พัดลมอุตสาหกรรม สำคัญอย่างไร? ต่อโรงงานอุตสาหกรรมและคลังสินค้า
พัดลมอุตสาหกรรม ช่วยสร้างอากาศบริสุทธิ์ปลอดภัยต่อสุขภาพ
การไหลเวียนของอากาศช่วยสร้างให้อากาศมีระดับออกซิเจนที่เหมาะสมในการดำรงชีวิตทั้งในการทำกิจกรรมต่างๆ และการทำงาน โดยเฉพาะการทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมหรือคลังสินค้าที่อยู่ในอาคารปิดที่อาจมีอากาศไหลเวียนน้อย ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยของพนักงานและสินค้าร่วมไปถึงสภาพแวดล้อม โรงงานอุตสาหกรรมและคลังสินค้าจึงต้องมีการติดตั้งพัดลมอุตสาหกรรม เพื่อให้มีการไหลเวียนของอากาศที่ช่วยให้อากาศภายในอาคารมีออกซิเจนเพียงพอ มีอุณภูมิที่เหมาะสม ปราศจากกลิ่นไม่พึงประสงค์ และปราศจากมลพิษ ที่จะช่วยให้การปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพและเป็นผลดีต่อสุขภาพของพนักงาน นอกจากนั้นยังช่วยลดการปนเปื้อนและการเสื่อมคุณภาพของสินค้าจากอุณหภูมิที่สูงภายในอาคารได้อีกด้วย
พัดลมอุตสาหกรรม อุปกรณ์ที่ช่วยระบายอากาศเสีย นำเข้าอากาศดี
พัดลมอุตสาหกรรมจะมีขนาดใหญ่ มีกำลังแรงที่สูง มีความแข็งแรง และทนทานมากกว่าพัดลมตามบ้านทั่วไปเนื่องจากต้องถูกใช้งานในพื้นที่ที่มีขนาดใหญ่ พัดลมอุตสาหกรรมจึงต้องมีมอเตอร์ขนาดใหญ่เพื่อให้มีกำลังไฟที่สูง มีใบพัดที่มีหน้ากว้าง อุปกรณ์ผลิตจากวัสดุที่เน้นความแข็งแรงและมีคุณภาพเพราะมีการใช้งานตลอดเวลา นอกจากคุณสมบัติหลักแล้วความเงียบก็เป็นสิ่งที่พัดลมอุตสาหกรรมที่มีคุณภาพสูงควรมี เนื่องจากในบางอุตสาหกรรมหรือคลังสินค้า ความเงียบมีผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงานเพราะความเงียบสามารถทำให้พนักงานมีสมาธิกับงานและช่วยลดความผิดพลาดในการสื่อสารระหว่างปฏิบัติงานได้ นอกจากนั้นหากพัดลมอุตสาหกรรมไม่มีเสียงดังจากมอเตอร์ที่ทำงานจะช่วยให้พบความผิดปกติของเครื่องจักรหรือเครื่องมือต่าง ๆ จากเสียงที่แปลกไปจากเดิมได้ ทำให้สามารถเข้าไปตรวจสอบและแก้ไขได้ทันท่วงทีก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ที่เป็นอันตราย
ตามมาตรฐาน JIS ได้ใช้แรงดันลมเป็นตัวกำหนดชื่อเรียกเพื่อใช้เรียกพัดลมอุตสาหกรรมในการใช้งานได้ถูกต้อง ซึ่งหากมีแรงดันลมที่ต่ำกว่า 1,000 มิลลิเมตรน้ำ เรียกว่า พัดลม แต่ถ้ามีแรงดันลมตั้งแต่ 1,000 มิลลิเมตรน้ำ เรียกว่า โบลเวอร์ นอกจากนั้นพัดลมอุตสาหกรรมยังมีการแบ่งประเภทตามลักษณะการเคลื่อนที่ของอากาศซึ่งมีผลทำให้การใช้งานมีความแตกต่างกันออกไป
ประเภทของพัดลมอุตสาหกรรม
พัดลมอุตสาหกรรมที่แบ่งตามลักษณะการเคลื่อนที่ของอากาศมีด้วยกัน 2 ประเภท คือ
1. พัดลมอุตสาหกรรมที่อากาศเคลื่อนที่แบบหมุนเหวี่ยง (Centrifugal Flow Fans)
เหมาะกับงานที่มีความต้านทานลมสูง เนื่องจากทิศทางการไหลเข้าของอากาศจะขนานกับแกนใบพัด แต่ทิศทางการไหลออกของอากาศจะไหลออกในแนวตั้งฉากกับแกนของใบพัด ซึ่งเกิดจากใบพัดเล็ก ๆ หลายใบที่ประกอบเข้าด้วยกันคล้ายกงล้อที่หมุนอยู่ภายในตัวเรือนของพัดลม ซึ่งเมื่อเกิดการหมุนของใบพัดความดันอากาศจะมีความต้านทานที่สูงขึ้นภายในตัวเรือนของพัดลม สามารถเพิ่มค่าความต้านทานของความดันอากาศได้โดยเพิ่มความยาวของใบพัด พัดลมอุตสาหกรรมประเภทนี้ยังแยกย่อยออกมาเป็น 3 ลักษณะโดยแบ่งตามรูปแบบของใบพัด
- พัดลมอุตสาหกรรมแบบใบพัดรัศมีตรง (Straight blade หรือ Radial fans) ลักษณะของใบพัดจะตรงและเป็นแนวตั้งฉาก จำนวนใบพัดมี 5-20 ใบ มีเพลาขนาดใหญ่ ความเร็วรอบใบพัดชนิดนี้อย่างต่ำประมาณ 500 - 3,000 รอบ/นาที ปริมาตรของอากาศที่ถูกขับเคลื่อนจึงมีจำนวนน้อย แต่มีค่ากดดันอากาศสูง เหมาะกับงานระบายอากาศเสียออกไปภายนอกหรือมีฝุ่นจำนวนมาก และงานที่มีการขนถ่ายวัสดุ
- พัดลมอุตสาหกรรมแบบใบพัดโค้งไปข้างหน้า (Forward Curved Blade Fans) ใบพัดทั้งหมดจะมีลักษณะเอียงไปข้างหน้าจำนวนใบพัดประมาณ 20-60 ใบ มีความเร็วรอบใบพัดที่สูงกว่าชนิดแรก มีเสียงการทำงานที่เบา มีค่าความดันลมและอัตราการไหลของอากาศสูงที่สุด และเมื่อขณะเครื่องทำงานไม่ก่อให้เกิดการสั่นสะเทือน แต่พัดลมอุตสากรรมแบบใบพัดโค้งไปข้างหน้าไม่เหมาะสำหรับงานที่มีอัตราการไหลของอากาศที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาเพราะมีช่วงการทำงานที่ไม่เสถียรและมอเตอร์อาจทำงานเกินกำลังได้ แต่ก็ยังเป็นที่นิยมในการใช้งานเพราะมีราคาที่ย่อมเยา
- พัดลมอุตสาหกรรมแบบใบพัดโค้งไปด้านหลัง (Backward Curved Blade Fans) ใบพัดจะลักษณะเอียงไปข้างหลังทั้งหมด จำนวนของใบพัดประมาณ 10-50 ใบ มีความเร็วรอบใบพัดที่สูง และมีเสียงจากการทำงานเพียงเล็กน้อย ใบพัดชนิดนี้จะเกิดการสั่นสะเทือนภายในระบบขณะที่ใช้งานจึงควรติดตั้งบนโครงสร้างที่มีความแข็งแรงเพื่อความปลอดภัยและป้องกันการพังทลายของผนังอาคาร ใบพัดชนิดนี้เหมาะสำหรับใช้ระบายอากาศเพื่อทำให้ภายในอาคารมีระดับออกซิเจนที่เหมาะสม และพัดลมอุตสาหกรรมชนิดนี้มีราคาสูงกว่าพัดลมอุตสาหกรรมแบบใบพัดโค้งไปข้างหน้า
2. พัดลมอุตสาหกรรมแบบอากาศไหลตามแนวแกน (Axial Flow Fan)
เหมาะกับงานที่มีความต้านทานลมต่ำ เนื่องจากทิศทางการไหลของอากาศจะขนานกับแกนของใบพัดและตั้งฉากกับระนาบการหมุนของใบพัด โดยชุดของใบพัดติดตั้งบนแกนเพลาโดยใช้กำลังมอเตอร์ในการขับเคลื่อน ซึ่งอยู่ภายในของตัวเรือนใบพัดทำให้มอเตอร์สามารถระบายความร้อนออกไปพร้อมกับอากาศที่ไหลออกไปภายนอกได้ แต่ช่วงการทำงานของใบพัดชนิดนี้ไม่เสถียรและมีเสียงดังขณะทำงาน จึงเหมาะกับการระบายอากาศในอาคารที่ไม่ได้มีขนาดใหญ่มาก เนื่องด้วย พัดลมอุตสาหกรรมชนิดนี้ส่วนมากมีขนาดที่เล็กและราคาถูก โดยสามารถแยกย่อยออกเป็น 2 ลักษณะตามรูปแบบของการเคลื่อนที่ของลม
- พัดลมอุตสาหกรรมที่ลมหมุนเป็นเกลียว (Tube Axial Fans) จะให้ค่าความดันลมปานกลาง ทิศทางการไหลของอากาศจะไหลไปตามแนวแกนจากด้านหลังไปด้านหน้า ซึ่งเกิดจากชุดใบพัดที่หมุนอยู่ภายในท่อรูปทรงกระบอก ทำให้ลมถูกขับเคลื่อนผ่านชุดใบพัดโดยมีลักษณะหมุนเป็นเกลียว พัดลมอุตสาหกรรมชนิดนี้เสียงดังกว่าพัดลมอุตสาหกรรมชนิดอื่น มีขนาดเล็กและราคาถูกกว่า นิยมใช้ในการดูดระบายอากาศ หรือส่งลมตามท่อ
- พัดลมอุตสาหกรรมที่ลมไหลเป็นเส้นตรง (Vane Axial Fans) ทิศทางการไหลของอากาศจะไหลเป็นแนวเส้นตรงเกิดจากการควบคุมทิศทางของแผ่นครีบที่ติดตั้งไว้ โดยขับเคลื่อนด้วยตัวเรือนของพัดลม บริเวณท่อทางออกด้านหลังของชุดใบพัด ซึ่งทิศทางการหมุนดังกล่าวจะช่วยลดการสูญเสียพลังงานการไหลของอากาศทำให้มีประสิทธิภาพในการใช้งานมากขึ้น ส่งผลให้พัดลมอุตสาหกรรมชนิดนี้มีราคาที่สูงกว่าชนิดแรก
ปัจจัยในการเลือกพัดลมอุตสาหกรรมให้ถูกต้องกับลักษณะงาน
ด้วยพัดลมอุตสาหกรรมใช้การเคลื่อนที่ผ่านอากาศ มีทั้งขนาดและราคาที่แตกต่างกัน การเลือกใช้งานจึงต้องเลือกใช้พัดลมอุตสาหกรรมให้ถูกประเภทเพราะมีผลต่อประสิทธิภาพในการใช้งานโดยตรง ซึ่งปัจจัยดังต่อไปนี้มีจะมีส่วนช่วยให้สามารถเลือกใช้พัดลมอุตสาหกรรมได้ถูกต้องกับลักษณะการใช้งานได้มากยิ่งขึ้น
- ขนาดและความถี่ของพัดลมอุตสาหกรรม ขนาดและความถี่ของใบพัดมีผลต่อความแรงและความเร็วของกระแสลม จึงควรเลือกใช้ให้เหมาะสมกับลักษณะการใช้งานจะช่วยให้มีประสิทธิภาพในการนำเข้าและส่งออกของอากาศ
- ลักษณะของใบพัด พัดใบที่มีลักษณะที่แตกต่างกันมีผลต่อลักษณะการเคลื่อนที่ของอากาศ เช่น ใบพัดรัศมีตรง, ใบพัดโค้งไปข้างหน้า หรือใบพัดโค้งไปข้างหลัง จึงทำให้มีความเหมาะสมในการนำไปใช้งานที่แตกต่างกันออกไป
- ลักษณและขนาดของพื้นที่ในการติดตั้ง มีผลอย่างมากในการเลือกใช้พัดลมอุตสาหกรรม เพราะมีผลต่อการกระจายอากาศให้ครอบคลุมทั่วพื้นที่ รวมไปถึงรูปแบบการติดตั้งที่มีทั้งแบบติดตั้งบนผนัง บนฝ้าเพดาน หรือตั้งบนพื้น เช่น หากเป็นอาคารที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่และต้องการใช้พัดลมอุตสาหกรรมในการระบายอากาศก็ควรเลือกใช้พัดลมอุตสาหกรรมที่มีขนาดใหญ่ซึ่งมีส่งผลต่อจำนวนเครื่องที่ใช้ในพื้นที่ และควรติดตั้งบนผนังหรือบนฝ้าเพดานเพื่อให้เกิดการกระจายอากาศอย่างทั่วถึง
- งบประมาณในการซื้อ พัดลมอุตสาหกรรมแต่ละประเภท มีราคาที่แตกต่างกันทำให้ส่งผลต่อการเลือกซื้อดังนั้นก่อนการเลือกซื้อจึงต้องคำนวณงบประมาณและคำนึงถึงการใช้งานและประโยชน์ที่ได้รับเพื่อให้คุ้มค่ามากที่สุด
- อายุในการใช้งาน ส่วนใหญ่พัดลมอุตสากรรมจะมีการใช้งาน 24 ชั่วโมงโดยเฉพาะในโรงงานอุตสาหกรรม พัดลมอุตสาหกรรมจึงต้องผลิตจากวัสดุที่มีความแข็งแรงทนทานและมีอายุการใช้งานที่ยาวนานเพื่อรองรับการใช้งานที่ไม่สามารถหยุดได้เพราะจะมีผลต่อกระบวนการทำงานในส่วนต่างๆ
- มาตรฐานของพัดลมอุตสาหกรรม ควรเลือกใช้พัดลมอุตสาหกรรมที่มีมาตรฐานเพื่อประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการใช้งาน โดยควรมีมาตรฐานรับรองคุณภาพ เช่น มอก. เป็นต้น
ประโยชน์ของพัดลมอุตสาหกรรม
- ช่วยระบายอากาศ ภายในโรงงานอุตสาหกรรมมักมีความร้อนสะสมที่เกิดจากกระบวนการต่าง ๆ ภายในโรงงานอุตสาหกรรม พัดลมอุตสาหกรรมจึงเข้ามาช่วยระบายความร้อนสะสม ลดความเสี่ยงที่จะเกิดเพลิงไหม้หรือการระเบิดภายในโรงงานอุตสาหกรรมได้เป็นอย่างดี
- ช่วยลดมลพิษ ในโรงงานอุตสาหกรรมหรือคลังสินค้าอาจมีสิ่งปนเปื้อนภายในอากาศ เช่น ฝุ่น ละออง หรือสารเคมี การระบายอากาศจะช่วยทำให้มีการหมุนเวียนของอากาศดีและอากาศเสียทำให้มีอากาศบริสุทธิ์ภายในอาคารมากยิ่งขึ้น ซึ่งมีผลต่อสุขภาพของพนักงานและการเสื่อมสภาพของสินค้า
- ประหยัดพลังงานและค่าใช้จ่าย ในปัจจุบันอุตสาหกรรมของพัดลมอุตสาหกรรมมีการผลิตพัดลมอุตสาหกรรมที่ใช้พลังงานในการทำงานน้อยลง ช่วยให้ประหยัดพลังงานและประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น
พัดลมอุตสาหกรรมเป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะเป็นอุปกรณ์ที่มีระบบกลไกในการนำอากาศบริสุทธ์ภายนอกเข้ามาภายใน ช่วยรักษาอุณหภูมิและความชื้น ลดอันตรายจากการเกิดไฟไหม้หรือการระเบิด ขจัดสารปนเปื้อนของอากาศภายในโรงงานอุตสาหกรรมหรือคลังสินค้า เพื่อสร้างให้สภาพแวดล้อมเหมาะสมและปลอดภัยในการทำงาน นอกจากนั้นยังช่วยประหยัดต้นทุนสำหรับการทำความร้อนและความเย็นภายในพื้นที่ปฎิบัติงานได้อีกด้วย
Jenstore by Jenbunjerd จำหน่ายพัดลมอุตสาหกรรม, พัดลมตั้งพื้น, พัดลมขาตั้ง พัดลมฟาร์ม, พัดลมติดผนัง โบลเวอร์ ที่มีความแข็งแรง ทนทาน ได้รับมาตรฐาน มอก. 934-2558 ที่สามารถปรับความแรงและทิศทางของลมได้ตามต้องการ ใบพัดผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง ฐานผลิตจากเหล็กจึงทนทานต่อการใช้งาน ขับเคลื่อนด้วยพลังมอเตอร์ประสิทธิภาพสูง มาพร้อมความปลอดภัยด้วยระบบตัดไฟอัตโนมัติ คุ้มค่า คุ้มราคา พร้อมการรับประกันสินค้าและยินดีให้คำแนะนำโดยผู้เชี่ยวชาญ
สนใจพัดลมอุตสาหกรรม พัดลมตั้งพื้น, พัดลมขาตั้ง พัดลมฟาร์ม, พัดลมติดผนัง โบลเวอร์ ติดต่อเรา
Website : https://www.jenstore.com (Live Chat)
ฝ่ายขาย : 02-096-9999 (200 คู่สาย)
Email : cataloguesale@jenbunjerd.com
บริการลูกค้า : 02-096-9898 ext 3102-3103
Email : cs1@jenbunjerd.com
LINE Official Account: @jenstore
Facebook : เจนสโตร์ - JenStore by Jenbunjerd