ขยะอันตราย คืออะไร? จัดการยังไงให้เซฟสุขภาพ
ขยะอันตราย คืออะไร? จัดการยังไงให้เซฟสุขภาพขยะอันตราย แม้จะฟังดูไกลตัวแต่เป็นเรื่องใกล้ตัวมาก ๆ เพราะขยะเหล่านี้ปะปนอยู่ในชีวิตประจำวันของเรา เช่น ถ่านไฟฉาย สเปรย์ หรือแม้แต่ยาหมดอายุ หากขาดการจัดการขยะที่เหมาะสม ก็จะส่งผลกระทบกับสุขภาพและสิ่งแวดล้อมได้ ซึ่งการจัดการขยะอันตรายนั้นทำได้ไม่ยาก แล้วต้องจัดการอย่างไร? เรามีวิธีมาแนะนำ ขยะอันตราย คืออะไร?ขยะอันตราย คือ ขยะมีพิษ หรือขยะที่มีสารเคมีอันตรายชนิดต่าง ๆ เป็นส่วนประกอบ มีคุณสมบัติไวไฟ กัดกร่อน หรือเป็นพิษ ก่อให้เกิดอันตรายกับสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ประเภทขยะอันตรายขยะสารไวไฟ : ขยะอันตรายที่มีส่วนประกอบเป็นสารเคมีติดไฟง่าย เช่น ก๊าซหุงต้ม, น้ำมันเชื้อเพลิง หรือทินเนอร์ เป็นต้น ขยะมีสารพิษ : ขยะอันตรายที่มีส่วนประกอบเป็นสารเคมีเป็นอันตรายต่อร่างกายมนุษย์ ห้ามสูดดม สัมผัส หรือรับประทาน เช่น น้ำยาล้างห้องน้ำ, สารฆ่าแมลง, สารปรอทในหลอดไฟสารกัดกร่อน : ขยะอันตรายที่มีส่วนประกอบเป็นสารเคมีกัดกร่อนโลหะ ผิวหนัง หรือวัสดุอื่น เช่น น้ำกรดในแบตเตอรี่รถยนต์, น้ำยาล้างท่ออุดตันขยะติดเชื้อ : ขยะอันตรายที่มีส่วนมีเชื้อโรคที่สามารถแพร่เชื้อได้ปะปนอยู่ เช่น เข็มฉีดยาใช้แล้ว, ผ้าพันแผล, แผ่นสำลีเปื้อนเลือด ขยะอันตราย มีอะไรบ้าง? เมื่อทราบประเภทขยะอันตรายกันไปแล้ว มาดูตัวอย่างของขยะอันตรายที่สามารถพบเห็นได้ในชีวิตประจำวันกันบ้าง ถ่านไฟฉาย ขยะอันตรายที่พบเห็นได้บ่อยมาก ๆ ในบ้าน ก็คือถ่านไฟฉาย เช่น ถ่าน AA, AAA, แบตเตอรี่ลิเธียม ซึ่งเป็นสิ่งที่มีโลหะหนัก จำพวกปรอท สารตะกั่ว หรือสารแมงกานีส เป็นส่วนประกอบ หากเข้าสู่ร่างกายจะทำให้มีอาการปวดศีรษะ, อ่อนเพลีย, เป็นตะคริวที่แขนและขา หรือมีอาการสมองอักเสบได้ หลอดไฟแบบต่าง ๆ ขยะอันตรายที่มีในบ้าน เช่น หลอดฟลูออเรสเซนต์ หลอดนีออน โดยจะมีสารปรอทที่เป็นพิษเป็นส่วนประกอบ หากเข้าสู่ร่างกายจะทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง เหงือกบวม เหงือกอักเสบ ท้องร่วงอย่างรุนแรง และกล้ามเนื้อกระตุกบ่อย ๆ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ว่าจะเป็นสายชาร์จ โทรศัพท์เก่า เมาส์ หรือปลั๊ก ก็ล้วนเป็นขยะอันตรายที่มีวงจรไฟฟ้า โลหะหนัก หรือสารเคมีอันตราย เป็นส่วนประกอบอยู่ภายใน เช่น สารตะกั่ว ซึ่งเป็นสารที่ส่งผลโดยตรงกับระบบประสาทและความจำ หรือสารลิเธียม ที่มีฤทธิ์ทำให้ผิวไหม้ และแสบร้อนนั่นเอง แบตเตอรี่รถยนต์ อุปกรณ์สำคัญในรถยนต์ที่มีสารตะกั่วเป็นส่วนประกอบ จัดเป็นขยะอันตรายที่ควรคัดแยกให้เหมาะสม หากเข้าสู่ร่างกายจะทำให้ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ มีอาการชักกระตุก ไปจนถึงหมดสติได้ กระป๋องสเปรย์ ขยะอันตรายที่มีคุณสมบัติติดไฟง่าย และมีสารพิษประเภทสารตะกั่วเป็นส่วนประกอบ หากสูดดมเข้าไปมาก ๆ จะส่งผลให้มีอาการอ่อนเพลีย ปวดศีรษะ อ่อนเพลียไม่สบายตัว ร้ายแรงสุดคืออาจชักกระตุก หรือหมดสติได้ ยาฆ่าแมลง ยาฆ่าแมลงมักมี DDT, Carbamates, Pyrethroids เป็นส่วนประกอบ หากเข้าสู่ร่างกายจะทำให้ระบบประสาทส่วนกลางพัง อาจมีอาการชัก เกร็ง หรืออัมพาตได้ ทั้งยังไปทำลายตับ ไต รวมถึงระบบฮอร์โมน และหากสะสมในร่างกายมาก ๆ ก็อาจเสี่ยงต่อโรคมะเร็งได้น้ำยาลบคำผิดขยะอันตรายที่อยู่ใกล้เด็กมือมากที่สุด (พ่อแม่ควรระวัง) โดยจะมีสารเคมีประเภท Trichloroethane (TCE), Toluene และ Acetone เป็นส่วนประกอบ เมื่อเข้าสู่ร่างกาย สารจากขยะอันตรายตัวนี้จะไปทำลายเยื่อบุทางเดินหายใจ และระบบประสาท หมึกพิมพ์ หมึกถ่ายเอกสาร หมึกพิมพ์ หรือหมึกถ่ายเอกสาร มี Carbon black, Toner resin, Styrene, Benzene และโลหะหนัก เป็นส่วนประกอบ หากสูดดมบ่อย ๆ จะทำให้ระคายเคืองปอด ส่วนสาร Styrene และ Benzene นั้นมีฤทธิ์เป็นสารก่อมะเร็ง ยาหมดอายุ ยารักษาโรคเป็นผลิตภัณฑ์ที่อยู่ได้นานก็จริง แต่ก็มีวันหมดอายุด้วยเช่นกัน หากทานยาที่หมดอายุเข้าไป อาจทำให้เป็นโรคดื้อยา ยาบางตัวอาจเกิดสารพิษใหม่ได้ ทำให้มีอาการตับหรือไตวายเฉียบพลัน และยาบางชนิด เช่น Tetracycline เมื่อหมดอายุก็อาจกลายเป็นพิษอย่างรุนแรง ควรเช็กวันหมดอายุก่อนรับประทานทุกครั้ง น้ำมันเครื่องน้ำมันเครื่องรถ เป็นขยะอันตรายที่มักจะมีสารเคมี Hydrocarbons, สารโลหะหนัก และสารก่อมะเร็ง อย่าง Benzene เป็นส่วนประกอบ นอกจากจะส่งผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมได้แล้ว ยังส่งผลกับร่างกายมนุษย์ได้ด้วยเช่นกัน อาทิ มีอาการระคายเคืองผิวหนัง หรืออาการแสบจมูกหากสูดดมเข้าไป เป็นต้น วิธีจัดการขยะอันตรายเก็บให้มิดชิดก่อนทิ้งเก็บในภาชนะเดิมหรือภาชนะที่ไม่รั่วซึม เช่น การใส่ถุงดำ หรือห่อกระดาษซ้อนกันหลาย ๆ ชั้น โดยอย่าลืมเขียนข้อความว่า “ขยะเป็นพิษ” หรือ “ขยะอันตราย” เพื่อให้เจ้าหน้าที่มองเห็นได้ชัดเจน และจัดการได้อย่างเหมาะสม ป้องกันอันตรายกับเจ้าหน้าที่ และคนอื่น ๆ ที่ต้องรับผิดชอบต่อ แยกขยะอันตรายออกจากขยะประเภทอื่นแยกขยะด้วยถังขยะอันตราย ที่จะมีตัวถังสีแดง มีฝาสีแดง หรือมีตัวอักษรกำกับชัดเจนว่า “ถังขยะอันตราย” ระบุอยู่ด้านข้างของถัง โดยจะใช้ทิ้งขยะอันตราย ที่ส่งผลกับสุขภาพและสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะ เช่น ถ่านไฟฉาย หลอดไฟ หรือขวดบรรจุสารเคมี นอกจากนี้ การทิ้งขยะอันตรายไม่ควรทิ้งรวมกับขยะประเภทอื่นเด็ดขาด โดยปัจจุบัน ประเภทของถังขยะที่สามารถคัดแยกได้ก่อนทิ้ง จะมีอยู่ทั้งหมด 4 ประเภท เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ถังขยะ 4 สี ได้แก่ ถังขยะ 4 สี มีอะไรบ้าง?ถังขยะสีเขียว (ถังขยะเปียก) : สำหรับใส่ขยะย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ เช่น เศษอาหาร หรือเศษใบไม้ เป็นต้นถังขยะสีน้ำเงิน (ถังขยะแห้ง) : สำหรับใส่ขยะย่อยสลายยาก หรือขยะที่นำกลับมาผลิตใหม่ได้ไม่คุ้ม เช่น โฟม ถุงพลาสติก เป็นต้นถังขยะสีเหลือง (ถังขยะรีไซเคิล) : สำหรับใส่ขยะรีไซเคิลที่สามารถนำกลับมาผลิตใหม่เพื่อใช้ซ้ำได้อีกครั้ง เช่น แก้ว พลาสติก กระดาษ เป็นต้นถังขยะสีแดง (ถังขยะอันตราย / ถังขยะติดเชื้อ) : สำหรับใส่ขยะอันตรายหรือขยะติดเชื้อ ที่ส่งผลอันตรายกับสุขภาพของสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม เช่น ถ่านไฟฉาย สเปรย์ หลอดไฟ เป็นต้น ขยะอันตราย มีจุดรับที่ไหนบ้าง?เทศบาล หรือ อบต. (องค์การบริหารส่วนตัวบล) มีถังขยะอันตรายสำหรับทิ้งขยะอันตรายโดยเฉพาะห้างสรรพสินค้า เช่น Tesco Lotus, Big C, Central มีจุดรับแบตเตอรี่, หลอดไฟ, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เก่าโรงพยาบาล หรือองค์กรของรัฐ จะมีโครงการคืนแบตเตอรี่เก่า หรือยาหมดอายุ ที่สามารถจัดการขยะอันตรายเหล่านี้ได้ อยู่ด้านนอกหรือในอาคารหมู่บ้านต่าง ๆ มักจะมีถังขยะสีแดง หรือจุดสำหรับการทิ้งขยะอันตรายอยู่บริเวณหลังหมู่บ้านเช่นเดียวกัน สิ่งที่จะบ่งชี้ว่าผลิตภัณฑ์หรือภาชนะนั้น ๆ เป็นขยะอันตรายหรือไม่ ให้สังเกตคำเตือนบนภาชนะ เช่น ห้ามรับประทาน, ห้ามเผา, อันตราย และสังเกตที่ฉลากหรือสัญลักษณ์บนภาชนะบรรจุ อาทิ รูปหัวกะโหลก (มีสารพิษ) รูปไฟ (ไวไฟ) เป็นต้น โดยต้องจัดการอย่างเหมาะสมเพื่อป้องกันผลกระทบกับสุขภาพของมนุษย์และสิ่งแวดล้อม
2025-06-24