หมวกเซฟตี้แต่ละสีมีความหมายว่าอะไร ใช้ในงานแบบไหน
หมวกเซฟตี้ หรือหมวกนิรภัย เป็นอุปกรณ์ความปลอดภัยที่สำคัญอย่างมากต่อตัวผู้ใช้งาน โดยเฉพาะผู้ที่ต้องทำงานในบริเวณพื้นที่ก่อสร้าง พื้นที่โรงงานอุตสาหกรรม หรือพื้นที่อันตรายต่าง ๆ การสวมหมวกเซฟตี้จะช่วยป้องกันศีรษะ ลดความรุนแรงจากการกระแทกหากเกิดอุบัติเหตุ อย่างไรก็ตามเชื่อว่าหลายคนคงเคยสังเกตเห็นสีสันที่แตกต่างกันของหมวกเซฟตี้และอาจยังไม่เข้าใจความหมายของหมวกแต่ละสี ลองมาเช็กพร้อมกันเลยว่าหมวกเซฟตี้แต่ละสีหมายถึงอะไร เหมาะกับการเลือกใช้งานแบบไหนบ้าง
ความหมายของหมวกเซฟตี้แต่ละสี
1. หมวกสีเหลือง
ถือเป็นสีของหมวกนิรภัยที่พบเจอได้บ่อยครั้ง เนื่องจากเป็นสีสำหรับใช้ในการทำงานของพนักงานทั่วไปตามโรงงาน โกดัง หรือพื้นที่งานก่อสร้างต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มงานขุดเจาะ งานเครื่องจักร งานทำถนน ฯลฯ หากคนทั่วไปพบเห็นคนที่กำลังสวมหมวกเซฟตี้สีเหลือง นั่นบ่งบอกว่าพวกเขากำลังปฏิบัติงาน และควรสัญจรผ่านด้วยความระมัดระวังเพราะบริเวณดังกล่าวกำลังมีการปฏิบัติหน้าที่
2. หมวกสีเขียว
หมวกสีเขียวมีความหมายด้านความปลอดภัย ส่วนมากจึงมักพบการใช้งานในบุคลากรทางการแพทย์ เช่น แพทย์ พยาบาล หน่วยกู้ภัย เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานด้านความปลอดภัย (จป.) ซึ่งสวมใส่เมื่อต้องเข้าไปยังพื้นที่อันตราย หรือบริเวณสถานที่ปลอดเชื้อ เพื่อปฐมพยาบาล ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ อีกทั้งยังทำให้คนทั่วไปสามารถมองเห็นได้ง่ายเมื่อต้องการผู้ที่มีทักษะทางการแพทย์เบื้องต้น นอกจากนี้หมวกเซฟตี้สีเขียวยังถูกใช้งานในงานด้านสิ่งแวดล้อมด้วย
3. หมวกสีแดง
สำหรับหมวกนิรภัยสีแดงจะบ่งบอกถึงงานที่เกี่ยวกับความร้อนหรือไฟซึ่งเป็นความหมายในระดับสากล การสวมใส่หมวกสีแดงจึงต้องการสื่อสารให้ผู้พบเห็นสังเกตได้ง่ายในสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น เจ้าหน้าที่ดับเพลิง ช่างเชื่อม หรืองานที่ต้องสัมผัสกับความร้อน บางแห่งอาจเลือกใช้หมวกสีน้ำตาลแทนหมวกสีแดง
4. หมวกสีส้ม
หมวกเซฟตี้สีส้มพบได้บ่อยในบริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงซ่อมบำรุง ซึ่งบุคคลที่สวมหมวกสีดังกล่าวมักทำหน้าที่ในการควบคุมเครื่องจักร อุปกรณ์ที่ต้องใช้ทักษะ มีความระมัดระวังสูง และอาจเกิดอันตรายกระทบเป็นวงกว้างหากมีอุบัติเหตุ เช่น รถขุด เครน รถยก ปั้นจั่น ฯลฯ ในไซต์งานก่อสร้าง คนที่สวมหมวกสีนี้มักเป็นหัวหน้างาน เพื่อให้พนักงานทั่วไปสังเกตเห็นได้ง่ายถ้าต้องการความช่วยเหลือ และหมวกนิรภัยสีส้มยังพบเจอกับงานที่เกี่ยวข้องกับการจราจร เช่น ทำถนน ซ่อมถนน ได้อีกด้วย
5. หมวกสีน้ำเงิน
หมวกเซฟตี้สีนี้ถูกใช้ในงานซ่อมบำรุงเช่นกัน แต่ผู้สวมใส่มักเป็นกลุ่มช่างชำนาญการเฉพาะทาง เช่น งานไม้ งานไฟฟ้า หรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิค อย่างไรก็ตามกรณีที่ต้องทำงานใกล้ชิดกับกระแสไฟฟ้า อย่าลืมเลือกหมวกเซฟตี้ชนิดที่สามารถป้องกันอันตรายจากกระแสไฟได้
6. หมวกสีขาว
หมวกที่ผู้สวมใส่มักต้องเข้าไปอยู่บริเวณพื้นที่ปฏิบัติงานแต่ไม่ได้มีส่วนร่วมใด ๆ ในการทำงานนั้น เช่น หัวหน้างาน ผู้จัดการ วิศวกร ผู้เยี่ยมชมโรงงาน เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่คอยระวังภัยพร้อมรับผิดชอบบุคคลภายนอกที่เข้ามาบริเวณพื้นที่ดังกล่าว
7. หมวกสีฟ้า
หมวกนิรภัยประเภทสุดท้าย เป็นสัญลักษณ์บ่งบอกลักษณะการทำงานเกี่ยวกับน้ำเพื่อให้คนทั่วไปเข้าใจตรงกัน เช่น งานประปา งานช่างซ่อมบำรุงท่อน้ำ
ความสำคัญของหมวกนิรภัย และช่วงเวลาที่ควรสวมใส่
ปฏิเสธไม่ได้ว่าหมวกนิรภัยมีความสำคัญอย่างมากในด้านของความปลอดภัยของตัวผู้ปฏิบัติงาน อีกทั้งยังเป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกและจำแนกตัวบุคคลได้ชัดเจนเมื่อต้องเข้าไปอยู่บริเวณพื้นที่สุ่มเสี่ยง เช่น ไซต์งานก่อสร้าง โรงงานอุตสาหกรรม นั่นจึงเป็นเหตุผลที่บอกว่า เมื่อไหร่ก็ตามหากคุณต้องเข้าไปบริเวณดังกล่าว จำเป็นต้องมีการสวมหมวกเซฟตี้เอาไว้เสมอ ป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากอุบัติเหตุได้ทุกเวลา
ทั้งหมดนี้คือความหมายของหมวกเซฟตี้สีต่าง ๆ ที่ทุกคนควรรู้เอาไว้ อย่างไรก็ตามนอกจากเรื่องของสีแล้วยังมีการแบ่งประเภทของหมวกนิรภัยตาม Type และ Class ของหมวกอีกด้วย ซึ่งแต่ละประเภทจะแตกต่างกันที่ความแข็งแรงและประสิทธิภาพในการช่วยลดอันตรายจากกระแสไฟฟ้า ดังนั้นเมื่อจะเลือกใช้งานหมวกเซฟตี้ต้องพิจารณาอย่างรอบด้านเพื่อความปลอดภัย สวมใส่ได้อย่างมั่นใจ ลดความเสี่ยงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นอยู่เสมอ หากกำลังมองหาหมวกนิรภัยที่ได้มาตรฐาน สามารถเข้ามาดูได้ที่ Jenstore จำหน่ายอุปกรณ์ความปลอดภัย อุปกรณ์เซฟตี้ อุปกรณ์ PPE หลากหลายชนิด เช่น ชุดป้องกันสารเคมี ถุงมือกันความร้อน แว่นตานิรภัย อุปกรณ์ทุกชิ้นมีคุณภาพ ได้มาตรฐานเพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน