อุปกรณ์เซฟตี้อะไรบ้าง? ที่อุตสาหกรรมสารเคมีควรต้องมี!
ชุดป้องกันสารเคมีเกราะป้องกันภัยจากสารเคมี
อุตสาหกรรมสารเคมีเป็นอุตสาหกรรมที่สำคัญเพราะเป็นอุตสาหกรรมต้นน้ำของหลายอุตสาหกรรมที่ผลิตสารเคมีและสารที่ใช้เป็นส่วนประกอบในทุกขั้นตอน จึงมีความสำคัญในกระบวนการผลิตสินค้า เช่น ชิ้นส่วนรถยนต์, เครื่องใช้ไฟฟ้า, พลาสติก, ยารักษาโรค, ผงซักฟอก, สบู่, วัตถุระเบิด, ยาฆ่าแมลง เป็นต้น ซึ่งสารเคมีที่นำมาใช้ในกระบวนการผลิตมีหลากหลายชนิดและมีอันตรายสำหรับผู้ที่สัมผัส หรือสูดดมเข้าไปในร่างกายโดยที่ไม่มีการป้องกันหรือมีการป้องกันที่ไม่ดีพอ ดังนั้นพนักงานที่ต้องปฎิบัติงานในพื้นที่ที่มีสารเคมีควรจะต้องสวมใส่อุปกรณ์เชฟตี้ทุกครั้งเพื่อช่วยป้องกันอันตรายที่เกิดจากสารเคมี เช่น หน้ากากกันสารเคมีที่ช่วยป้องกันการสูดดมสารเคมีจากไอระเหย, รองเท้าเซฟตี้ช่วยป้องกันเท้าจากสารเคมีที่อาจปนเปื้อนสะสมตามพื้นที่โรงงาน ซึ่งสามารถซึมผ่านหรือมีปฎิกริยากับเท้า, แว่นตานิรภัย ช่วยป้องกันดวงตาจากการกระเด็นหรือไอระเหยของสารเคมีที่เข้าสู่ดวงตา เป็นต้น
อุปกรณ์เซฟตี้นอกจากจะช่วยป้องกันร่างกายให้ปลอดภัยจากการปฏิบัติงานแล้วยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงานเพราะไม่ต้องกังวลถึงอันตรายที่อาจจะได้รับและยังสามารถลดต้นทุนทั้งด้านแรงงานรวมไปถึงค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดจากอุบัติเหตุในการปฏิบัติงานหรือต้องหาพนักงานมาทำงานแทนให้ตำแหน่งนั้นๆ อีกด้วย
อุปกรณ์เซฟตี้ใกล้ความปลอดภัยและห่างไกลจากสารเคมี
1. หน้ากากกันสารเคมี
ช่วยป้องกันอันตรายที่เกิดขึ้นในระบบหายใจในขณะปฏิบัติงานหรืออยู่ในพื้นที่ที่มีสารเคมีเพราะแค่ไอระเหยก็มีอันตรายต่อร่างกายเป็นอย่างมาก และยังสามารถกรองอนุภาคแขวนลอยที่ปะปนอยู่ในอากาศ เช่น ฝุ่นละออง ฝุ่นควัน ฟูมโลหะ หน้ากากกันสารเคมีผลิตจากซิลิโคนที่มีความนุ่มทำให้สวมใส่สบายและหายใจสะดวกเพราะมีลิ้นหายใจขนาดใหญ่และยังช่วยลดความร้อนทำให้สวมใส่ได้นานขึ้น บางรุ่นมีที่ครอบลิ้นระบายอากาศลดการเกิดฝ้า เมื่อใช้ร่วมกับกระบังหน้าหรือแว่นตา มีความทนทานต่อสารเคมี แนบกระชับใบหน้าเวลาส่วมใส่แต่ไม่ทำให้เกิดรอยบนใบหน้า น้ำหนักเบา มีสายรัดแบบห่วงครอบศีรษะเพื่อป้องกันการลื่นหลุดขณะใช้งานและใช้คล้องคอเมื่อถอดหน้ากากเพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งานครั้งต่อไป สามารถใช้งานร่วมกับตลับกรองแก๊สไอระเหย หรือฝุ่นละอองได้หลายชนิด หน้ากากกันสารเคมีมีทั้งแบบไส้กรองเดี่ยว ไส้กรองคู่ แบบครึ่งหน้า แบบเต็มหน้า
2. แว่นตานิรภัย
ใช้สำหรับป้องกันดวงตาจากสารเคมีที่ไม่ว่าจะมาในรูปของละอองฝอย ของเหลว การฟุ้งกระจายของฝุ่น ไอระเหย หรือเกิดการกระเด็น ซึ่งทั้งหมดหากเข้าสู่ดวงตาจะเป็นอันตรายต่อร่างกายทั้งในระยะสั้นหรือระยะยาวได้ แว่นตานิรภัยที่นิยมใช้กันมีอยุู่ด้วยกัน 2 รูปแบบ คือแว่นตานิรภัยแบบทั่วไปที่ใช้ป้องกันชิ้นงานหรือเศษโลหะกระเด็นเข้าตา และแว่นครอบตานิรภัยซึ่งคล้ายแว่นตาว่ายน้ำเหมาะสำหรับป้องกันสารเคมี จะมีความกว้างและโค้งแนบกับใบหน้าได้ดีกว่าแบบทั่วไป กรอบแว่นผลิตจากพลาสติก PVC น้ำหนักเบา กระชับใบหน้า มีแถบรัดศีรษะ ผลิตจากโพลีเอสเตอร์ ยืดหยุ่นได้ดี ปรับความยาวได้ สามารถใช้ร่วมกับหน้ากากครึ่งหน้า สามารถสวมทับแว่นสายตาได้ บางรุ่นมีช่องระบายอากาศเพื่อให้สะดวกมากยิ่งขึ้น
3. ชุดป้องกันสารเคมี
ใช้สำหรับป้องกันร่างกายจากอันตรายทางเคมี กายภาพ และชีวภาพ จากการปฏิบัติงาน ชุดป้องกันสารเคมีมีวัสดุและการออกแบบที่แตกต่างกันและสามารถทนทานต่อสารเคมีบางชนิดได้เท่านั้น ดังนั้นควรเลือกใช้งานให้ถูกชนิด เช่น วัสดุไนไตรช่วยปกป้องจากน้ำมัน จารบี ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม กรดและสารกัดกร่อนบางชนิด, ยางพอลีคลอโรพรีนเป็นยางสังเคราะห์ที่ต้านทานการติดไฟทนต่อสภาพอากาศ ความร้อน น้ำมัน และสารกัดกร่อนบางชนิด, วัสดุพลาสติกโพลีไวนิลคลอไรด์ (PVC) ที่มีคุณสมบัติทนทานต่อกรด ไขมัน และปิโตรเลียมไฮโดรคาร์บอนได้ดี และทนทานต่อการขัดถู ซึ่งชุดป้องกันสารเคมีมีทั้งแบบใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้งและแบบสามารถนำมาซักได้ ชุดป้องกันสารเคมีแบบใช้แล้วทิ้งไม่ควรนำมาซักแล้วนำมาใช้อีกครั้งเพราะชุดป้องกันสารเคมีจะถูกลดประสิทธิภาพการป้องกันจากการถูกทำความสะอาดแล้ว ดังนั้นจึงควรใช้ชุดป้องกันสารเคมีให้มีการใช้งานได้อย่างเหมาะสม
4. รองเท้าเซฟตี้
ใช้ป้องกันเท้าจากสารเคมีที่อาจมีตามพื้นหรือป้องกันกระเด็นใส่ รองเท้าเซฟตี้ที่ใช้ป้องกันสารเคมีพื้นรองเท้าและตัวรองเท้ามักจะผลิตจากหนังเทียมหรือหนังสังเคราะห์ เช่น หนัง PU, หนัง Microfiber, หนัง PVC หรือทำจากไวนิล นีโอพรีน ยางธรรมชาติ ที่สามารถทนต่อการกัดกร่อนของสารเคมีได้ มีทั้งแบบหัวรองเท้าธรรมดาและหัวโลหะ บางรุ่นพื้นรองเท้าออกแบบให้ป้องกันการลื่นไถลได้ รองเท้าเชฟตี้ที่ใช้ป้องกันสารเคมีมักจะเป็นบูทที่มีความยาวครึ่งหน้าแข้งขึ้นไปโดยส่วนใหญ่อุปกรณ์เซฟตี้ในการป้องกันสารเคมีจะเน้นไปทางด้านกายภาพและช่องทางการหายใจเป็นหลักเนื่องจากเป็นส่วนที่มักจะสัมผัสกับสารเคมีได้มากที่สุด แต่นอกเหนือจากอุปกรณ์ที่กล่าวมาข้างต้นยังมีอุปกรณ์เซฟตี้ชนิดอื่นที่สามารถใช้ร่วมในการปฏิบัติงานในพื้นที่ที่มีสารเคมีได้ดีที่จะช่วยให้การปฏิบัติงานมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
5. ถุงมือกันความร้อน
มักทำจากวัสดุสังเคราะห์ซึ่งสามารถสะท้อนความร้อนและทนทานความร้อนได้ วัสดุที่มักนำมาใช้ในการผลิต เช่น เส้นใยเคฟล่าเป็นไฟเบอร์สังเคราะห์ น้ำหนักเบา แต่มีความแข็งแรงสูง ทนต่อแรงดึงสูง, อะลูมิไนซ์ สะท้อนรังสีความร้อนได้ดี ถุงมือกันความร้อนมักนำมาใช้ในงานอุตสาหกรรมหนัก ใช้ในการหล่อเหล็ก กระบวนหล่อกระจก หรืออุตสาหกรรมรถยนต์ซึ่งมักมีสารเคมีหรือน้ำมันเป็นส่วนประกอบในการปฏิบัติงาน
6. หมวกนิรภัย
เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการป้องกันการกระแทกหรือสิ่งของหล่นใส่ศีรษะซึ่งบางครั้งในการทำงานของอุตสาหกรรมสารเคมีอาจอยู่ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงในการโดนสิ่งของหล่นใส่หรือกระเด็น เช่น โรงงานผลิตพลาสติก, โรงงานเซรามิกส์และแก้ว หมวกนิรภัยมักทำจากพลาสติกไฟเบอร์กลาสหรืออะลูมิเนียม ทำให้มีความแข็งแรงและทนทาน มีสายคาดศรีษะเพื่อเพิ่มความกระชับในการสวมใส่และปรับขนาดให้เท่ากับศีรษะ และสายรัดคางเพื่อป้องกันการหล่นจากศีรษะในขณะปฏิบัติงาน ซึ่งหมวกนิรภัยสามารลดอาการบาดเจ็บจากการกระแทกได้ดีซึ่งช่วยให้มีความปลอดภัยจากกการปฏิบัติงานมากขึ้นและหมวกนิรภัยบางรุ่นยังสามารถกันกระแสไฟฟ้าได้อีกด้วย
7. ตู้เก็บสารเคมี
ตู้เก็บสารเคมีเป็นอุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยในการจัดเก็บสารเคมีและของเหลวอันตราย โดยตู้เก็บสารเคมีมักทำจากวัสดุที่มีความทนทานต่อการกัดกร่อน เช่น เหล็กพ่นสีพิเศษหรือวัสดุสังเคราะห์ ซึ่งสามารถทนต่อสารเคมีและสารระเหยต่างๆ ได้ดี ตู้เหล่านี้มักมีระบบล็อกเพื่อป้องกันการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีช่องระบายอากาศเพื่อช่วยลดการสะสมของไอสารเคมี ในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น โรงงานเคมี โรงงานผลิตยา หรือห้องปฏิบัติการ ตู้เก็บสารเคมีมีบทบาทสำคัญในการป้องกันการปนเปื้อนและอุบัติเหตุจากสารเคมี โดยช่วยลดความเสี่ยงจากการสัมผัสกับสารอันตรายโดยตรง การเลือกใช้ตู้เก็บสารเคมีที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานความปลอดภัย เช่น มาตรฐาน OSHA หรือ NFPA ช่วยเพิ่มความมั่นใจในความปลอดภัยของสถานที่ทำงาน ตู้เก็บสารเคมีบางรุ่นยังมีคุณสมบัติพิเศษ เช่น การป้องกันไฟ ซึ่งเหมาะสำหรับการจัดเก็บสารเคมีไวไฟ ช่วยลดความเสี่ยงในกรณีเกิดอุบัติเหตุเพลิงไหม้
8. ถังเก็บสารเคมมี
ถังเก็บสารเคมีเป็นอุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการจัดเก็บและขนส่งสารเคมีที่มีความเสี่ยงหรือไวต่อการเกิดปฏิกิริยา โดยถังเหล่านี้มักได้รับการผลิตจากวัสดุที่มีคุณภาพสูง เช่น พลาสติกชนิดพิเศษ เหล็กกล้า หรือสแตนเลส เพื่อให้สามารถต้านทานการกัดกร่อนและการรั่วซึมได้ดี รวมถึงช่วยป้องกันอันตรายจากการปนเปื้อนที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการใช้งาน วัสดุที่ใช้ในการผลิตถังเก็บสารเคมีจะถูกเลือกตามลักษณะของสารเคมีที่ต้องการจัดเก็บ เช่น ถังที่ผลิตจากพลาสติก HDPE ซึ่งมีคุณสมบัติเด่นในด้านความเบาและทนต่อกรดด่าง เหมาะสำหรับการเก็บสารเคมีทั่วไป ส่วนถังเหล็กกล้าหรือสแตนเลสจะถูกเลือกใช้ในกรณีที่ต้องเก็บสารไวไฟหรือสารเคมีที่ต้องการความสะอาดสูง เช่น ในอุตสาหกรรมยาและอาหาร ถังเก็บสารเคมีมีการออกแบบที่มุ่งเน้นความปลอดภัย โดยมาพร้อมกับฝาปิดที่แน่นสนิทและระบบซีลที่ป้องกันการรั่วซึม ช่วยลดความเสี่ยงจากการปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ยังมีการเสริมโครงสร้างให้สามารถรับแรงดันหรือแรงกระแทกได้ เพื่อให้ใช้งานได้ในหลากหลายสภาพแวดล้อม เช่น ในโรงงานอุตสาหกรรม ห้องปฏิบัติการ หรือพื้นที่ที่ต้องจัดเก็บสารเคมีในปริมาณมาก
9. พาเลทรองสารเคมี
พาเลทรองสารเคมีเป็นอุปกรณ์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการจัดเก็บและขนย้ายถังหรือภาชนะบรรจุสารเคมีอย่างปลอดภัย โดยเน้นการป้องกันการรั่วไหลของสารเคมีที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการจัดเก็บหรือขนส่ง ซึ่งพาเลทชนิดนี้มักผลิตจากวัสดุที่มีความทนทานสูง เช่น โพลิเอทิลีนความหนาแน่นสูง (HDPE) หรือโลหะเคลือบสารป้องกันการกัดกร่อน เพื่อให้สามารถรองรับน้ำหนักได้มากและทนต่อสารเคมีหลากหลายชนิด พาเลทรองสารเคมีมีลักษณะเด่นคือการออกแบบพื้นผิวที่ช่วยป้องกันการลื่นไถลของภาชนะ และมาพร้อมกับอ่างรองรับสารเคมีที่รั่วไหล ซึ่งสามารถถอดล้างทำความสะอาดได้ง่าย นอกจากนี้ยังมีขอบพาเลทที่ช่วยป้องกันการเคลื่อนย้ายของถังหรือภาชนะโดยไม่ได้ตั้งใจ อุปกรณ์นี้มักใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับสารเคมี เช่น โรงงานผลิตสี โรงงานปิโตรเคมี และโรงงานอุตสาหกรรมเกษตร โดยเฉพาะในพื้นที่จัดเก็บที่ต้องการความปลอดภัยสูง เช่น โกดังเก็บสารเคมี พื้นที่โหลดสินค้าหรือสถานีบรรจุสารเคมี
ความปลอดภัยจากการปฏิบัติงานเป็นสิ่งสำคัญมากซึ่งอุปกรณ์เชฟตี้เป็นอุปกรณ์ความปลอดภัยที่ทุกโรงงานอุตสาหกรรมจะต้องมีเพื่อให้พนักงานสวมใส่ไม่เฉพาะอุตสาหกรรมสารเคมีเท่านั้น เพื่อป้องกันอันตรายจากการปฏิบัติงาน อีกทั้งอุปกรณ์เซฟตี้ยังเป็นอุปกรณ์ที่กฎหมายความปลอดภัยในโรงงานได้กำหนดให้มีไว้สำหรับการปฏิบัติงานของพนักงาน นอกจากนั้นการมีอุปกรณ์เซฟตี้ไม่ว่าหน้ากากสารเคมี, แว่นตานิรภัย, ชุดป้องกันสารเคมี, รองเท้าเชฟตี้ มีจุดประสงค์เพื่อช่วยป้องกันอันตรายแล้ว อุปกรณ์เซฟตี้ยังช่วยคลายความกังวลของพนักงานในการปฏิบัติงานในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงอันตราย
ดังนั้นอุปกรณ์เซฟตี้ที่จะนำมาใช้งานควรต้องได้รับการรองมาตรฐานจากหน่วยงานหรือองค์กรที่ได้รับการยอมรับ เช่น EN (European Standard), ISO (มาตรฐานระหว่างประเทศที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล), CE (มาตรฐานความสอดคล้องในทวีปยุโรป) หรือ มอก. (มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมของไทย) เป็นต้น
Jenstore by Jenbunjerd เป็นศูนย์รวมอุปกรณ์เซฟตี้หรืออุปกรณ์ความปลอดภัยส่วนบุคคล (PPE) ไม่ว่าจะเป็นการป้องกันศีรษะ เช่น หมวกนิรภัย, ป้องกันส่วนลำตัวเช่น ชุดป้องสารเคมี, เข็มขัดกันตก, ผ้าห่มกันไฟ ป้องกันส่วนใบหน้า เช่น แว่นตานิรภัย, หน้ากากป้องกันสารเคมี ป้องกันส่วนมือ เช่น ถุงมือกันสารเคมี, ถุงมือกันความร้อน ป้องกันส่วนเท้า เช่น รองเท้านิรภัย รองเท้าเชฟตี้ ซึ่งอุปกรณ์ทุกประเภทได้รับรองมาตรฐานสากลจึงเชื่อมั่นได้ถึงคุณภาพและการปลอดภัยในการใช้งาน และยังมีบริการให้คำปรึกษาพร้อมบริการหลังการขายอย่างมืออาชีพ
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่ :
Website :https://www.jenstore.com (Live Chat)
Tel : 02-096-9999 (200 คู่สาย)
Email : cataloguesale@jenbunjerd.com
LINE Official Account:@jenstore
Facebook :เจนสโตร์ - JenStore by Jenbunjerd