Please wait...

E-catalogue
สายด่วน
0
Loading...
0
คุณไม่มีรายการสินค้าในตะกร้าของคุณ
0 สินค้าในตะกร้า
ยอดรวมรถเข็น : 0
×

เคล็ด(ไม่)ลับการเลือกใช้ล้ออุตสาหกรรมสำหรับรถเข็น ที่ช่วยให้งานหนักๆ เบากว่าที่คิด

งานหนักๆ ไม่หนักอีกต่อไปเมื่อใช้ล้อยาง ล้อไนล่อน และล้อยูรีเทน

รถเข็นเป็นสิ่งที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการขนย้ายหรือเคลื่อนย้ายสินค้าและอุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว นอกเหนือจากความรวดเร็วที่จะได้รับแล้วการใช้รถเข็นยังช่วยประหยัดแรงงาน และประหยัดเงิน เพราะใช้แรงงานเพียงไม่กี่คนก็สามารถขนย้ายหรือคลื่อนย้ายสินค้าและอุปกรณ์ในจำนวนมากๆ ได้ โดยที่ไม่เกิดความเสียหาย อุปกรณ์ที่สำคัญที่ช่วยให้รถเข็นเคลื่อนที่และรองรับน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพคือ ล้อ ในวงการอุตสาหกรรมมักจะเรียกล้อสำหรับใช้งานว่า ล้ออุตสาหกรรม เพราะล้อที่ใช้ในงานอุตสาหกรรมเป็นล้อที่ต้องมีความแข็งแรง ทนทานเป็นพิเศษเพื่อให้รองรับกับน้ำหนักของสินค้าและอุปกรณ์ที่มีน้ำหนักมาก ทั้งยังต้องทนทานต่อสารเคมี น้ำมัน น้ำ หรือต้องทนทานต่ออุณภูมิที่ร้อนหรือเย็นตามพื้นที่ที่อยู่ในโรงงานอุตสาหกรรม โดยส่วนใหญ่ล้ออุตสาหกรรมมักจะถูกใช้ขนย้ายเครื่องจักร พาเลทสินค้า ในอุตสาหกรรมโรงแรมใช้ขนย้ายสัมภาระ หรือในอุตสาหกรรมอาหารที่ต้องอยู่ในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิติดลบ ซึ่งการใช้งานล้ออุตสาหกรรมความหนักในระดับปานกลางถึงหนักมากน้ำหนักจะเริ่มต้นที่ 70 กิโลกรัมขึ้นไป

ล้ออุตสาหกรรมหรือล้อรถเข็น คือ อุปกรณ์ที่ใช้ติดที่ช่วงล่างของรถเข็น โดยล้ออุตสาหกรรมจะถูกประกอบเข้ากับชิ้นส่วนต่างๆ ที่จะช่วยให้ล้ออุตสาหกรรมเคลื่อนที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพและรองรับน้ำหนักในปริมาณมากๆได้ เช่น แผ่น plate มีทั้งชนิดที่หมุนปรับทิศทางได้และปรับทิศทางไม่ได้, ประเภทของ Stopper ที่ใช้เพื่อล็อคล้อ, ตลับลูกปืน ที่ใช้ลดแรงเสียดทาน และประเภทของวัสดุที่ใช้ทำล้ออุตสากรรม เช่น ล้อยาง ล้อไนล่อน และล้อยูรีเทน ซึ่งถือเป็นส่วนที่สำคัญของล้ออุตสาหกรรมเพราะไม่ใช่ว่าทุกวัสดุของล้ออุตสาหกรรมจะรองรับน้ำหนักในปริมาณมากๆ ได้ ดังนั้นจึงควรเลือกใช้วัสดุที่ใช้ทำล้ออุตสาหกรรมให้เหมาะสมกับประเภทของงานเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการใช้งาน และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

 

วัสดุของล้ออุตสาหกรรมที่ช่วยให้งานหนักๆ เคลื่อนย้ายง่ายกว่าที่คิด

 

1. ล้อยาง

เป็นวัสดุที่มีต้นกำเนิดมาจากธรรมชาติ เป็นวัสดุที่มีความยืดหยุ่นสูงจึงทำให้มีคุณสมบัติไม่มีเสียงเวลาเคลื่อนที่และไม่ทำให้พื้นเป็นรอย และทนทานต่อน้ำ แต่ล้อยางแบบธรรมชาติจะมีความแข็งแรงน้อยและรองรับน้ำหนักได้ไม่มาก จึงเหมาะกับการขนย้ายแบบเบาๆ ซึ่งในวงการอุตสาหกรรมยังคงต้องการคุณสมบัติที่ดีล้อยางธรรมชาติ ดังนั้นจึงได้มีการใช้เทคโนโลยีเพื่อผลิตยางสังเคราะห์ขึ้นมาเพื่อจะได้นำคุณสมบัติที่ดีของยางธรรมชาติมาใช้งานในขณะเดียวกันก็ปรับปรุงข้อด้อยของยางธรรมชาติเพื่อให้สามารถใช้งานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นตัวอย่างของล้อยางสังเคราะห์ที่นิยมใช้ในงานอุตสาหกรรม 

1.1 ล้อยางสังเคราะห์ TPR TPR ผลิตจากยางเทอร์โมพลาสติก TPR เป็นวัสดุที่คงคุณสมบัติทั้งยางและพลาสติกไว้ วัสดุ TPR เป็นรูปแบบหนึ่งของยางสังเคราะห์ มีคุณสมบัติทนทานต่อแรงกระแทก ไม่มีเสียงดังเวลาเคลื่อนที่ มีผิวสัมผัสที่นุ่ม ไม่เกิดรอยบนพื้น ทนต่อการสึกหรอ มีความคงทนมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน และสามารถรีไซเคิลได้ซึ่งเป็นวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 

1.2 ล้อยางอีลาสติก ER ผลิตจากยางอีลาสติกมีคุณสมบัติยืดหยุ่นคล้ายกับยาง แต่มีความแข็งแรงมากกว่ายางธรรมชาติ รองรับน้ำหนักได้ปานกลาง ทนต่อแรงกระแทก ทนทานน้ำมันและสารเคมี ไม่มีเสียงดังเวลาเคลื่อนที่ มีผิวสัมผัสที่นุ่ม ไม่เกิดรอยบนพื้น ทนต่อการสึกหรอระดับปานกลาง มีความคงทนใช้งานได้ยาวนาน 

 

การใช้งาน ล้อยางนิยมใช้งานความหนักระดับปานกลางขึ้นไป เพื่อใช้ในการลดแรงกระแทกและป้องกันความเสียหายของสินค้าด้วยคุณสมบัติของล้อยางที่มีความนุ่ม เช่นงานขนย้ายเซรามิก เครื่องจักรที่มีความบอบบางและน้ำหนักไม่มาก หรือผัก ผลไม้ที่มีช้ำได้ง่าย งานเข็นในโรงพยาบาล แต่หากต้องการใช้ล้อยางในงานหนักๆ สามารถเพิ่มเลือกขนาดวงล้อให้ใหญ่ขึ้นหรือใช้ร่วมกับวัสดุชนิดอื่นเพื่อเพิ่มความแข็งแรงมากยิ่งขึ้นเช่น ล้อยางหุ้มกระทะไนลอน ใช้ในงานที่สัมผัสสารเคมีและงานห้องเย็น หรือติดตั้งเครื่องจักรในโรงานอุตสาหกรรมทั่วไป, ล้อยางแป้นหมุน ล้อกระทะอลูมิเนียม ใช้สำหรับติดตั้งรถลากและงานอุตสาหกรรมหนักพิเศษ

 

2. ล้อไนล่อน

เป็นวัสดุพลาสติกสีขาวที่มีคุณสมบัติแข็งแรง ไม่แตกหักง่าย กันน้ำได้ดี รับน้ำหนักได้มาก และไม่ทิ้งรอยล้อไว้บนพื้นผิว แต่จะมีเสียงดังเวลาเข็น บางรุ่นทนต่อความร้อน ความเย็นและสารเคมี และทนการสึกหรอได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับใช้ในงานกลางแจ้งหรือพื้นผิวขรุขระ เช่นพื้นผิวคอนกรีต หรือพื้นที่ที่มีน้ำขังได้ การใช้งานล้อไนล่อนเป็นล้อที่ใช้รับน้ำหนักได้ดีขณะหยุดนิ่ง จึงเหมาะในการติดตั้งเครื่องจักร หรือจะติดตั้งบนอุปกรณ์ขนถ่ายวัสดุ รถเข็นอุตสาหกรรมหนัก อุตสาหกรรมยา หรือห้องเย็น

 

3. ล้อยูรีเทน

ล้อยูรีเทนเป็นล้อที่รวมคุณสมบัติที่ดีระหว่างล้อยางและล้อไนล่อนมารวมที่ล้อยูรีเทน คุณสมบัติของล้อยูรีเทนมีความเหนียว แข็งแรงและทนทาน ไม่ฉีกขาดหรือแตกหักง่าย รับแรงเสียดทานได้ดี ทนต่อรอยขีดข่วน ไม่มีเสียงดังเวลาเคลื่อนที่ ไม่มีรอยล้อที่พื้นสามารถใช้ได้ทั้งพื้นแห้งและชื้น แต่ไม่ควรทิ้งแช่น้ำไว้นานๆ เพราะอาจทำให้ล้อยูรีเทนเสื่อมคุณภาพได้ ใช้ได้ทั้งพื้นผิวขรุขระ และพื้นผิวเรียบ ตัวอย่างประเภทของล้อยูรีเทนที่นิยมในงานอุตสาหกรรม 

 

3.1 ล้อยูรีเทน PUb ทำมาจากโพลียูรีเทน ตัวล้อมีสีดำ มีความแข็งแรง ยืดหยุ่น รับน้ำหนักได้มาก ราคาไม่แพงเท่าเกรดสีส้ม (PUo) ทนทานต่อสารเคมี และน้ำมันได้ดีมาก ไม่มีเสียงดังเวลาเคลื่อนที่ ทนต่อการสึกหรอได้ดี มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน 

 

3.2 ล้อยูรีเทนไฮเทค PUo ตัวล้อมีสีส้ม มีความแข็งแรงและยืดหยุ่น ทนทานต่อแรงกระแทก สารเคมีและน้ำมัน การสึกหรอ รับน้ำหนักได้มาก ไม่เกิดรอยล้อบนพื้น ไม่มีเสียงดังเวลาเคลื่อนที่ มีความคล้ายคลึงกับล้อ PUb ที่ทำจากโพลียูรีเทน แต่มีคุณภาพที่ดีกว่าและมีราคาแพงกว่า มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน 

 

3.3 ล้อยูรีเทนแกนเหล็ก PUt แกนกลางของล้อเป็นเหล็กช่วยเพิ่มความแข็งแรงและรับน้ำหนักได้มากขึ้น ทนทานต่อแรงกระแทก สารเคมี และน้ำมัน มีความยืดหยุ่น ไม่เกิดรอยล้อบนพื้น และไม่มีเสียงรบกวนเวลาเคลื่อนที่ มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน 

 

การใช้งาน เหมาะสำหรับอุตสาหกรรมทุกชนิดโดยสามารถรับน้ำหนักที่มากๆ เป็นร้อยๆ กิโลกรัมของสินค้าหรืออุปกรณ์ได้ดี ส่วนใหญ่จึงใช้ติดตั้งเครื่องจักร อุปกรณ์ขนถ่ายวัสดุ รถเข็นในงานอุตสาหกรรม และอุปกรณ์ที่ต้องการรับน้ำหนักมากเป็นพิเศษ นอกเหนือจากที่ต้องเลือกใช้วัสดุที่ใช้กับล้ออุตสาหกรรมให้เหมาะสมกับประเภทการใช้งานแล้วผู้ใช้งานควรที่จะรู้ปริมาณของน้ำหนักที่ล้ออุตสาหกรรมสามารถรองรับได้โดยมีสูตรสากลที่ใช้ในการคำนวนหาความสามารถในการรับน้ำหนักของล้อรถเข็นที่จะทำให้รู้ว่าน้ำหนักที่รองรับได้ที่แท้จริงมีน้ำหนักกี่กิโลกรัม

สูตรการคำนวนหาความสามารถในการรับน้ำหนักของล้อรถเข็น

 

T = [ ( E + Z ) / n ] x S

T คือ ความสามารถในการรับน้ำหนักของของล้อรถเข็น 

E คือ น้ำหนักของตัวรถเข็น 

Z คือ น้ำหนักสูงสุดโดยรวมของสิ่งของที่จะวางบนรถเข็น

n คือ จำนวนลูกล้อที่ติดตั้งบนตัวรถเข็น

S คือ safety factor (น้ำหนักบรรทุกที่ปลอดภัยในการใช้งาน จะอยู่ที่ 75% ของการรับน้ำหนักสูงสุด)

 

การคำนวณหาความสามารถในการรับน้ำหนักของล้ออุตสาหกรรมและการเลือกใช้วัสดุที่ใช้สำหรับล้ออุตสาหกรรมเป็นความสัมพันธ์ที่ไม่ควรมองข้ามเนื่องจากวัสดุที่ใช้สำหรับล้ออุตสาหกรรมแต่ละชนิดก็มีความสามารถในการรับน้ำหนักที่แตกต่างกันหากเราใช้หลักการคำนวณมาช่วยจะทำให้รู้ค่าที่แท้จริงของน้ำหนักที่ล้ออุตสาหกรรมแต่ละชนิดรองรับได้ รวมไปถึงจำนวนที่แท้จริงของจำนวนล้ออุตสาหกรรมที่ต้องใช้เพื่อติดตั้งยานพาหนะเพื่อให้การใช้งานรถเข็นมีประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายทั้งค่าแรงงาน และค่าขนส่ง เพราะหากเลือกใช้วัสดุที่ไม่เหมาะสมรวมทั้งไม่รู้น้ำหนักที่สามารถรองรับได้ที่แท้จริงอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อสินค้าและอุปกรณ์ในระหว่างการเคลื่อนย้ายหรือขนย้ายไก้ทำให้เกิดต้นทุนที่ไม่คาดคิดบางครั้งอาจเป็นอันตรายต่อพนักงานขนย้ายทำให้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้ JenStore by Jenbunjerd เป็นศูนย์รวมล้ออุตสาหกรรมมาตรฐานการส่งออก ภายใต้แบรนด์ SUPO เป็นล้อรถเข็นคุณภาพสูงที่นำเข้าจากต่างประเทศ มีหลากหลายวัสดุให้เลือกซื้อ เช่น ล้อยูรีเทน ล้อไนล่อน ล้อยาง และล้อพลาสติก เป็นต้น ลูกล้ออุตสาหกรรม SUPO ทั้งหมดใช้ระบบ Ball Bearing เป็นพื้นฐาน ช่วยให้ล้อมีประสิทธิภาพสูงในการออกตัวและผ่อนแรงในการเข็น เคลื่อนที่โดยไร้เสียงรบกวน ด้วยเสียงรบกวนต่ำสุดเพียง 25dBA พร้อมเพิ่มชุดซีลกันฝุ่นช่วยยืดอายุการใช้งาน ผลิตด้วยวัตถุดิบคุณภาพสูง ดีไซน์ทันสมัย ออกแบบมาตามหลักวิศวกรรมยานยนต์ จึงมั่นใจได้ในความแข็งแรงทนทาน และมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน พร้อมรับประกันสินค้า 1 ปี

 

ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่ :

 

Website : https://www.jenstore.com (Live Chat) 

Tel : 02-096-9999 (200 คู่สาย) 

Email : cataloguesale@jenbunjerd.com 

LINE Official Account: @jenstore

Facebook : เจนสโตร์ - JenStore by Jenbunjerd

×
สายด่วนสั่งซื้อสินค้า บริการจัดหาสินค้า สินค้าสั่งทํา 02 096 9999
บริการหลังการขาย 02 096 9898
ต่อ 3102-3103
ไลน์ @jenstore
เวลาทําการ 08.30 - 17.30 น.
Copy to Clipboard