อกัน ให้ขับรถให้ช้าลงแล้วคุณจะปลอดภัย 4. ป้ายนี้อาจจะมีลักษณะคล้ายภาพแม่น้ำ คล้ายสะพาน ก็แล้วแต่จินตนาการของแต่ละคน แต่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่สิ่งที่คุณคิด เพราะนี่คือป้าย “ทางเบี่ยงซ้าย” สื่อสารว่าข้างหน้ามีการก่อสร้าง ดังนั้นคุณจะต้องเปลี่ยนแนวทางไปใช้ทางเบี่ยงหรือทางชั่วคราวทางด้านซ้ายนั้นเอง 5. นี่ไม่ใช้ป้ายจราจรว่าข้างหน้ามีรถถัง หรือป้ายบอกว่าข้างหน้ามีการปฏิวัติ แต่เป็นป้ายจราจรที่สื่อสารว่า ด้านหน้ามีเครื่องจักรกำลังทำงานอยู่ข้างทางๆ ทางและล้ำเข้ามาในผิวจราจร หรือใกล้ผิวจราจรเป็นครั้งคราว เห็นป้ายนี้ขับอย่างระมัดระวังกันหน่อยนะคะ หากท่านใดสนใจ ป้ายเครื่องหมายจราจร สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อได้ที่ Catalogue Sales โทร 02-096-9999 (200 คู่สาย) อีเมล [email protected] หรือเว็บไซต์ www.jenbunjerdstore.com และโชว์รูมเจนบรรเจิดทั้ง 3 สาขา - สาขาเมืองทองธานี โทร 02-096-9898 ต่อ 1181 - สาขาวังน้อย โทร 02-096-9898 ต่อ 1902 - สาขาแม่สอด โทร 055-563-782

2023-09-25
ไม่มีไม่ได้แล้ว “เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง” สำหรับช่างมืออาชีพ

หากเราอยากเป็นช่างมืออาชีพ สิ่งแรกที่เราต้องคำนึงคือ จะเลือกอุปกรณ์ให้เหมาะสมกับงานอย่างไร !! วันนี้ เว็บไซต์ Jenbunjerdstore.com ขอแนะนำเครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง ทีช่างมืออาชีพควรมีติดไว้ พอเจอปัญหาบ้าน ๆ เมื่อไหร่จะได้ลงมือแก้ไขได้ทันที แล้วจะรู้ว่างานช่าง ซ่อมแซม หรือต่อเติมที่ดูว่ายาก มันง่ายกว่าที่คิดเยอะ 1.สว่านไฟฟ้า งานหลักของเขาก็คือ การเจาะวัสดุต่าง ๆ เช่น ผนัง ไม้ หรือโลหะให้เป็นรู ไว้สำหรับติดตั้งหรือประกอบเฟอร์นิเจอร์ตามที่เราต้องการ สามารถปรับทิศทางและรอบสูงต่ำการหมุนได้ เป็นเครื่องมือที่ได้ยอมรับจากช่างมือชีพมายาวนาน 2.ค้อนหงอน เครื่องมือช่างที่ไม่มีใครไม่รู้จัก เป็นค้อนใช้ถอนหรือตอกตะปู ด้านจับหุ้มด้วยยางเพื่อให้กระชับมือ ค้อนที่เหมาะแก่การใช้งานควรมีน้ำหนักประมาณ 0.7 กิโลกรัม 3.คีม เครื่องที่มีหน้าตาเหมือนกรรไกร เปรียบสเมือนมือที่เอาไว้จับ หนีบ และตัดสิ่งต่าง ๆ เช่น โลหะบาง สายไฟ ท่อขนาดเล็ก และเส้นลวด คีมมีให้เลือกใช้งานหลายชนิด เช่น คีมปากจิ้งจก คีมปากขยาย คีมล็อก คีมตัด และคีมปากทแยง เป็นต้น 4.ชุดไขควง หนึ่งในเครื่องมือช่างที่มีหัวไขสารพัดขนาด เป็นเครื่องมือที่ใช้แรงบิดสำหรับขันหรือคลายสกรูและสลักเกลียวที่ยึดไม้หรือโลหะ ปากหรือปลาย ใช้สอดหรือสวมเข้าไปยังร่องของหัวสกรูหรือสลักเกลียว ทำจากโลหะ ลักษณะปากมี 2 แบบ คือ ปากสี่แฉก และปากแบน 5.ชุดประแจ เครื่องมือสำหรับยึด ขัน เหรือคลายผังสกรู นอต สลักเกลียว ประแจแบ่งออกเป็น 3 ชนิด ประแจจับแป๊ป ประแจปากตาย และประแจบ็อกซ์ 6.ตลับเมตร เป็นเครื่องมือวัดที่นิยมใช้กันมากที่สุด เป็นเครื่องมือที่ช่างมืออาชีพ จำเป็นต้องมี สายวัดทำจากโลหะแผ่นบางที่บิดงอได้ สามารถวัดได้ทั้งแนวที่เป็นเส้นตรงและเส้นโค้ง บนสายวัดจะมีมาตรวัดเพื่อบอกระยะทั้งเป็นเซนติเมตรและเป็นนิ้ว 7. ตู้เก็บเครื่องมือเคลื่อนที่ ใช้เก็บเครื่องมือ เช่น ประแจ คีม ไขควง หรืออุปกรณ์ที่เกียวกับการซ่อม ให้มีความเป็นระเบียบ ทำให้หาเครื่องมือได้ง่ายขึ้น และที่สำคัญมีเป็นลิ้นชักที่เคลื่อนที่ได้ จะนำไปใช้งานที่ไหนก็สะดวก รวดเร็ว หากท่านใดสนใจ อุปกรณ์งานช่าง สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อได้ที่ Catalogue Sales โทร 02-096-9999 (200 คู่สาย) อีเมล [email protected] หรือเว็บไซต์ www.jenbunjerdstore.com และโชว์รูมเจนบรรเจิดทั้ง 3 สาขา - สาขาเมืองทองธานี โทร 02-096-9898 ต่อ 1181 - สาขาวังน้อย โทร 02-096-9898 ต่อ 1902 - สาขาแม่สอด โทร 055-563-782

2023-09-25
เจาะ insight ตามติดไทม์ไลน์ชีวิตวิศวกร

อาชีพ “วิศวกร” เป็นอาชีพในฝันสำหรับใครหลายๆ คน ซึ่ง ใน 1 วันพวกเขาเหล่านั้นต้องทำงานอะไรบ้าง เราจะมาเล่าการทำงาน 1 วัน ในตำแหน่งวิศวกร (ในฝัน) ให้ฟังกันค่ะ ในชีวิตการทำงานของวิศวกร ใครๆ ก็คิดว่าสบาย แต่ความเป็นจริงแล้วอาชีพนี้ต้องเสี่ยงกับอันตราย จากเครื่องอุปกรณ์เครื่องจักรภายในโรงงาน แถมอาจจะต้องเดินทางไปทำงานนอกสถานที่ หรืออาจจะต้องเจอกับอุบัติเหตุอื่นๆทีอาจจะไม่ได้คาดคิด เพราะฉะนั้นในการทำงานเราจะต้องมีอุปกรณ์ที่เพิ่มความปลอดภัยในการทำงานการให้กับเรา วันนี้เราจะขอเจาะ insight 1 วันที่วิศกรต้องเจอ ว่ามีอะไรบ้าง (ช่วงเช้า) เข้างาน เปิดคอม เชคอีเมล์ อ่านรายงานจากฝ่ายผลิต หรือฝ่ายอื่น เพื่อให้การผลิตงานเป็นไปอย่างปกติ ประชุมประจำวัน ในสายงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อปรึกษาเกี่ยวกับปัญหาที่ทีมงานเจอ ถ้าเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับวิศกรอย่างเรา ก็ต้องรีบดำเนืนการแก้ไข (ใครว่าสบาย จริงมั้ย ) ต้องประสานงานกับฝ่ายที่เราต้องเข้าไปดำเนินการแก้ไข นัดหมายเวลา และสถานที่ พร้อมกับต้องแจ้งข้อมูลให้หัวหน้ารับทราบ และอนุมัติด้วย ประชุมกันในทีม และในฝ่ายกันอีกสักรอบ และไปกินข้าวเติมพลังกันสักหน่อย ก่อนจะออกไปหน้างานตอนบ่าย (ช่วงบ่าย) ออกตรวจสอบหน้างาน แต่เดี๋ยวก่อน!! วิศวกรอย่างเรา ก่อนที่จะเข้าไปที่ site งาน จะต้องมีอุปกรณ์ที่ช่วย Safety ชีวิตของเราไม่ว่าจะเป็น - หมวกนิรภัยกันกระแทก เป็นอุปกรณ์ อย่างแรกที่วิศกรต้องมี ต้องผ่านการทดสอบการทนทานต่อแรงเจาะทะลุ สามารถป้องกันการกระแทกได้ดี - ชุดป้องกันฝุ่น ช่วยป้องกันฝุ่นละออง ที่มีอนุภาคเล็ก ๆ กันของเหลวที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย - แว่นครอบตา ช่วยป้องกันการกระเด็นของเศษวัสดุไม่ว่าจะเป็นฝุ่น วัสดุของเหลว ไม่ให้กระเด็นเข้าตาเรา ในขณะที่กำลังปฏิบัติงาน - ชุดกระบังหน้า อุปกรณ์ป้องกันใบหน้า เราจะใช้แว่นเพียงอย่างเดียวไม่ได้ เพราะวัสดุที่เป็นอันตรายอาจจะกระเด็นใส่หน้าของเรา เพราะฉะนั้นจะต้องมีทั้งแว่น และชุดกระบังหน้าเดียว - ถุงมือ มีทั้งแบบป้องกันความร้อน สารเคมี และกันไฟฟ้า เป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นที่วิศกรอย่างเรา ไม่ควรลืมที่จะสวมมัน เด็ดขาด อุปกรณ์พวกนี้เป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นอย่างมากในการทำงาน ใครสนใจเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.jenbunjerdstore.com/safety-br-security.html วิศวกรอย่างเราจะขาดอุปกรณ์พวกนี้ไม่ได้เด็ดขาด (ช่วงเย็น) กลับมาถึงออฟฟิศ ก็ต้องประชุมสรุปงานต่อ ตรวจเช็คอีเมลกันอีกรอบ เตรียมข้อมูลต่าง ๆ นัดคุยรายละเอียดกันในฝ่าย นั่งรอเวลากลับบ้าน ถึงเวลาเลิกงาน จะรออะไรก็กลับบ้านเรา กันเถอะ จ้า จบแล้วค่ะ 1 วันสำหรับการทำงานของวิศวกร อาชีพในฝันสำหรับใครหลายๆ คน สำหรับตอนหน้าจะเกี่ยวข้องกับอาชีพในฝันอะไร มารอติดตามกันได้เลยค่ะ ^^

2023-09-25
jenbunjerd เพิ่มโอกาสการเลือกซื้อผ่านเว็บไซต์ง่าย ๆ ซื้อได้ทุกที่ ทุกเวลา!

จากเดิมเรามีช่องทาง jenbunjerd Catalogue Sales 02-096-9999 200 คู่สาย! ที่ให้บริการลูกค้า แต่ปัจจุบันนี้ เราเพิ่มช่องทางการขาย ผ่านเว็บไซต์ jenbunjerdstore.com ที่สามารถซื้อสินค้าได้ครบจบในเว็บเดียว ง่าย ๆ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็สามารถซื้อสินค้ากับ jenbunjerd ได้ทุกที่ ช่วยให้ลูกค้าสามารถ ซื้อ >จ่าย > รับ ได้สะดวกขึ้นยิ่งขึ้น ไม่ใช่เพียงเท่านี้เรายังมีช่องทางการติดต่อสื่อสารเพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถสอบถามรายละเอียดต่าง ๆผ่านช่องทาง Line: @jenbunjerd และ facebook page jenbunjerd ได้อีกด้วย เพิ่มช่องทางการซื้อสินค้าผ่านเว็บไซต์ออนไลน์ ให้ลูกค้าเลือกซื้อง่ายยิ่งขึ้น ปัจจุบันต้องยอมรับว่าการสั่งซื้อสินค้าในยุคปัจจุบัน มีการแข่งขันกันที่รวดเร็วมากขึ้น จะรอช้าแบบเดิมไม่ได้อีกแล้ว ดังนั้น เครื่องมือในการสื่อสารไปยังกลุ่มลูกค้าจึงเป็นเรื่องสำคัญ เป็นการเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้า และยังเป็นการเพิ่มโอกาสทางการขายให้แก่บริษัทได้ดียิ่งขึ้น เพียง 3 ขั้นตอน เท่านั้น!! ก็สามารถเลือกซื้อได้ทุกที่ ทุกเวลา ซื้อ : ซื้อสินค้าง่าย ๆ แค่ปลายนิ้วผ่าน jenbunjerdstore.com จ่าย : ชำระเงินง่าย ๆ สะดวกรวดเร็ว เลือกได้กับ 3 รูปแบบการชำระเงินที่สะดวกสบาย (ชำระผ่านบัตรเครดิต,โอนเงินผ่านบัญชีธนาคาร และผ่านระบบสินเชื่อ) รับ : รอรับสินค้าแบบสบาย ๆ ได้ทันที พร้อมบริการจัดส่งฟรี* เพียงมียอดซื้อขั้นต่ำ 500.- (ตามเงื่อนไขที่บริษัทฯ กำหนด) การขายสินค้าผ่านเว็บไซต์ออนไลน์ในยุคปัจจุบันนี้ไม่ใช่เพียงแค่เลือกดูสินค้า และโทรสั่งกับฝ่ายขาย แต่เว็บไซต์ขายสินค้าในปัจจุบันจะต้องเป็นเว็บไซต์ที่สามารถอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าได้ภายในเว็บเดียว เพราะฉะนั้นแบรนด์หรือผู้ขายจะรอลูกค้าอย่างเดียวไม่ได้แล้ว แต่เราต้องเพิ่มโอกาสและความเพิ่มสามารถของตนเอง ให้ทันต่อเทคโนโลยีและเทรนด์ในปัจจุบันด้วย

2023-09-25
รถเข็นอะลูมิเนียม JUMBO ขนาดกะทัดรัด พกพาสะดวก ทนทาน คุ้มค่าคุ้มราคา

ไม่ต้องทนยกของหนักๆ ให้ปวดเมื่อยอีกต่อไป เจนบรรเจิด ขอแนะนำ "รถเข็นอะลูมิเนียม" แบรนด์ JUMBO ตัวช่วยในการเคลื่อนย้ายสินค้า หรือของต่างๆ เพื่อให้การทำงานของคุณรวดเร็วขึ้น โครงสร้างผลิตจากอะลูมิเนียมอย่างดี น้ำหนักเบา ขนาดกะทัดรัด ไม่ว่าจะพกพาไปไหนก็ใช้งานได้สะดวกสบาย คล่องตัว และมือจับสามารถขยายได้ มี 2 แบบให้เลือกใช้งาน สะดวกใช้แบบไหนเลือกเลยค่ะ 1. รถเข็นอะลูมิเนียมสองล้อพับได้ แบบขยายมือจับได้ เหมาะสำหรับงานเข็นทั่ว ๆ ไป พื้นรถสามารถพับเก็บได้ รับน้ำหนักได้สูงถึง 150 กก. พกพาไปที่ไหนก็สะดวก 2. รถเข็นพื้นอะลูมิเนียม แบบมือจับขยายได้ พื้นรถโปร่งผลิตจากท่ออะลูมิเนียม ตัวพื้นรถและมือจับยืดขยายได้ ทำความสะอาดง่าย ไม่เป็นสนิม เหมาะสำหรับงานเข็นทั่ว ๆ ไป หากท่านใดสนใจสั่งซื้อสินค้า หรือมีข้อสงสัยต้องการทราบรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติม สามารถติดต่อ Catalogue Sales โทร 02-096-9999 (200 คู่สาย) หรืออีเมล [email protected] ทุกวันจันทร์ - วันศุกร์ เวลา 08.30 - 17.30 น.

2023-09-25
เคล็ดไม่ลับ เผยทริคง่าย ๆ ทำความสะอาดพื้น ให้สะอาดใสปิ๊ง ก่อนใคร!

พนักงานทำความสะอาดหรือแม่บ้านคงจะต้องเคยเจอกับหลายๆ ปัญหาในการทำความสะอาดพื้นกันมาบ้างไม่ว่าจะเป็นคราบสกปรกตามพื้น รอยด่าง พื้นโป่งพอง หรือในบางครั้งไม่ว่าเราจะทำความสะอาดเท่าไรก็ไม่สะอาดสักที วันนี้เรามีทริคเล็กๆ น้อยๆ ในการทำความสะอาดมาฝาก มาดูกันว่าพื้นประเภทไหนต้องทำความสะอาดอย่างไรแล้วจะใสปิ๊ง ตามมาดูกันได้เลยค่ะ พื้นกระเบื้องเซรามิกทั่วไป พื้นกระเบื้องเซรามิกเป็นพื้นที่นิยมมากพื้นผิวประเภทนี้เมื่อมีฝุ่นสามารถความสะอาดได้ง่ายโดยเริ่มจากการปัดกวาดหรือดูดฝุ่นออกให้สะอาด จากนั้นใช้ ไม้ถูพื้น บิดน้ำพอหมาดๆ ถูพื้นกระเบื้อง 1 รอบก่อน ส่วนรอบที่ 2 ให้ผสมน้ำอุ่น น้ำยาทำความสะอาดพื้น หรือน้ำยาฆ่าเชื้อผสมกันใช้ไม้ถือพื้นอีกครั้ง และรอให้แห้งสนิท เท่านี้พื้นกระเบื้องเซรามิกก็จะสะอาดใสปิ๊งอย่างแน่นอน พื้นไม้ลามิเนต สำหรับพื้นไม้ลามิเนตจะบอกว่าต้องดูแลและทำความสะอาดเป็นพิเศษ เพราะเป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดเชื้อราหรือโป่งพองได้ง่าย เนื่องจากมีส่วนประกอบของไม้ วิธีการทำความสะอาดพื้นประเภทนี้เลยเน้นที่การกวาดพื้นตามปกติจะดีที่สุดหรือใช้เป็น เครื่องกวาดพื้น ก็ได้เพราะจะทำให้การกวาดรวดเร็วและสะอาดกว่าเราใช้ไม้กวาดดอกหญ้า แต่ถ้าหากที่พื้นมีคราบสกปรกฝังแน่น แนะนำให้ใช้ผ้าชุบน้ำพอหมาด *(เน้นว่าพอหมาดนะคะ) เช็ดถูบริเวณที่มีคราบฝังแน่นเฉพาะจุด ก็จะช่วยป้องกันพื้นไม้เสียหายได้ และอีกหนึ่งอย่างที่ต้องระวังห้ามใช้ไม้แปรงทำความสะอาดพื้นประเภทนี้เด็ดขาด เพราะอาจเกิดรอยต่าง ๆ ได้ค่ะ พื้นไม้ปาร์เก้ เป็นอีกพื้นผิวที่ที่ต้องระมัดระวังในการทำความสะอาด การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดพื้นที่มีฤทธิ์เป็นกรดเพราะทำให้ไม้ปาร์เก้เกิดรอยด่างและเสียหายได้ วิธีทำความสะอาดพื้นไม้ชนิดนี้ แนะนำให้กวาดพื้นหรือใช้ เครื่องดูดฝุ่น อย่างสม่ำเสมอ หลังจากนั้นใช้ผ้าชุบน้ำหมาดเช็ดอีกครั้งเท่านี้ก็สะอาดหมดจด พื้นไม้จะกลับมาดูใหม่อีกครั้ง พื้นหินอ่อน พื้นหินอ่อนวิธีทำความสะอาดพื้นชนิดนี้ง่ายมากเพียงกวาดพื้น ดูดฝุ่นเหมือนพื้นชนิดอื่น ตามด้วยใช้ไม้ถูพื้นชุบน้ำสะอาดเช็ดถูให้ทั่วบริเวณ *ข้อควรระวังของการทำความสะอาดพื้นหินอ่อน ระวังลื่นถ้าพื้นยังไม่แห้งสนิท เราอาจจะใช้พัดลมเป่าพื้นในขณะที่ถูพื้นไปด้วยเพื่อให้พื้นแห้งไวขึ้นก็ได้ค่ะ และนี่ก็เป็นทริคง่าย ๆ ในการทำความสะอาดพื้นชนิดต่าง ๆ ให้สะอาด เห็นไหมไม่ได้ยากเลยซักนิด หากคุณรู้วิธีที่ถูกต้องและเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ และอุปกรณ์ที่ใช้ทำความสะอาดพื้นโดยเฉพาะ งานทำความสะอาดของคุณก็จะเป็นเรื่องง่าย ๆ ทันที หากท่านใดสนใจอุปกรณ์ทำความสะอาด สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อได้ที่ Catalogue Sales โทร 02-096-9999 (200 คู่สาย) อีเมล [email protected] หรือเว็บไซต์ www.jenbunjerdstore.com

2023-09-25
"รถเข็นพื้นสเตนเลส JUMBO" พร้อมขอบกันตก ช่วยป้องกันสิ่งของตกหล่น

เจนบรรเจิด ขอแนะนำ "รถเข็นพื้นสเตนเลส พร้อมขอบกันตก" แบรนด์ JUMBO ตัวช่วยในการป้องกันสิ่งของตกหล่นขณะเข็นรถเข็น เหมาะสำหรับงานบริการที่ต้องสัมผัสกับสารเคมีหรือความเปียกชื้น แผ่นพื้นและมือจับสเตนเลส ทำความสะอาดง่าย ไม่เป็นสนิม แข็งแรง รับน้ำหนักได้ดี มีขอบยาง 4 ด้าน ลดแรงกระแทก มีด้วยกัน 2 รุ่นให้เลือกใช้งาน สะดวกใช้แบบไหนเลือกเลยค่ะ 1. รถเข็นพื้นสเตนเลส พร้อมขอบกันตก มือจับข้างเดียวพับไม่ได้ 350 กก. Model: ST1-6009T ราคา 9,100 บาท 2. รถเข็นพื้นสเตนเลส พร้อมขอบกันตก มือจับข้างเดียวพับไม่ได้ 500 กก. Model: ST1-7011T ราคา 12,100 บาท หากท่านใดสนใจสั่งซื้อสินค้า หรือมีข้อสงสัยต้องการทราบรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติม สามารถติดต่อ Catalogue Sales โทร 02-096-9999 (200 คู่สาย) หรืออีเมล [email protected] ทุกวันจันทร์ - วันศุกร์ เวลา 08.30 - 17.30 น.

2023-09-25
×
สายด่วนสั่งซื้อสินค้า บริการจัดหาสินค้า สินค้าสั่งทํา 02 096 9999
บริการหลังการขาย 02 096 9898
ต่อ 3102-3103
ไลน์ @jenstore
เวลาทําการ 08.30 - 17.30 น.
Copy to Clipboard