เจนบรรเจิดร่วมกับแบรนด์ JKN จัดโปรโมชั่นสุดพิเศษ ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน – 31 กรกฎาคม 2562 ให้คุณได้รับโชคถึง 3 ต่อ!! เมื่อซื้อสินค้าที่ร่วมรายการ ดังต่อไปนี้ 1. โต๊ะพับ HDPE ทรงเหลี่ยม Model :T-120B ลดเหลือ 1,890 บาท จากปกติ 2,450 บาท (ดูรายละเอียดและสั่งซื้อสินค้า ..คลิก!..) 2. โต๊ะพับ HDPE ทรงเหลี่ยม Model :T-150B ลดเหลือ 2,590 บาท จากปกติ 2,950 บาท (ดูรายละเอียดและสั่งซื้อสินค้า ..คลิก!..) 3. โต๊ะพับ HDPE ทรงเหลี่ยม Model :T-180B ลดเหลือ 2,890 บาท จากปกติ 3,350 บาท (ดูรายละเอียดและสั่งซื้อสินค้า ..คลิก!..) 4. โต๊ะพับ HDPE ทรงเหลี่ยม Model :ST-180EXTRA ลดเหลือ 2,590 บาท จากปกติ 2,950 บาท (ดูรายละเอียดและสั่งซื้อสินค้า ..คลิก!..) 5. โต๊ะพับ HDPE ทรงเหลี่ยม Model :T-180BF/Limited ลดเหลือ 3,290 บาท จากปกติ 4,050 บาท (ดูรายละเอียดและสั่งซื้อสินค้า ..คลิก!..) 6. โต๊ะพับ HDPE ทรงเหลี่ยม Model :T-150BF/Limited ลดเหลือ 3,590 บาท จากปกติ 3,700 บาท (ดูรายละเอียดและสั่งซื้อสินค้า ..คลิก!..) 7. โต๊ะพับ HDPE ทรงกลม Model :T-120R ลดเหลือ 4,290 บาท จากปกติ 4,890 บาท (ดูรายละเอียดและสั่งซื้อสินค้า ..คลิก!..) 8. โต๊ะพับ HDPE ทรงกลม Model :T-160R ลดเหลือ 5,290 บาท จากปกติ 5,890 บาท (ดูรายละเอียดและสั่งซื้อสินค้า ..คลิก!..) 9. ม้านั่งอเนกประสงค์ Model :C-180F ลดเหลือ 1,890 บาท จากปกติ 2,090 บาท (ดูรายละเอียดและสั่งซื้อสินค้า ..คลิก!..) 10. เก้าอี้พับ Model :C-100 ลดเหลือ 990 บาท จากปกติ 1,090 บาท (ดูรายละเอียดและสั่งซื้อสินค้า ..คลิก!..) 11. เก้าอี้พับ Model :C-200 ลดเหลือ 690 บาท จากปกติ 710 บาท (ดูรายละเอียดและสั่งซื้อสินค้า ..คลิก!..) ต่อที่ 1 *เมื่อซื้อสินค้าที่ร่วมรายการตามเงื่อนไข (รายการที่ 1 – 9) รับทันที!! แก้วเก็บความเย็นสุดหรู มูลค่า 399 บาท หมายเหตุ : เงื่อนไขโชคต่อที่ 1 รายการที่ 1 – 9 แถมแก้วเก็บความเย็นมูลค่า 399 บาท / ตัว / รุ่น รายการที่ 10 - 11 ไม่มีของแถม ต่อที่ 2 *เมื่อซื้อโต๊ะพับ HDPE ที่ร่วมรายการตามเงื่อนไข (รายการที่ 1 – 4) รับ Gift Voucher มูลค่า 200 บาท **เมื่อซื้อโต๊ะพับ HDPE ที่ร่วมรายการตามเงื่อนไข (รายการที่ 5 – 6) รับ เก้าอี้พับ รุ่น C-200 มูลค่า 740 บาท ***เมื่อซื้อโต๊ะพับ HDPE ที่ร่วมรายการตามเงื่อนไข (รายการที่ 7 – 8) รับ โต๊ะพับ รุ่น AJ-100 มูลค่า 1,200 บาท หมายเหตุ : เงื่อนไขโชคต่อที่ 2 รายการที่ 1 – 4 แถม Gift Voucher มูลค่า 200 บาท / ตัว / รุ่น รายการที่ 5 – 6 แถมเก้าอี้พับรุ่น C-200 มูลค่า 740 บาท (ราคาปกติ) /ตัว/รุ่น รายการที่ 7 – 8 แถมโต๊ะพับปรับระดับรุ่น AJ-100 มูลค่า 1200 บาท (ราคาปกติ) /ตัว/รุ่น รายการที่ 9 - 11 ไม่มีของแถม ต่อที่ 3 *เมื่อสั่งซื้อสินค้าที่ร่วมรายการตามเงื่อนไข รับทันที Gift Voucher มูลค่า 1,000 บาท เมื่อมียอดสั่งซื้อสินค้าครบทุก 10,000 บาท/1 ใบเสร็จ (ราคาก่อนรวม VAT 7%) หมายเหตุ : เงื่อนไขโชคต่อที่ 3 รายการที่ 1 – 11 แถม Gift Voucher มูลค่า 200 บาท จำนวน 5 ใบ = 1,000 บาท /1 ใบเสร็จ

กันชนเสาแร็ค (Rack Post Protector) จาก Hippo - ผลิตจากวัสดุ PP 100% แข็งแรง ทนทาน - ใช้สำหรับหุ้มมุมเสา ตามอาคารจอดรถทั่วไป - ป้องกันรถเบียดเสา ไม่เกิดความเสียหายทั้งรถและเสา หากท่านใดสนใจสั่งซื้อสินค้า หรือมีข้อสงสัยต้องการทราบรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติม สามารถติดต่อ Catalogue Sales โทร 02-096-9999 (200 คู่สาย) หรืออีเมล [email protected] ทุกวันจันทร์ - วันศุกร์ เวลา 08.30 - 17.30 น

ปัจจุบันในประเทศไทย มีงานก่อสร้างเพิ่มปริมาณสูงขึ้น ทำให้เกิดอุบัติเหตุในเขตงานก่อสร้างเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย โดยเฉพาะคนงานมีจำนวนไม่น้อยที่ต้องเสี่ยงอันตราย และการเกิดอุบัติเหตุจากงานก่อสร้าง ซึ่งอุบัติเหตุในแต่ละครั้งทำให้เกิดการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินอย่างมหาศาล ดังนั้นการป้องกันอุบัติเหตุและการลดอุบัติเหตุ จึงเป็นเรื่องที่ควรมีการปฏิบัติอย่างจริงจัง สาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ ความรุนแรงและความถี่ของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น มีสาเหตุหลักจากการนำเทคโนโลยี อุปกรณ์ เครื่องมือ และเครื่องจักร ที่ทันสมัยมาใช้งาน แต่กลับขาดความเอาใจใส่ด้านความปลอดภัยจากผู้รับเหมาและผู้เกี่ยวข้อง นอกจากนี้คนงานยังขาดความรู้ ความเข้าใจ และจิตสำนึกความปลอดภัยอย่างถูกต้องเหมาะสม องค์ประกอบของความปลอดภัยในงานก่อสร้าง งานก่อสร้าง เป็นงานที่มีกระบวนการและขั้นตอนในการดำเนินงานและการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ แบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ 1. ความปลอดภัยในสถานที่ สถานที่ก่อสร้าง หมายถึง บริเวณทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้าง รวมถึงบริเวณที่จัดเก็บวัสดุ โกดังเก็บเครื่องมือ เครื่องจักร และอื่นๆ โดยมีข้อกำหนดและแนวปฏิบัติเพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับคนงาน ดังนี้ - ทำรั้วหรือนำแผงมากั้น เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาในบริเวณดังกล่าว หากเขตก่อสร้างเป็นอาคารสูงและอยู่ใกล้แหล่งชุมชน ควรทำหลังคาและนำผ้าหรือตาข่ายมาคลุมบริเวณทางเดินที่ติดรั้วอีกชั้น เพื่อป้องกันเศษวัสดุหล่นใส่ผู้ที่อยู่บริเวณใกล้เคียง - แบ่งเขตพื้นที่ภายในบริเวณการก่อสร้างอย่างชัดเจน เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น - ควรติดป้ายเตือนที่มีขนาดเหมาะสมในบริเวณที่สังเกตเห็นได้ง่าย เพื่อให้ทราบว่ามีการก่อสร้าง 2. ความปลอดภัยในการใช้เครื่องมือเครื่องจักร เครื่องมือเครื่องจักรที่ใช้ในงานก่อสร้างมีจำนวนมาก ตั้งแต่ขนาดใหญ่จนถึงขนาดเล็ก สิ่งที่ผู้ปฏิบัติงานควรรู้ มีดังนี้ - ไม่ใช้อุปกรณ์ หรือเครื่องมือ เครื่องจักรผิดวัตถุประสงค์ - เครื่องมือ เครื่องจักรที่ใช้ไฟฟ้าหรือน้ำมัน ต้องมีฉนวนหุ้มและเดินสายไฟอย่างปลอดภัย หากต้องทำงานใกล้บริเวณที่มีไฟฟ้าแรงสูง ควรแจ้งให้หน่วยงานการไฟฟ้าทราบทุกครั้งเพื่อจัดการป้องกัน รวมถึงบริเวณที่มีการเก็บเชื้อเพลิง ห้ามจุดไฟ หรือสูบบุหรี่อย่างเด็ดขาด - ก่อนและหลังการใช้งานเครื่องมือ เครื่องจักร ต้องมีการตรวจสอบและซ่อมแซมทุกครั้ง 3. ความปลอดภัยส่วนบุคคล ผู้ปฏิบัติงาน ควรปฏิบัติตามกฎระเบียบให้ถูกต้อง เช่น - ควรแต่งกายให้รัดกุม ไม่ปล่อยชายเสื้อหรือแขนเสื้อหลุดลุ่ย รวมทั้งไม่ใส่รองเท้าที่ไม่เหมาะสมต่อการทำงาน - ควรสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยส่วนบุคคลให้เหมาะสม - ห้ามดื่มสุรา เครื่องดื่มมึนเมา หรือสารเสพติด ห้ามเล่นหรือหยอกล้อกันในระหว่างการปฏิบัติงานอย่างเด็ดขาด - จัดอบรมผู้ปฏิบัติงานให้ตระหนักถึงอันตราย วิธีการปฏิบัติอย่างปลอดภัย กฎระเบียบ ข้อบังคับและข้อปฏิบัติที่ควรทราบ และควรสร้างจิตสำนึกความปลอดภัยให้เกิดขึ้นด้วย - ตรวจสุขภาพคนงานประจำปี เพื่อทดสอบความพร้อมของร่างกาย สำหรับผู้ที่ต้องปฏิบัติงานภายใต้ความกดอากาศสูง ต้องให้แพทย์ทำการตรวจความแข็งแรงสมบูรณ์ก่อนเข้าทำงานทุกครั้ง - จัดให้มีหน่วยงานปฐมพยาบาล และหน่วยฉุกเฉินภายในหน่วยก่อสร้าง เพื่อเป็นการช่วยเหลือและระงับเหตุอันตรายต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ หากท่านใดสนใจสั่งซื้อสินค้า อุปกรณ์เพื่อความปลอดภัย และป้องกันอุบัติเหตุจากงานในเขตก่อสร้าง หรือมีข้อสงสัยต้องการทราบรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติม สามารถติดต่อ Catalogue Sales โทร 02-096-9999 (200 คู่สาย) หรืออีเมล [email protected] ทุกวันจันทร์ - วันศุกร์ เวลา 08.30 - 17.30 น.

มลภาวะ หมายถึง ภาวะของสภาพแวดล้อม ที่มีองค์ประกอบไม่เหมาะต่อการนำมาใช้ประโยชน์ แต่กลับเป็นพิษ หรือเป็นอันตรายต่อสุขภาพ หรือก่อให้เกิดความรำคาญแก่มนุษย์ ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วนั้น มลภาวะที่คนทำงานมักต้องเจอบ่อยๆ คงหนีไม่พ้น มลภาวะทางอากาศ มลภาวะทางอากาศ หรือภาวะมลพิษทางอากาศ (Air Pollution) หมายถึง ภาวะที่อากาศมีการเจือปนของสารหรือสิ่งปนเปื้อนในปริมาณที่มากพอจนทำให้อากาศเสื่อมคุณภาพเป็นอันตรายต่อมนุษย์ สัตว์ และพืช สิ่งปนเปื้อนอาจเป็นฝุ่นละออง ไอระเหยหรือก๊าซ รวมทั้งกลิ่น เขม่า ควัน ฯลฯ โดยแหล่งกำเนิดมลภาวะดังกล่าว อาจเกิดจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงของกิจกรรมต่างๆ การฟุ้งกระจายของฝุ่นละอองและอนุภาค การปล่อยสารพิษจากโรงงานอุตสาหกรรมผลิตหรือแปรรูปวัตถุดิบ การทำการเกษตร หรือการเผาไหม้ของเตาปฏิกรณ์ เป็นต้น ผลกระทบจากภาวะมลพิษทางอากาศที่เกิดขึ้น จึงเป็นอันตรายต่อสุขภาพของมนุษย์ โดยเฉพาะต่อระบบภายในร่างกาย เช่น ระบบหายใจ มะเร็งผิวหนัง ระบบประสาท และอาจสะสมในเนื้อเยื่อร่างกาย การป้องกันและดูแลรักษาสุขภาพ เมื่อต้องทำงานในภาวะมลพิษทางอากาศเบื้องต้นด้วยตนเองนั้น มีดังต่อไปนี้ 1. หลีกเลี่ยงการพบเจอฝุ่นควัน การเผาไหม้เชื้อเพลิง หลีกเลี่ยงการสูดดม หรืออยู่ใกล้แหล่งกำเนิดก๊าซพิษ เป็นระยะเวลานาน 2. ไม่สูบบุหรี่หรืออยู่ใกล้ผู้ที่กำลังสูบบุหรี่ 3. ใช้อุปกรณ์ป้องกันให้บ่อยขึ้น เช่น หน้ากากอนามัยชนิดมีตัวกรอง ซึ่งจะช่วยกรองสารหรืออนุภาคขนาดเล็กออกจากอากาศที่หายใจได้ในระดับหนึ่ง 4. อาบน้ำหรือทำความสะอาดร่างกายเมื่อต้องสัมผัสกับสิ่งสกปรก เพื่อเป็นการชำระล้างเชื้อโรคที่ติดมากับร่างกาย 5. ออกกำลังกายเป็นประจำ ทำให้ตัวเองสุขภาพแข็งแรงอยู่เสมอ ใส่ใจในการทานอาหาร เลือกสรรสิ่งที่มีประโยชน์ แหล่งที่สะอาด และปรุงสุกสดใหม่ 6. ตรวจสุขภาพเป็นประจำ โดยเฉพาะคนที่ทำงานใกล้แหล่งกำเนิดก๊าซ ฝุ่นควัน หรือรังสีอันตรายอยู่ตลอดเวลา 7. ผู้ป่วยโรคหัวใจหรือมีปัญหาเกี่ยวกับปอด ควรปรึกษาแพทย์และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด หากท่านใดสนใจสั่งซื้อสินค้า อุปกรณ์สำหรับงานบริการด้านสุขภาพ อุปกรณ์ปฐมพยาบาล หรืออุปกรณ์ป้องกันระบบทางเดินหายใจ หรือมีข้อสงสัยต้องการทราบรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติม สามารถติดต่อ Catalogue Sales โทร 02-096-9999 (200 คู่สาย) หรืออีเมล [email protected] ทุกวันจันทร์ - วันศุกร์ เวลา 08.30 - 17.30 น.

เจนบรรเจิดขอแนะนำ รถเข็นพื้นพลาสติกชั้นเดียว มือจับข้างเดียวพับได้ BP-210J (Plastic Platform Truck) แบบ Premium รถเข็นคุณภาพดี แข็งแรง และไม่เป็นสนิม - แผ่นพื้นพลาสติกเกรดเอขึ้นรูป สีสันสดใส มีลายกันลื่น จึงมีน้ำหนักเบา แข็งแรง และไม่เป็นสนิม - เหมาะสำหรับงานที่สัมผัสความชื้น และทนต่อสารเคมี กรด ด่าง - มือจับพับเก็บได้ เมื่อไม่ใช้งาน - มือจับผลิตจากสเตนเลส คุณภาพดี แข็งแรง ไม่เป็นสนิม - ล้อ PU คุณภาพสูงจากต่างประเทศ ประกอบด้วยล้อเป็น 2 ล้อ ล้อตาย 2 ล้อ จึงเข็นได้คล่อง แม้รับน้ำหนักเต็มพิกัด - รับน้ำหนักได้ถึง 250 กก. หากท่านใดสนใจสั่งซื้อสินค้า หรือมีข้อสงสัยต้องการทราบรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติม สามารถติดต่อ Catalogue Sales โทร 02-096-9999 (200 คู่สาย) หรืออีเมล [email protected] ทุกวันจันทร์ - วันศุกร์ เวลา 08.30 - 17.30 น

สำหรับการขนส่งสินค้า สิ่งแรกที่ควรนึกถึงคือ ความปลอดภัยในการขนส่ง เพราะแม้แต่สินค้าทั่วไปก็เสี่ยงต่อการเสียหาย และการโจรกรรมระหว่างการขนส่ง ทั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกันเหตุการณ์อันตรายและลดโอกาสที่สินค้าจะสูญหาย จึงได้รวบรวมข้อควรรู้และข้อแนะนำในการขนส่งสินค้าให้ปลอดภัยและราบรื่น เพื่อเป็นแนวทางในการจัดเตรียมและวางแผนการขนส่งสินค้าอย่างปลอดภัย เลือกผู้ใช้บริการที่มีความน่าเชื่อถือ ในการขนส่งสินค้า ผู้ให้บริการขนส่งสินค้ามีส่วนสำคัญในการทำหน้าที่ขนส่งให้ได้อย่างปลอดภัย ดังนั้น ผู้ส่งควรเลือกผู้ให้บริการขนส่งสินค้าที่มีความน่าเชื่อถือ มีประสบการณ์ และได้รับการรับรองด้านความปลอดภัย เมื่อเลือกผู้ให้บริการแล้ว ผู้ส่งต้องสามารถตรวจสอบสถานะของสินค้าได้ในทุกขั้นตอนและสามารถติดตามสถานะของสินค้าได้ตามเวลาจริงอีกด้วย เลือกบรรจุภัณฑ์ที่มีความแข็งแรงและทนทาน ควรเลือกบรรจุภัณฑ์ใหม่และมีความแข็งแรงทนทาน หากทำการขนส่งสินค้าหลายชิ้น ควรทำการรวบรวมสินค้าไว้ด้วยกัน เพื่อป้องกันสินค้าสูญหาย ควรทำการติดเทปหรือห่อบรรจุภัณฑ์ด้วยพลาสติกหรือผ้าใบ และติดด้วยเทปบนกล่องหรือพลาสติกที่ห่อหุ้ม เพื่อป้องกันบรรจุภัณฑ์เสียหายระหว่างเคลื่อนย้ายหรือขนถ่ายสินค้า หากท่านใดสนใจสั่งซื้อสินค้า อุปกรณ์สำหรับงานบรรจุหีบห่อ หรือมีข้อสงสัยต้องการทราบรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติม สามารถติดต่อ Catalogue Sales โทร 02-096-9999 (200 คู่สาย) หรืออีเมล [email protected] ทุกวันจันทร์ - วันศุกร์ เวลา 08.30 - 17.30 น.

“อัคคีภัย” หรือเพลิงไหม้เป็นภัยใกล้ตัวที่เกิดขึ้นได้ง่าย และลุกลามไปอย่างรวดเร็ว สาเหตุหลักมาจากความประมาทขาดความระมัดระวัง ที่สำคัญมีแนวโน้มความถี่และความรุนแรงเพิ่มขึ้น ทั้งในชุมชน อาคารสูง บ้านเรือนที่อยู่อาศัย สาเหตุที่พบบ่อยของเพลิงไหม้ในอาคารเพื่อป้องกันการเกิดเพลิงไหม้ ควรทำความเข้าใจกับสาเหตุที่มักเกิดขึ้นบ่อย ดังนี้ไฟฟ้าลัดวงจร: เป็นสาเหตุอันดับต้น ๆ ของเพลิงไหม้ โดยมักเกิดจากการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าเก่า เสื่อมสภาพ หรือเดินสายไฟไม่ถูกมาตรฐานปลั๊กพ่วงหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าเกินโหลด: การเสียบปลั๊กหลายชิ้นใช้งานพร้อมกันในชุดเดียว ทำให้เกิดความร้อนสะสมจนอาจลุกไหม้ความประมาทในการประกอบอาหาร: เช่น การทอดอาหารแล้วทิ้งไว้ หรือใช้เตาแก๊สโดยไม่ระวังการสูบบุหรี่ในอาคาร: การทิ้งก้นบุหรี่ลงถังขยะที่มีวัสดุติดไฟง่าย หรือในที่แห้งการจัดเก็บวัสดุไวไฟผิดวิธี: เช่น น้ำมัน สี สารเคมีต่างๆ ที่ควรเก็บในที่ปลอดภัยและมีการระบายอากาศ ผู้เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้ ส่วนใหญ่เกิดจากการสำลักควัน เนื่องจากไม่มีความรู้ในการอพยพหนีไฟอย่างถูกวิธี เพื่อความปลอดภัย เจนบรรเจิดขอแนะวิธีปฏิบัติตนและอพยพออกจากอาคารที่เกิดเพลิงไหม้อย่างปลอดภัย ดังนี้ สิ่งแรกที่เราต้องทำคือ ตั้งสติ ไม่ตื่นตระหนก และประเมินสถานการณ์ในเบื้องต้น หากเกิดเพลิงไหม้เล็กน้อย ให้ใช้ถังดับเพลิงควบคุมเพลิงในเบื้องต้น แต่หากเกิดเพลิงไหม้รุนแรง ให้ตะโกน หรือกดสัญญาณเตือนเพลิงไหม้เพื่อแจ้งให้ผู้อื่นทราบ แล้วอพยพออกจากพื้นที่เกิดเพลิงไหม้ และโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่มาควบคุมเพลิง การอพยพหนีไฟออกจากสถานที่เกิดเพลิงไหม้ ให้ใช้ผ้าชุบน้ำปิดจมูกและปาก หรือใช้ถุงพลาสติกใสขนาดใหญ่อัดอากาศบริสุทธิ์แล้วนำมาคลุมศีรษะ ป้องกันการสูดดมควันไฟเข้าสู่ร่างกาย หมอบคลานต่ำหรือย่อตัวอยู่ใกล้กับระดับพื้นให้มากที่สุด เนื่องจากอากาศบริสุทธิ์อยู่เหนือระดับพื้นไม่เกิน 1 ฟุต ให้อพยพไปตามเส้นทางหนีไฟที่ปลอดภัย โดยใช้บันไดหนีไฟออกจากอาคาร หลีกเลี่ยงการใช้บันไดภายในอาคาร เนื่องจากเป็นจุดรวมควันไฟ ห้ามใช้ลิฟต์โดยเด็ดขาด เพราะเมื่อเกิดเพลิงไหม้ไฟฟ้าจะดับ ทำให้ติดค้างภายในลิฟต์ขาดอากาศหายใจเสียชีวิตได้ และไม่เข้าไปอยู่ในบริเวณที่เป็นจุดอับของอาคาร หรือขึ้นชั้นบนหรือดาดฟ้าของอาคาร เพราะยากต่อการเข้าช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่ และเสี่ยงต่อการได้รับอันตรายเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย การตรวจสอบความพร้อมของระบบความปลอดภัยในอาคารการป้องกันเหตุเพลิงไหม้ที่ดีที่สุด คือการเตรียมพร้อมและตรวจสอบอุปกรณ์อยู่เสมอตรวจสอบถังดับเพลิง:ควรมีถังดับเพลิงในจุดสำคัญของอาคาร และตรวจสอบแรงดันถังทุก 3 เดือนตรวจดูสภาพหัวฉีดและอุปกรณ์เสริมว่าพร้อมใช้งานติดตั้งสัญญาณเตือนไฟไหม้ (Smoke Detector):ติดตั้งในทุกชั้นของอาคาร โดยเฉพาะบริเวณห้องครัวหรือจุดที่มีความเสี่ยงสูงตรวจสอบแบตเตอรี่และทดสอบเสียงสัญญาณทุกเดือนตรวจสอบเส้นทางหนีไฟและบันไดหนีไฟ:ให้เส้นทางปลอดสิ่งกีดขวาง พร้อมติดป้ายบอกทางออกอย่างชัดเจนควรมีแสงไฟฉุกเฉินสำรองหากไฟดับฝึกซ้อมอพยพหนีไฟอย่างสม่ำเสมอ:อย่างน้อยปีละ 1-2 ครั้ง เพื่อให้ทุกคนในอาคารทราบเส้นทางหนีไฟและวิธีปฏิบัติที่ถูกต้องติดตั้งอุปกรณ์เสริมอื่นๆ เช่น ผ้าห่มกันไฟ ชุดดับเพลิง ตู้เก็บสายฉีดน้ำดับเพลิงหากท่านใดกำลังสนใจหาซื้อ อุปกรณ์ป้องกันอุบัติเหตุ อุปกรณ์ดับเพลิง สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อได้ที่ Catalogue Sales โทร 02-096-9999 (200 คู่สาย) อีเมล [email protected] หรือเว็บไซต์ www.jenbunjerdstore.com และโชว์รูมเจนบรรเจิดทั้ง 2 สาขา- สาขาเมืองทองธานี โทร 02-096-9898 ต่อ 1181- สาขาวังน้อย โทร 02-096-9898 ต่อ 1902

ในโลกของการตลาด ภาพหรือคำโฆษณาที่ดึงดูดมากมายอาจเป็นสิ่งที่จำเป็น แต่ “คุณภาพ” ยังเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ที่บ่งบอกได้ว่าสินค้าตัวนี้ว่า “ดี” และ “ควรค่าแก่การใช้งาน” อย่างแท้จริง สัญลักษณ์ Thailand Trust Mark (T Mark) จึงเหมือนตราที่นิยามคำว่า “คุณภาพ” โดยวัดด้วยเกณฑ์มาตรฐานที่น่าเชื่อถือ ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ความเป็นเลิศในตัวสินค้านั้นได้ โดยในวันที่ 6 กันยายน 2562 บริษัท เจนบรรเจิด จำกัด ได้รับพิจารณาให้สามารถใช้ตราสัญลักษณ์ Thailand Trust Mark (T Mark) ของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ซึ่งถือเป็นการได้รับการต่ออายุเป็นครั้งที่ 2 นับตั้งแต่ได้รับอนุมัติครั้งแรกเมื่อปี 2555

ลูกล้อสำหรับอุตสาหกรรม มีให้เลือกใช้มากมายจนอาจดูเหมือนเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก แต่ถ้าคุณสามารถตอบคำถามง่าย ๆ 6 ข้อนี้ได้ คุณก็จะได้ล้ออุตสาหกรรมที่เหมาะสมและนำไปใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ.. โดยไม่สำคัญว่าคุณจะเอาลูกล้อที่รับน้ำหนักได้ 1 กิโลฯ หรือ 1 ตัน คำถาม 6 ข้อนี้ก็จะยังเป็นแบบเดิม หากคุณตอบมันได้ ยังไงล้อที่คุณซื้อมาจะไม่มีทางเสียเปล่าอย่างแน่นอน >> เลือกซื้อล้ออุตสาหกรรมคุณภาพ << คำถามแรก สินค้าที่คุณต้องการจะบรรทุกคืออะไร ? มีน้ำหนักเท่าไหร่ ? เพราะมันจะสำคัญมาก ๆ ในการบอกว่าล้อที่คุณต้องการนั้นจะต้องรับน้ำหนักสูงสุดได้เท่าไหร่เพื่อที่จะบรรทุกสินค้าได้โดยไม่พัง เรามีสูตรง่าย ๆ ในกรณีที่รถใช้แรงคนเข็น ให้คุณได้ลองนำไปใช้กันสำหรับการคำนวณว่าล้อแต่ละล้อของคุณควรรับน้ำหนักได้สูงสุดเท่าไหร่ เช่น น้ำหนักของอยู่ที่ 500 กก. และตัวรถคุณมีน้ำหนัก 100 กก. โดยใช้ 4 ล้อในการบรรทุก คุณควรเผื่อค่า Safety ไว้อีก 30% เมื่อแทนค่าแล้ว ลูกล้อแต่ละลูกควรรับน้ำหนักได้ลูกละ 260 กก. จึงจะใช้งานได้อย่างปลอดภัยที่สุด คำถามที่ 2 แป้นล้อแบบไหนที่คุณต้องการ แบบแป้นเป็น (Swivel) แป้นเกลียว (Thread Stem) แป้นล้อรู (Bolt hole) แป้นล้อตาย (Rigid) แป้นเดือย (Grip Ring Stem) หรือ แป้นใหญ่สำหรับเฉพาะทาง (Adapter Stem) คำถามที่ 3 คุณจะไปใช้เจ้าล้อตัวนี้ที่ไหน ? นี่ก็เป็นอีกหนึ่งคำถามที่สำคัญเพื่อให้แน่ใจว่า คุณจะไม่เผลอทิ้งรอยไว้ที่ยางล้อ.. จะใช้บนพื้นแห้ง หรือพื้นเปียก และพื้นประเภทไหน ย้ำอีกครั้งว่านี่เป็นเรื่องสำคัญมาก ๆ นอกเสียจากว่าคุณจะมีความสุขที่ได้มานั่งทำความสะอาดพื้นแทน คำถามที่ 4 คุณอยากได้แป้นล้อทำจากอะไร ? - คุณอยากได้แบบ “สแตนเลส” ซึ่งทนต่อการกัดกร่อนของสนิม และใช้ได้ดีบนพื้นเปียก หรือบริเวณนอกอาคาร - หรืออยากได้แบบ “ชุบซิงค์” ที่ใช้งานได้ดีในอาคาร และงานอเนกประสงค์ ในราคาที่ย่อมเยา คำถามที่ 5 คุณมีข้อจำกัดเกี่ยวกับเรื่องความสูงของตัวรถหรือเปล่า? ความสูงของสินค้า ตัวรถและบริเวณที่ใช้จัดเก็บ เป็นเรื่องที่มองข้ามไม่ได้ อย่าลืมว่าคุณต้องเลือกล้อที่ติดแล้ว ความสูงของload และรถสูงต้องพอดีกับพื้นที่จัดเก็บด้วย คำถามที่ 6 ล้อและแป้นล้อที่คุณอยากได้คือแบบ.... - หมุนได้อิสระ - มีเบรกห้าม - หรือเป็นล้อตาย กำหนดได้ทิศทางเดียว เมื่อคุณตอบคำถามทั้ง 6 ข้อนี้แล้ว คุณก็พร้อมที่จะเลือกลูกล้ออุตสาหกรรมที่เหมาะกับการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ >> ที่นี่ได้เลย! << ส่วนบทความหน้า.. เราจะมาเจาะลึกถึงตัวล้อและประเภทของยางเหล่านี้ ในการเลือกหามาใช้งานได้อย่างถูกต้อง - ล้อพลาสติก PP - ล้อยูรีเทน Pub- ล้อยูรีเทนไฮเทค PUo- ล้อยางสังเคราะห์ TPR- ล้อยางอีลาสติก ER- ล้อยางไนล่อน PA จะมีวิธีเลือกใช้อย่างไร..? เหมาะกับการใช้งานแบบไหน..? เราจะมาเลือกช้อปกัน ! หากท่านใดสนใจข้อมูลเพิ่มเติมหรือสั่งซื้อ ลูกล้อ ล้ออุตสาหกรรม ล้อรถเข็น ติอต่อฝ่ายขาย Catalogue Sales โทร 02-096-9999 (200 คู่สาย) วันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 08.00 – 18.00 น. หรืออีเมล [email protected] หรือเว็บไซต์ www.jenbunjerdstore.com และโชว์รูมเจนบรรเจิดทั้ง 2 สาขา - สาขาเมืองทองธานี โทร 02-096-9898 ต่อ 1181 - สาขาวังน้อย โทร 02-096-9898 ต่อ 1902

ล้อแบบไหน..ที่คุณกำลังมองหา ? “ล้ออุตสาหกรรม” อาจจะมีให้เลือกใช้มากมายหลายประเภท และหากคุณ ตอบ 6 ข้อสงสัย ก่อนเลือกใช้ล้ออุตสาหกรรม ได้แล้ว ก็ถึงเวลาที่เราจะมารู้จักล้อในแต่ละประเภท เพื่อเลือกให้เหมาะกับการใช้งานของเราจริง ๆ ล้อ PP ทำจากพลาสติก แข็งเปราะ ราคาย่อมเยา รับน้ำหนักได้ไม่มาก และมีเสียงดัง ทนสารเคมีได้ดี สามารถใช้ได้บนพื้นเปียกและพื้นแห้ง ล้อ TPR ผลิตจากยางสังเคราะห์ ไม่มีเสียงรบกวน นุ่ม เงียบ รับน้ำหนักได้น้อย เหมาะกับพื้นไม้ พื้นเรียบ ทนต่อกการกระแทกได้เป็นอย่างดี ล้อ ER ผลิตจากยางอีลาสติก ยืดหยุ่น รับน้ำหนักได้มาก ใช้แทนล้อโพลียูรีเทนได้ ไม่ทิ้งรอยไว้กับพื้น มีขอบยางป้องกันฝุ่นจากการเข้าไปอุดตันในลูกปืน ทนต่อการสึกหรอได้ปานกลาง ล้อ PUb ทำมาจากโพลียูรีเทน ตัวล้อมีสีดำ แข็งยืดหยุ่น ทนทาน รับน้ำหนักได้มาก ราคาไม่แพงเท่าเกรดสีส้ม (PUo) ทนสารเคมีได้ดีมาก ไม่มีเสียงรบกวนจากการเข็น ทนต่อการสึกหรอได้ดี ล้อ PUo แข็งยืดหยุ่น ทนทาน รับน้ำหนักได้มาก คล้ายคลึงกับล้อ PUb ที่ทำจากโพลียูรีเทน แต่ตัวนี้จะเป็นสีส้มซึ่งมีราคาแพงกว่า แต่คุณภาพดีมากกว่าด้วยเช่นกัน ล้อ PA ผลิตจากไนล่อน มีความแข็งเหนียว กันน้ำได้ดี รับน้ำหนักมาก แต่จะมีเสียงดังเวลาเข็น มีรุ่นทนร้อนให้เลือกใช้ และทนการสึกหรอได้เป็นอย่างดี หากท่านใดสนใจข้อมูลเพิ่มเติมหรือสั่งซื้อ ลูกล้อ ล้ออุตสาหกรรม ล้อรถเข็น ติอต่อฝ่ายขาย Catalogue Sales โทร 02-096-9999 (200 คู่สาย) วันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 08.00 – 18.00 น. หรืออีเมล [email protected] หรือเว็บไซต์ www.jenbunjerdstore.com และโชว์รูมเจนบรรเจิดทั้ง 2 สาขา - สาขาเมืองทองธานี โทร 02-096-9898 ต่อ 1181 - สาขาวังน้อย โทร 02-096-9898 ต่อ 1902

งานดี..เงินดี รับปีชวด เสริมความสำเร็จด้วยการจัดออฟฟิศตามหลักฮวงจุ้ย โต๊ะทำงานผู้บริหาร • ห่างจากประตูสำนักงานในลักษณะเฉียงกับประตูทางเข้า โดยอยู่มุมซ้ายหรือขวาของอาคาร เนื่องจากเป็นมุมของพลังและอำนาจ • ด้านหลังโต๊ะควรเป็นผนังทึบ ไม่ควรมีหน้าต่างจะขาดการเกื้อกูล และปกป้อง • โต๊ะดี...ก็ต้องมีเก้าอี้ที่นั่งแล้วช่วยให้ชีวิตดีตาม ควรมองหาเก้าอี้ที่นั่งนานแต่ไม่รู้สึกปวดหลัง ลดอาการออฟฟิศซินโดรม เช่น >>เก้าอี้หนังผู้บริหาร Modena<< คุณภาพดี ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับทุกปัญหาการใช้งาน คงทน แข็งแรง มีเทคโนโลยี Pocket Spring แก้เรื่องนั่งนานแล้วปวดหลัง นั่งสบาย ชีวิตก็สบาย โต๊ะทำงานพนักงาน • ควรจัดโต๊ะให้หันไปทางทิศเดียวกันอย่าหันชนกัน จะเกิดแรงขับให้กดดันในที่ทำงาน • อย่าจัดโต๊ะหันหน้าเข้าหากำแพง หรือเหลี่ยมมุม จะเกิดปัญหาเรื่องความซื่อสัตย์ในองค์กร • จัดโต๊ะใกล้ปากประตูมากเกินไป จะเป็นเหตุให้หยุดงานบ่อย ๆ • หากจำเป็นต้องจัดโต๊ะตรงกับประตูห้องน้ำ ควรหากระถางต้นไม้มาคั่นระหว่างกลาง • โต๊ะควรมีความคงทนแข็งแรง มีพื้นที่ให้ใช้สอย รวมถึงมีที่เก็บของเป็นสัดส่วนให้เป็นระเบียบเพื่ออำนวยความสะดวกแก่พนักงาน และลดระยะเวลาที่ต้องง่วนอยู่กับการนั่งหาของใช้ในแต่ละวัน >>ดูโต๊ะทำงานตรงใจ..ใช่เลย!<< การตกแต่งภายใน • ติดหลอดไฟให้มีแสงสว่างเพียงพอ และควรเป็นฝ้าเพดานแบบฉาบเรียบ ทำให้บรรยากาศไม่อึมครึมดูคึกคัก • มุมซ้ายในสุดของออฟฟิศให้ตั้งกระถางต้นไม้ 2 ต้น หรือแจกัน 1 คู่ เสริมความเป็นมงคล • สีห้องควรเป็นโทนอ่อน ดูเย็นสบายตา โดยแต่ละสีมีความหมายแฝง เช่น สีเขียว ธาตุไม้หมายถึงความสงบ เจริญเติบโต สีเหลือง น้ำตาล เทาอ่อน คือ ธาตุดิน หมายถึง ปัญญา ความอดทน สีฟ้าคราม คือ ธาตุน้ำ หมายถึงการปรับตัว การติดต่อสื่อสาร

7 เคล็ดลับ ช่วยคุณจัดออฟฟิศให้เป็นระเบียบ เชื่อเลยว่า..ออฟฟิศของใครหลายคนอาจจะเจอปัญหาเรื่องพื้นที่ใช้สอย ที่ต้องวางของนู้นนี่ไว้ หรือบางทีก็ของใช้พนักงาน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับโฮมออฟฟิศ หรือออฟฟิศขนาดเล็ก-กลาง ก็จะสิ่งต่าง ๆ เก็บไว้ที่ห้องนู้น ห้องนี้ จนค้นพบว่าวันหนึ่ง ออฟฟิศเราก็เต็มไปด้วยของมากมายระเกะระกะไปหมด แต่รู้กันหรือไม่..ว่าจริง ๆ แล้ว พวกของเกะกะที่วางกองไว้มีถึง 80% ที่เป็นของไม่จำเป็น ตามหลักกฎ 80/20 ของพาเรโตซึ่งว่าด้วยเรื่องสิ่งที่สำคัญจะมีเพียง 20% ส่วนอีก 80% จะเป็นสิ่งที่ไม่สำคัญ แสดงถึงความไม่สมดุลที่สามารถพบเห็นทั่วไปในชีวิตประจำวัน และนี่เป็น 7 ข้อสุดเจ๋ง ที่ช่วยขจัดปัญหาของเกะกะในออฟฟิศของคุณให้เป็นระเบียบได้มากขึ้น 1. ทิ้งของไม่ใช้ 1 ชิ้นต่อ 1 วัน ช่วยให้คุณกำจัดของเกะกะได้ถึง 365 ชิ้นต่อปีเลยทีเดียว เริ่มจากสิ่งของเล็ก ๆ เช่น ปากกาที่หมึกหมดแล้ว เอกสารเก่า หรือกล่องบรรจุภัณฑ์ที่ไม่จำเป็น วิธีนี้ไม่รู้สึกบีบคั้น และสามารถทำได้เป็นกิจวัตรประจำวันสนใจถังขยะดีไซน์เก๋ ๆ ตั้งไว้ในออฟฟิศ >>คลิกเลย<< 2. บริจาคของในออฟฟิศที่ไม่ค่อยได้ใช้แล้ว ได้บุญและช่วยเพิ่มพื้นที่ว่างได้อีกเยอะ ลองตั้ง “กล่องบริจาคกลาง” ในสำนักงาน เพื่อให้พนักงานมีส่วนร่วม และสร้างจิตสำนึกการแบ่งปัน นอกจากลดของรก ยังช่วยให้บรรยากาศในออฟฟิศอบอุ่นขึ้นด้วย 3. ทำ Checklist ของที่เกะกะมากที่สุด อาจจะเขียนตัวเช็คลิสต์บน ไวท์บอร์ด ให้ทุกคนได้เห็น จะได้ช่วยให้แต่ละคนรู้ว่าต้องเริ่มจัดระเบียบจากที่ตรงไหน สามารถทำเป็น “แบบสำรวจภายใน” โดยให้แต่ละแผนกช่วยกันระบุพื้นที่ที่เกะกะที่สุด และจัดลำดับความสำคัญในการจัดระเบียบ เหมือนแผนงานเล็ก ๆ ที่มีเป้าหมายชัดเจน 4. ลองทำแคมเปญ 12-12-12 ชาเล้นจ์ ให้แต่ละแผนกในบริษัทเข้าร่วม โดยระบุ 12 สิ่งที่ต้องทิ้ง 12 อย่างที่ต้องบริจาค และ 12 สิ่งที่เหมาะสมจะให้พนักงานในแผนกตัวเองเก็บไปใช้ที่บ้าน อาจตั้งรางวัลเล็ก ๆ เพื่อสร้างแรงจูงใจ เช่น แจกของขวัญสำหรับทีมที่ทำแคมเปญได้ครบก่อน หรือมีการถ่าย Before-After มาแชร์กันในกลุ่มบริษัท 5. ขอแรงพนักงานหน่อย กิจกรรมสันทนาการอยู่ที่ใจ แค่จัดออฟฟิศ หรือกำหนดวันคลีนนิ่งเดย์ก็นับเป็นการเอ็นจอยร่วมกันของชาวออฟฟิศได้ ! แถมได้ออกกำลังกายยกข้าวของไปในตัวด้วยนะ กิจกรรม Cleaning Day สามารถจัดแบบธีมสนุก ๆ เช่น “จัดออฟฟิศสไตล์มินิมอล” หรือ “ใครพื้นที่สะอาดสุด รับรางวัล!” จะช่วยให้พนักงานมีส่วนร่วมโดยไม่รู้สึกว่าเป็นงานที่น่าเบื่อ 6. ถ่ายรูป Before - After กับพวกพื้นที่เล็ก ๆ ลองเลือกมุมในออฟฟิศมาสักมุมถ่ายตอนก่อนจัด และหลังจัดระเบียบในพื้นที่นั้น แล้วมาดูสร้างเพื่อสร้างกำลังใจให้ฮึกเฮิม สามารถนำรูปภาพมาแปะเป็น “บอร์ดแห่งความสำเร็จ” หรือโพสต์ลงโซเชียลขององค์กรเพื่อสร้างภาพลักษณ์มืออาชีพ และเป็นไอเดียให้ทีมอื่น ๆ 7. ใช้กลยุทธ์ 4 กล่องช่วยได้ หา กล่องที่ดูดี สักหน่อยมาตั้งไว้สัก 4 กล่อง ติดป้ายว่า ทิ้ง / บริจาค / เก็บไว้ / ย้ายที่ วางไว้ในห้องไหนก็ได้ แล้วลองเอาของที่ต้องเก็บแยกตามกล่อง ห้ามข้ามของชิ้นไหนไป นี่อาจจะใช้เวลาเป็นวัน หรือสัปดาห์ แต่มันจะช่วยให้เรารู้ว่า จริง ๆ แล้วเราอยากจะทำอะไรกับของชิ้นนั้น ช่วงแรกของการจัด แนะนำให้ใช้เวลาในช่วงเช้า 10-15 นาทีต่อวัน เพื่อไม่ให้รู้สึกหนักเกินไป และเมื่อกล่อง “ทิ้ง” หรือ “บริจาค” เต็มแล้ว ค่อยรวบรวมไปดำเนินการทันที เพื่อไม่ให้กลับมารกอีก อ้างอิง :https://www.becomingminimalist.com/creative-ways-to-declutter/https://www.mindbodygreen.com/0-24901/12-creative-ways-to-declutter-your-home.html

7 เทคนิคจัดระเบียบมุมเครื่องมือช่างให้พร้อมใช้! ปกติแล้วมุมทำงานของช่างทุกประเภท มีสิ่งหนึ่งที่มักจะเหมือนกันก็คือ ความไม่เป็นระเบียบ ทำให้เวลาจะเกิดความวุ่นวายเวลาจะหยิบจับหรือเลือกสิ่งของไปใช้งาน วันนี้เรามี 7 เทคนิคในการจัดระเบียบมุมเครื่องมือช่างให้พร้อมใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ ได้ทันที 1. จัดวางเครื่องมือให้วางอยู่ในแนวเดียวกัน - ทำให้ง่ายต่อกวาดตามอง ว่าควรจะหยิบเครื่องมือตัวไหนไปใช้ 2. เลือกที่เก็บเครื่องมือให้ง่ายต่อการจัดการ - อาจจะแขวนไว้กับผนังอย่างเป็นหมวดหมู่ หรือเก็บไว้ในกล่องเครื่องมือ โดยแยกประเภท เช่น เครื่องมือช่างสำหรับงานโลหะ หรือเครื่องมือสำหรับทำงานไม้ 3. รักษาความสะอาด - อย่าลืมเก็บกวาดโต๊ะหรือที่นั่ง เพื่อให้มุมเครื่องมือช่างสะอาด สบายตาอยู่เสมอ 4. ทิ้งของที่ไม่ใช้แล้ว - โดยเฉพาะพวกเศษไม้ หรือตะปูต่าง ๆ 5. ทำตู้เก็บเครื่องมือมาใส่อุปกรณ์ - แล้วอย่าลืมหาแผงไม้ หรือที่กั้นมาแบ่งเป็นช่องตรงที่เก็บ เพื่อกันไม่ให้วัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ มาปะปนกัน แต่หากคุณต้องการตัวช่วยให้ง่ายขึ้นไปอีก เราขอแนะนำ ตู้เครื่องมือช่างตั้งพื้นพร้อมแผงแขวน ที่เหมาะสำหรับงานอเนกประสงค์ทั่วไป โครงสร้างเหล็กพ่นสี แข็งแรง ทนทาน พร้อมแผงแขวนเครื่องมือ เพิ่มความสะดวกในการทำงาน หน้าโต๊ะปูทับด้วยแผ่นยาง ชั้นวางปรับระดับได้ เพื่อช่วยเพิ่มความเป็นระเบียบให้มุมทำงานช่างให้ดียิ่งขึ้น 6. อย่าวางเครื่องมือที่เหมือนกันไว้ด้วยกัน - เช่น ถ้าคุณมีไขควง 3 ชิ้น วางชิ้นนึงไว้ที่มุมทำงาน ส่วนอีก 2 ชิ้น เก็บไว้ที่อื่น 7. แยกประเภทการใช้ - เครื่องมือไหนใช้สำหรับตัดก็จับมาอยู่ด้วยกัน ที่ใช้บ่อยให้วางไว้ใกล้มุมทำงานของคุณ ส่วนที่ใช้น้อยลงไปหน่อยก็วางห่างออกไป ด้วยเทคนิคง่ายๆ เท่านี้ มุมเครื่องมือช่างก็จะเป็นระเบียบเรียบร้อยและสวยงามพร้อมใช้งานทุกเมื่อ

Jumbo อุปกรณ์เคลื่อนย้ายเเบรนด์ไทย บันดาลใจระดับโลกเมื่อไม่นานมานี้ ชมรมยิมนาสติกท้องถิ่นแห่งหนึ่งในสเเกนดิเนเวียต้องการสร้างเเรงบันดาลใจให้ทุกคนรักการออกกำลังกาย และสามารถฝึกฝนได้กับสิ่งของรอบๆตัวจากความเชื่อมั่นในความเเข็งเเกร่งทนทาน คุณภาพระดับสากลของรถเข็นอเนกประสงค์ยี่ห้อจัมโบ้ ทีมนักกีฬาจึงได้นํารถเข็นมาดัดเเปลงเป็นเครื่องฝึกซ้อมท่าต่างๆ และทำการประชาสัมพันธ์ออกไปบริษัท เจนบรรเจิด ผู้ผลิตรถเข็นจัมโบ้ รู้สึกชื่นชมชมรมกีฬาเล็กๆแห่งนี้ที่มีฝันอันยิ่งใหญ่ ถือเป็นความภาคภูมิใจของเราที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญชิ้นนี้ และแสดงให้โลกได้เห็นถึงมาตราฐานที่เยี่ยมยอดของผลิตภัณท์สัญชาติไทย

แนวทางการแยกประเภทขยะในโรงพยาบาลอย่างถูกสุขลักษณะ ในโรงพยาบาลเป็นสถานที่รวมตัวของบุคลากรทางการแพทย์ ผู้ป่วยภายใน ผู้ป่วยภายนอก และบุคคลทั่วไป จึงทำให้มีปริมาณขยะต่อวันค่อนข้างสูง และการแยกประเภทขยะจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ นอกจากจะช่วยกำจัดขยะแต่ละประเภทให้ถูกวิธี อีกทั้งยังช่วยลดการแพร่เชื้อ เสริมสร้างความสะอาดและสุขอนามัยให้กับผู้ที่มายังโรงพยาบาล การเลือกถังขยะและถุงขยะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การแยกขยะเป็นไปตามมาตรการที่ทางโรงพยาบาลได้ระบุไว้ วิธีการแยกขยะประเภทต่าง ๆ ในโรงพยาบาล การแยกประเภทขยะในโรงพยาบาลจะแตกต่างจากการแยกขยะโดยทั่วไป โดยมีสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงอย่างขยะแต่ละชนิด สีของถุงขยะ สีและรูปแบบของถังขยะ และวิธีจัดการกับขยะตามแต่ละประเภท ซึ่งในบทความนี้ได้รวบรวมข้อมูลประเภทขยะจากหลากหลายโรงพยาบาลมารวมไว้ในที่นี้หมดแล้ว 1.ขยะทั่วไป ขยะทั่วไปเป็นขยะที่ไม่ติดเชื้อ ไม่เกี่ยวกับการตรวจวินิจฉัยโรค การดูแลรักษา หรือก็อะไรก็ตามที่เกี่ยวกับงานแพทย์ จะเป็นขยะตามโรงอาหาร สำนักงาน ห้องพักแพทย์มากกว่า โดยขยะเหล่านี้ได้แก่ เศษอาหาร กระดาษ พลาสติก วัสดุสำนักงาน เป็นต้น (หาภาพสินค้าเจนบรรเจิดถังขยะแบบฝาเรียบพร้อมเท้าเหยียบ , ถังขยะติดล้อแบบฝาเรียบ มาแปะสำหรับขยะทั่วไป) สำหรับขยะทั่วไปถังขยะควรเลือกใช้ถังขยะแบบฝาเรียบพร้อมเท้าเหยียบ , ถังขยะติดล้อแบบฝาเรียบ ที่ทำมาจากพลาสติก โดยให้เลือกถังขยะใหญ่เพื่อสามารถรองรับปริมาณขยะได้มาก ฝาปิดมิดชิดเพื่อป้องกันกลิ่น เชื้อโรค และสัตว์อื่น ๆ มาคุ้ยเขี่ย ทางที่ดีควรเลือกแบบมีล้อเพื่อให้ง่ายต่อการเคลื่อนย้าย ควรทำความสะอาดเป็นประจำทุกวันเพื่อความสุขอนามัย ถุงขยะควรเลือกใช้ถุงสีดำ ซึ่งเป็นถุงที่บุคคลทั่วไปเข้าใจกันเป็นอย่างดีว่าทิ้งขยะทั่วไปได้ โดยวิธีการจัดการกับถุงขยะเมื่อปริมาณขยะที่ใกล้จะเต็มแล้ว ให้นำเชือกฟางมามัดปากถุงไว้ และติดป้ายให้เรียบร้อยว่า “ส่งกำจัด” แต่ในกรณีที่ขยะทั่วไปเป็นเศษอาหาร ควรที่จะมีอีกถุงแยกไว้โดยเฉพาะ 2.ขยะรีไซเคิล ขยะรีไซเคิล คือขยะที่สามารถนำกลับไปใช้ใหม่ได้ ยกตัวอย่างเช่น กระดาษ โลหะ แก้ว พลาสติก ซึ่งต้องเป็นขยะที่ไม่ติดเชื้อ ไม่มีการปนเปื้อนของเศษอาหาร ในขณะที่ตัวโลหะหรือแก้วก็ต้องไม่ใช่ของมีคม หากเป็นของมีคมจะไม่ถูกจัดในหมวดนี้ (หาภาพสินค้าเจนบรรเจิดถังแบบมีช่องพร้อมบานสวิงและถังขยะแบบฝาเรียบพร้อมเท้าเหยียบ สำหรับขยะรีไซเคิล) สำหรับถังขยะรีไซเคิลที่ควรเลือกใช้ก็จะเป็นตะกร้าที่สามารถมองเห็นภายในได้ จะเหมาะกับการทิ้งขวดน้ำ หรือกระดาษ ในขณะที่ถังแบบมีช่องพร้อมบานสวิงและถังขยะแบบฝาเรียบพร้อมเท้าเหยียบ ก็สามารถใช้ได้เช่นกัน (หาภาพสินค้าเจนบรรเจิดถุงขยะสีใสมาแปะ) ในส่วนของถุงขยะที่ควรเลือกใช้ไม่มีการกำหนดที่ตายตัว ขึ้นอยู่กับมาตรการของแต่ละโรงพยาบาลเลยว่าจะเลือกใช้สีอะไร โดยส่วนใหญ่แล้วจะเลือกเป็นสีฟ้า สีเขียว หรือถุงสีใส วิธีการจัดการก็คือ ใช้เชือกฟางมัดให้เรียบร้อย หากเป็นของที่ใหญ่เกินกว่าจะใส่ถุง อย่างเช่น กล่องลังให้ใช้เชือกฟางมัดไว้เป็นกอง ๆ ก่อนส่งไปยังหน่วยงานต่อไป 3.ขยะอันตราย ขยะอันตราย คือ ขยะที่มีพิษเป็นอันตรายต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม โดยลักษณะของขยะประเภทนี้ ได้เแก่ ใบมีด เศษโลหะ กระป๋องสเปรย์ หลอดไฟ ถ่านไฟฉาย ยาที่หมดอายุ และสารเคมี เป็นต้น โดยจะต้องไม่ใช่ขยะติดเชื้อ สำหรับตัวถุงขยะตามแต่ละโรงพยาบาลก็ไม่ได้มีกำหนดชัดเจนเช่นเดียวกัน ขึ้นอยู่ตามแต่ละโรงพยาบาลเลยว่าจะใช้แบบไหน โดยส่วนใหญ่แล้วจะใช้สีเทา สีส้ม หรือสีเหลือง ในส่วนของถังขยะที่เลือกใช้ไม่จำต้องมีขนาดใหญ่ แต่ให้เลือกเป็นถังขยะเท้าเหยียบ (หาภาพสินค้าเจนบรรเจิดถุงขยะสีเทามาแปะ) ในส่วนของการจัดการขยะหากเป็นวัสดุของแข็งให้ใส่ถุงพลาสติกและมัดด้วยเชือกฟางให้เรียบร้อย ถ้าขยะเป็นสารปรอท ให้หากล่องพลาสติกหรือกล่องกระดาษมาใส่ก่อนแล้วค่อยนำไปใส่ถุง และยาที่หมดอายุให้ทำการรวมใส่ขวดจากนั้นค่อยนำมาทิ้งใส่ถุง 4.ขยะติดเชื้อ ขยะติดเชื้อเป็นขยะที่ต้องการใช้ความระมัดระวังในการเก็บสูง เนื่องจากขยะประเภทนี้สามารถแพร่กระจายเชื้อได้ เป็นขยะที่เกิดจากการวินิจฉัยโรค การรักษา หรืออะไรก็ตามที่เกี่ยวกับงานแพทย์ทั้งหมด สามารถแบ่งแยกขยะติดเชื้อออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้ 4.1ขยะติดเชื้อไม่มีคม สำหรับขยะติดเชื้อไม่มีคม ได้แก่ เลือด สารคัดหลั่ง ของเสียจากร่างกาย ชิ้นส่วนหรือเศษเนื้อมนุษย์ อวัยวะภายใน อุปกรณ์การแพทย์ต่าง ๆ เช่น สำลีทำแผล ผ้าก๊อซทำแผล กระบอกเจาะเลือด กระบอกฉีดยา รวมไปถึงผ้าอ้อมและผ้าอนามัย ถุงขยะติดเชื้อจะต้องเลือกใช้สีแดง ในขณะที่ตัวถังควรเลือกแบบถังขยะเท้าเหยียบ วิธีการจัดการเมื่อปริมาณขยะมี 2 ใน 3 ส่วนของตัวถุง ให้ทำการหาเชือกฟางมามัดปากถุงให้เรียบร้อย แล้วซ้อนกันเป็น 2 ชั้นเพื่อความปลอดภัย พร้อมติดป้ายชื่อของหน่วยงานและระบุว่าขยะติดเชื้อ 4.2ขยะติดเชื้อมีคม ในส่วนของขยะติดเชื้อมีคม ก็ใช้ความระมัดระวังในการเก็บที่สูงไม่แพ้กัน เพราะเนื่องจากเป็นขยะที่ทำให้เกิดบาดแผลได้ ดังนั้นวิธีการจัดการขยะประเภทนี้จะแตกต่างจากขยะอื่น ๆ ตัวอย่างเช่น เข็มฉีดยา เข็มเย็บแผล หลอดแก้ว แผ่นสไลด์ ใบมีด เป็นต้น ลักษณะของตัวเก็บขยะจะไม่ได้มาในรูปแบบของถัง แต่มาในลักษณะกล่องพลาสติกขนาดเล็กที่มีฝาปิดจากด้านบนมากกว่า หรืออาจเป็นกระป๋องสำหรับทิ้งของมีคมโดยเฉพาะ หรือเป็นกล่องปลดเข็ม โดยจะต้องใช้เป็นสีแดง เมื่อขยะมีปริมาณ 3 ใน 4 ส่วนของกล่อง จากนั้นทำการผนึกให้ดี แล้วนำใส่ถุงสีแดงพร้อมระบุแบบเดียวกันกับขยะติดเชื้อไม่มีคม หากขยะมีคมขนาดใหญ่เกิดกว่ากล่องที่บรรจุ ให้มาทิ้งในแกลลอนแทน โดยทำการปิดฝาให้แน่น แปะก๊อซเทปพันรอบ พร้อมระบุว่าเป็นขยะติดเชื้อและชื่อหน่วยงาน การแต่งกายของผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่แยกขยะในโรงพยาบาล นอกจากการแยกประเภทขยะและเลือกใช้ถังขยะสำหรับโรงพยาบาล แล้ว การแต่งกายของผู้ปฏิบัติหน้าที่แยกขยะก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน โดยจะต้องยึดและอิงการแต่งตัวนี้ เพื่อความปลอดภัยของตัวเองและความถูกสุขอนามันเป็นหลัก (ภาพพนักงานทำความสะอาดในโรงพยาบาล) 1.หมวกคลุมผม สวมเพื่อป้องกันการสัมผัส หากใครที่มีผมยาวจะต้องรวบมัดให้เรียบร้อยก่อนที่จะคลุมผม 2.แว่นตานิรภัย ในกรณีที่ไปเก็บขยะตามพื้นที่เสี่ยงหรือโรคที่สามารถแพร่ติดกันได้ง่ายอย่างเช่น Covid - 19 จะต้องสวมตลอดเวลาเพื่อป้องกันละอองเชื้อโรคที่มีโอกาสมาสู่ตัวเราได้ (*** สามารถแปะลิ้งค์บทความ Covid - 19 ได้ค่ะ) 3.หน้ากากอนามัย สามารถป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่ตัวเราและป้องกันเชื้อโรคจากตัวเราสู่คนอื่น เป็นอีกไอเท็มที่ไม่ควรขาดสำหรับใครก็ตามที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาล 4.ถุงมือยางขนาดยาวและหนา เพื่อป้องกันเชื้อโรคปนเปื้อนที่เข้ามารวมทั้งหากจัดเก็บของที่มีคมก็จะไม่สามารถบาดได้ 5.เสื้อคลุมตัวขนาดยาวที่ทำจากพลาสติก สำหรับป้องกันการปนเปื้อน การกระเด็นของขยะ และไม่ให้เชื้อโรคเกิดการแพร่ะระบาด 6.รองเท้าบู๊ททำจากยาง เป็นอีกไอเท็มที่สามารถป้องกันสิ่งต่าง ๆ ได้ดี ไม่ว่าจะปฏิบัติงานในพื้นที่ไหนจะต้องใส่รองเท้าบู๊ทเป็นประจำ เพื่อลดการสัมผัสเชื้อโรค และเป็นรองเท้าที่สามารถทำความสะอาดได้ง่าย ขั้นตอนการปฏิบัติงานของผู้แยกขยะเบื้องต้น การแยกขยะตามแต่ละประเภทเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยในการจัดเก็บขยะเท่านั้น แต่ในแง่ของหลักปฏิบัตินั้นมีมากมายหลายอย่าง ซึ่งตามแต่ละโรงพยาบาลอาดมีข้อระเบียบที่ไม่เหมือนกัน แต่โดยคร่าว ๆ แล้วจะมีดังนี้ 1.แยกประเภทขยะให้ถูกตามแต่ละประเภทได้กำหนดไว้ 2.ห้ามนำขยะติดเชื้อมาแยกภายหลัง ไม่เช่นนั้นอาจเกิดการแพร่กระจายของเชื้อโรคได้ 3.ขยะติดเชื้อที่เป็นของเหลวสามารถเททิ้งลงชักโครก หรืออ่างสำหรับเทสารคัดหลั่ง และต้องราดน้ำตามด้วยทุกครั้ง 4.หากมีขยะติดเชื้อตกหล่น จะต้องใช้ที่คีบ หรือถุงมือหนาในการหยิบจับขยะชิ้นนั้น และทำความสะอาดบริเวณนั้นให้สะอาด 5.ในส่วนของรถเข็นขนขยะไปยังที่จุดพัก ควรเลือกผิวเรียบ ผนังหนาทึบ ป้องกันการมองเห็นของสัตว์ต่าง ๆ อาจะเลือกใช้ ถังขยะติดล้อแบบฝาเรียบ ถังขยะใหญ่ติดล้อ หรือเลือกใช้รถเข็นสเตนเลสทึบ และควรใช้เส้นทางเดิมในการเคลื่อนย้ายขยะทุกครั้ง 6.เมื่อไปถึงจุดพักขยะจะต้องมีการแบ่งโซนที่จะส่งขยะไปกำจัดตามที่ต่าง ๆ ให้เรียบร้อย และจะต้องทำความสะอาดล้างพื้นที่เก็บขยะเป็นประจำ การแยกประเภทขยะคือสิ่งที่ทุกโรงพยาบาลต่างก็ให้ความสำคัญ และเป็นข้อกำหนดชัดเจนที่ทุกคนในโรงพยาบาลจะต้องปฏิบัติตาม เพื่อความสะอาดและสุขอนามัย โดยข้อมูลที่ได้รวบรวมมานั้นเป็นข้อมูลจากหลากหลายโรงพยาบาล ซึ่งในแต่ละที่ก็จะมีข้อกำหนดที่เฉพาะลงไปอีก แหล่งอ้างอิง : https://med.mahidol.ac.th/green/th/garbage/screen http://hpc6.anamai.moph.go.th/ewt_dl_link.php?nid=712&filename http://203.157.144.198/web/depboard/uploads/467_20180716_152744_1.pdf http://www.nopparat.go.th/data/py61/datasoi.pdf http://songhosp.com/ic/wordpress/wp-content/uploads/2015/11/%E0%B9%81%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B8%A5%E0%B8%9D%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9B%E0%B8%90%E0%B8%A1%E0%B8%A0%E0%B8%B9%E0%B8%A1%E0%B8%B4.pdf http://www.oic.go.th/FILEWEB/CABINFOCENTER17/DRAWER002/GENERAL/DATA0001/00001430.PDF http://203.157.177.7/dward/document_file/environment/common_form_upload_file/20140627114040_1378424671.pdf

ในโลกยุคปัจจุบัน นอกจากการพัฒนาสินค้าและบริการให้ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายแล้วนั้น การพัฒนากระบวนการหรือระบบการทำงานภายในองค์กรก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน การมีระบบการทำงานที่ดีช่วยลดขั้นตอนการทำงานที่ไม่จำเป็น และใช้เวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น หนึ่งในปัจจัยที่ช่วยให้เกิดระบบการทำงานที่ดีในองค์กร คือ การจัดเก็บยกย้าย แต่กลับเป็นปัจจัยที่ถูกมองข้ามเนื่องจากมองไม่เห็นความสำคัญ ซึ่งแท้จริงแล้ว การจัดเก็บยกย้ายมีความสำคัญในทุกๆ ธุรกิจ ทั้งในแง่ของการจัดเก็บอุปกรณ์ต่างๆ ให้เป็นระเบียบเพื่อง่ายต่อการใช้งาน หรือการจัดสินค้าเป็นระบบ ช่วยให้การเบิกจ่ายและขนย้ายสินค้าสะดวกรวดเร็ว ส่งผลให้ธุรกิจขับเคลื่อนไปได้ไกล่ยิ่งกว่าเดิม บทความนี้ เจนบรรเจิดจะมาขยายให้ทุกคนเห็นภาพว่า “จัด เก็บ ยก ย้าย” กุญแจ 4 ตัวนี้มีความสำคัญที่จะช่วยยกระดับให้ธุรกิจพิชิตเป้าหมายได้อย่างไร ไปดูกันเลยค่ะ “จัด” จัดบริหารพื้นที่เพื่อผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยม ในทุกธุรกิจจะมีสินค้าหรืออุปกรณ์จำนวนมาก การจัดระเบียบสินค้าและอุปกรณ์นั้นนับเป็นเรื่องสำคัญเพราะสามารถเบิก-จ่ายสินค้าได้อย่างเป็นระบบ ประหยัดเวลาในการหาสินค้าได้อย่างรวดเร็ว และลดขั้นตอนการทำงานได้ ทางเจนบรรเจิดขอแนะนำตัวช่วยที่ควรมี ชั้นวางของ และกล่องอะไหล่ที่เหมาะแต่ละธุรกิจดังต่อไปนี้ ชั้นวางเหล็ก ชั้นวางเหล็กเป็นชั้นวางของขนาดใหญ่ที่มีให้เลือกหลายแบบ แต่ชั้นวางเหล็กที่แนะนำคือแบบเปิดโล่งทั้ง 4 ด้าน เพราะสามารถมองเห็นสินค้าได้อย่างชัดเจน เอื้อมหยิบจัดสินค้าได้ตามที่ต้องการ รวมทั้งการเช็คสต็อคก็เป็นเรื่องง่าย เหมาะสามารถเห็นสินค้าได้ทั้งหมด ซึ่งชั้นวางนี้มีให้เลือกตั้งแต่ 4 - 6 ชั้น ในบางแบบสามารถปรับระยะความสูงตามขนาดสินค้าที่จัดวางได้ หรือหากอยากเพิ่มจำนวนชั้นก็สามารถทำได้เช่นกัน ชั้นวางเหล็กนี้เหมาะกับธุรกิจที่มีโกดังสินค้าขนาดเล็ก – ขนาดกลางไว้เก็บสินค้าต่าง ๆ ที่มีขนาดใหญ่และหนักได้ อย่างเช่น กล่องลังขนาดต่าง ๆ ได้แบบสบาย ๆ หรือจะนำไปใช้เป็นชั้นวางในร้านขายสินค้า เช่น ร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้าง ร้านค้าส่งที่มีการบรรจุหีบห่อเตรียมพร้อมส่งออก เป็นต้น ชั้นวางอะลูมิเนียม ชั้นวางอะลูมิเนียม เป็นชั้นวางของขนาดใหญ่ที่มีความแข็งแรงทนทาน ทนน้ำได้ดี ไม่เป็นสนิม โดยชั้นวางเปิดโล่งทั้ง 4 ด้าน เพื่อช่วยในการหาอุปกรณ์เครื่องใช้ได้ง่าย สามารถหยิบใช้งานได้ทันที โดยมีให้ชั้นให้เลือก 3 – 4 ชั้น สามารถทำความสะอาดได้ง่าย มีการระบายความชื้นได้เป็นอย่างดี ชั้นวางอะลูมิเนียม จะเหมาะกับธุรกิจที่เป็นสายงานอาหารที่สามารถนำอุปกรณ์เครื่องใช้สเตนเลสที่ผ่านการทำความสะอาดมาวางไว้บนชั้นวางนี้ได้ รวมทั้งอุปกรณ์ใหญ่อื่น ๆ หม้อ กระทะ กล่องพลาสติกก็สามารถจัดวางให้เป็นระเบียบที่ชั้นนี้ได้เช่นกัน สำหรับอีกธุรกิจที่ใช้ได้ก็คือสายงานแพทย์ เหมาะกับการล้างอุปกรณ์หรือเครื่องมือทางการแพทย์ที่มีขนาดใหญ่ มาวางเรียงกันเพื่อง่ายต่อการหยิบใช้งาน รวมทั้งธุรกิจอื่น ๆ ที่ต้องการชั้นวางอะลูมิเนียมที่ป้องกันน้ำ ป้องกันสนิมได้เป็นอย่างดี กล่องอะไหล่หลากสีสัน กล่องอะไหล่หลากสีสันนั้นจะช่วยจัดเรียงสินค้าที่มีขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลางที่ไม่มีบรรจุภัณฑ์แน่ชัดให้มาอยู่ในที่เดียวกัน โดยไม่ต้องกลัวว่าจะหล่นหาย อีกทั้งยังสามารถจัดเก็บอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ ได้อีกด้วย โดยกล่องอะไหล่สามารถแบ่งประเภท หมวดหมู่สินค้า หรือความสำคัญตามสีที่แตกต่างกันไป เพื่อง่ายต่อการค้นหาและจดจำมากขึ้นได้ กล่องอะไหล่หลากสีสามารถใช้เกือบทุกธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นสายงานผลิตที่สามารถเก็บเครื่องมืออุปกรณ์ อะไหล่ต่าง ๆ ได้ หรือจะเป็นสายค้าปลีกที่สามารถแบ่งของใส่กล่องอะไหล่เพื่อส่งขายเป็นเจ้า ๆ หรือสายค้าส่งเองก็สามารถบรรจุของใส่กล่องเพื่อให้ง่ายต่อการเบิก – จ่าย ได้เช่นกัน โดยวงการแพทย์เองก็มีการจัดเรียงยาประเภทยาใส่กล่องอะไหล่ เพื่อสะดวกต่อการเบิกยาไปจ่ายให้กับคนไข้ตามเคาน์เตอร์หรือตามห้องพักผู้ป่วยง่ายขึ้น “เก็บ” เก็บอย่างเป็นระบบ ครบจบในที่เดียว ในภาคส่วนของผู้ปฏิบัติงานหรือทำงานในออฟฟิศหลายธุรกิจ มักจะลืมคำนึงถึงการเก็บปกรณ์เครื่องใช้ให้เป็นระบบ จึงทำให้มีหลายต่อหลายครั้งที่เจ้าหน้าที่หาอุปกรณ์ไม่เจอ หรือเสียเวลาในการหาของนาน โดยทุกธุรกิจสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ประหยัดเวลาได้มากขึ้นด้วยที่จัดเก็บ โดยทางเราขอแนะนำที่จัดเก็บแบบต่าง ๆ ที่เหมาะแต่ละธุรกิจดังต่อไปนี้ ตู้เอกสาร ตู้เอกสาร เป็นตู้หนึ่งที่ในหลายออฟฟิศมี โดยตู้เอกสารนั้นสามารถจัดเก็บเอกสารต่าง ๆ รวมทั้งอุปกรณ์สำนักงานได้ แต่ถ้าอยากให้เป็นระเบียบมากขึ้น สามารถหาแฟ้มใส่เอกสาร หรือกล่องอะไหล่มาจัดระเบียบพื้นที่ในตู้เอกสาร โดยแยกเป็นหมวดหมู่และติดป้ายไว้ชัดเจน ทางที่ดีควรเลือกแบบมีประตูเพื่อป้องกันเอกสารสูญหายได้ ซึ่งตู้แบบนี้สามารถใช้ได้กับทุกธุรกิจ ตู้ช่าง ตู้ช่าง สำหรับตู้นี้จะช่วยในการจัดเก็บอุปกรณ์ได้อย่างเป็นระบบ สามารถดีไซน์การจัดวางได้ตามความถนัด เก็บของได้ทั้งชิ้นเล็ก ชิ้นใหญ่ ชิ้นไหนใช้บ่อยก็สามารถแขวนได้ โดยทางเจนบรรเจิดเองก็มีหลายแบบมากมาย และบางแบบเองก็ยังสามารถทำงานไปด้วยพร้อมกันได้ จึงทำให้ตู้ช่างนี้มีความน่าสนใจ เหมาะใช้กับธุรกิจสายงานผลิต หรือเหมาะกับร้านที่รับซ่อมแซมสินค้า หรือใช้ในแผนกช่างตามแต่ละบริษัทได้ โต๊ะแพ็คสินค้า โต๊ะแพ็คสินค้า จะเหมาะมากสำหรับธุรกิจ SME หรือธุรกิจค้าขายออนไลน์ที่ต้องมีการแพ็คสินค้าต่อวันที่ค่อนข้างมาก แต่ก็มีพื้นที่จำกัดในการแพ็คสินค้า โต๊ะแพ็คสินค้าสามารถช่วยจัดเก็บอุปกรณ์ให้เป็นระบบ ไม่ว่าจะที่เก็บกล่อง แผ่นกันกระแทก กระดาษห่อ เป็นต้น เมื่อทุกอย่างถูกจัดอยู่ในโซนเดียวก็ทำให้ง่ายต่อการใช้งาน และทำง่ายได้ไวขึ้น ส่งของได้ไวขึ้น “ยก” ยกสูง เพิ่มระดับประสิทธิภาพให้เหนือกว่า ในการยกของหนักโดยใช้กำลังคนจะเปลืองพลังงานสูงโดยใช่เหตุ อีกทั้งยังส่งผลต่อสุขภาพสำหรับคนที่ยกของหนักบ่อยๆ แต่การมีเครื่องช่วยยกสินค้าที่มีขนาดใหญ่และหนัก อีกทั้งยังขนได้จำนวนมาก แถมยังช่วยประหยัดเวลาได้เยอะ จะช่วยทำให้ทุกธุรกิจดำเนินงานได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น ซึ่งเจนบรรเจิดจะขอแนะนำ 2 รถยกและรถยกลากที่ใช้แรงคน รถยกสูงมือโยก รถยกสูงมือโยก จะเหมาะใช้งานกับการยกสินค้าขึ้นลงในโกดังที่มีขนาดเล็กไปจนถึงกลาง ซึ่งจะเหมาะกับธุรกิจที่มีพื้นที่โกดังไม่มาก หรือมีช่องทางเดินแคบก็สามารถใช้รถยกสูงแบบนี้ช่วยยกได้ และก็เหมาะกับธุรกิจที่ไม่ได้มีการขนย้ายสินค้าบ่อยมากนัก แต่ถ้ามีการยกย้ายสินค้าบ่อยก็จะแนะนำให้ใช้แบบไฟฟ้าไปเลยจะดีกว่า โดยจะเหมาะกับธุรกิจ SME ขนาดเล็ก – กลาง ที่ไม่ได้มีการกระจายสินค้าบ่อยหรือต้องทำเวลาสูง รถยกลากมาตรฐาน รถยกลากแบบนี้จะเหมาะมากสำหรับธุรกิจที่มีการเคลื่อนย้ายสินค้าจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่งบ่อย ๆ โดยจะต้องใช้แพลเลตไว้รองสินค้าที่เรายกย้าย ซึ่งรถยกลากแบบแรงคนจะเหมาะใช้กับการเคลื่อนย้ายในที่ใกล้ ๆ หรือหากจะใช้รถยกลากขนสินค้าไปด้วยกันกับรถบรรทุก เมื่อถึงที่หมายก็สามารถใช้รถยกลากคันเดิมเพื่อขนย้ายสินค้าไปให้ลูกค้าต่อก็ได้เช่นกัน เหมาะมากที่จะใช้ในโกดังหรืองานขนย้ายไปยังที่ต่างๆ แต่ถ้าใครสนใจรถยกไฟฟ้า และ รถยกลากไฟฟ้า ที่สามารถขับเคลื่อนธุรกิจโดยไม่ต้องออกแรง ใช้งานบ่อยเป็นประจำ สามารถคลิกไปตามลิ้งค์ได้เลย “ย้าย” เคลื่อนย้าย ช่วยผลักดันธุรกิจให้ก้าวไกล การขนย้ายสินค้านับว่าเป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยทำให้สินค้าไปถึงที่หมาย เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในหลายธุรกิจไม่ว่าจะขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ คือรถเข็นคุณภาพเพื่อช่วยเคลื่อนย้ายสินค้าได้อย่างรวดเร็ว รับน้ำหนักได้เยอะ สามารถทุ่นแรงได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญยังประหยัดเวลาในการขนย้ายอีกด้วย โดยทางเจนบรรเจิดขอแนะนำรถเข็นคุณภาพที่ได้มาตรฐานและได้รับความไว้วางใจเป็นวงกว้างตามรายละเอียดด้านล่างดังนี้ รถเข็น 4 ล้อ รถเข็น 4 ล้อ เป็นรถเข็นที่ในหลายธุรกิจต้องมี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขนย้ายขั้นสุด สามารถเคลื่อนย้ายสินค้าได้ทั้งเรียบ ทางลาด เคลื่อนย้ายสินค้าจุดนึงไปอีกจุดนึงด้วยความรวดเร็ว หรือขนไปในรถบรรทุก เพื่อใช้งานในที่หมายต่อได้ และขนย้ายข้าวของขนาดใหญ่ หรือกล่องลังได้จำนวนมาก โดยรถเข็น 4 ล้อที่ทางเจนบรรเจิดมีให้เลือกหลายแบบ โดยสามารถรับน้ำหนักได้ตั้งแต่ 220 – 550 กก. เลยทีเดียว รถเข็น 2 ล้อ รถเข็น 2 ล้อ เป็นรถเข็นอีกประเภทที่ใครหลายนิยมกันใช้ จะเหมาะมากกับการใช้งานบนรถบรรทุก เพื่อประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บ และยังเหมาะใช้ขนย้ายในโกดังสินค้าที่มีขนาดเล็กทางเดินแคบ ร้านค้าต่าง ๆ ที่มีช่องทางเดินระหว่างชั้นวางที่แคบ สามารถเคลื่อนย้ายสินค้าขนาดเล็ก – กลางที่มีสินค้าหนักได้อย่างคล่องตัว เรียกได้ว่าดีไม่แพ้กันกับรถเข็น 4 ล้อเลย โดยจะต้องเลือกให้ตรงสินค้าที่มีจะเหมาะที่สุด โดยรถเข็นที่ทางเจนบรรเจิดมีสามารถรับน้ำหนักได้ตั้งแต่ 100 – 200 กก. สำหรับ 4 ตัวช่วยยกระดับธุรกิจพิชิตเป้าหมายด้วยนวัตกรรม “จัดเก็บ ยก ย้าย” ที่ได้แนะนำไปเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ทางเรายังมีสินค้าให้เลือกอีกมากที่ทุกคนสามารถสอบถามเพื่อตามหาสินค้าที่ตอบโจทย์กับธุรกิจ หรืออยากได้สินค้าสั่งทำพิเศษเพื่อธุรกิจของคุณโดยเฉพาะก็สามารถติดต่อได้ที่ โทร. 02-960-9999 หรือแอด Line ID : @jenbunjerd

วิธีเลือกซื้อ “อุปกรณ์ป้องกันโควิด-19” เซฟตี้อย่างมั่นใจ สถานการณ์โควิด-19 ยังคงระบาดในประเทศไทยอยู่ แต่ก็ยังสบายใจได้ในระดับหนึ่งเพราะอุปกรณ์ป้องกันโควิด-19 ยังมีให้เลือกซื้อไม่ขาดมือ แต่อย่างไรก็ตามการเลือกซื้ออุปกรณ์ป้องกันโควิด-19 จะต้องมั่นใจได้ว่าสามารถป้องกันโควิด-19 ได้จริง เพราะในท้องตลาดบางครั้งอาจมีของที่ไม่ได้มาตรฐาน ของปลอม หรือของที่ผลิตออกมาหน้าตาคล้ายกัน แต่วัตถุประสงค์ต่างกัน ซึ่งวิธีเลือกซื้อมีดังนี้คือ วิธีเลือกซื้อหน้ากากป้องกันใบหน้า สำหรับการเลือกซื้อหน้ากากป้องกันใบหน้า โดยทั่วไปแล้วหน้ากากป้องกันโควิด-19 นั้น มีให้ใช้หลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับวัสดุ คุณสมบัติ และรูปแบบการใช้งาน ซึ่งการเลือกหน้ากากจะต้องขึ้นอยู่กับตัวผู้ใส่ว่าใกล้กลุ่มเสี่ยงมากน้อยเพียงใด โดยหลัก ๆ แล้วหน้ากากที่สามารถป้องกันได้มีดังนี้ หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ สำหรับหน้ากากอนามัยทางการแพทย์นี้จะเหมาะใช้กับบุคคลทั่วไป สามารถใช้ดำเนินชีวิตในแต่ละวันได้อย่างสะดวกสบาย เพราะเป็นหน้ากากที่มีความบาง ใส่สบาย หายใจแล้วไม่ติดขัด โดยวัสดุผลิตมาจากใยสังเคราะห์ ซึ่งสามารถป้องกันได้ทั้งแบคทีเรีย เชื้อโรค รวมทั้งละอองของเหลว อีกทั้งมีราคาประหยัดสามารถจับต้องได้ง่าย วิธีการเลือกหน้ากากอนามัย ก่อนอื่นเลยจะต้องดูว่ามีคำเหล่านี้ระบุหรือไม่ “หน้ากากอนามัยทางการแพทย์” , “Surgical mask” และ “Medical mask” เพราะถ้าหากไม่มีคำ 3 คำนี้จะบุ ถึงแม้จะมีหน้าตาเหมือนกันก็จะไม่สามารถป้องกันโควิด-19 ได้ หน้ากาก N95 สำหรับหน้ากาก N95 จัดว่าเป็นหน้ากากที่นิยมใช้สำหรับผู้ที่อยู่ใกล้กลุ่มเสี่ยง หรือทำงานเกี่ยวกับทางด้านการแพทย์ โดยหน้ากากลักษณะนี้จะมีความหนาเป็นพิเศษ และปิดทึบทั่วบริเวณโดยไม่มีช่องว่างให้อากาศระบาย ด้วยคุณสมบัติของหน้ากาก N95 จะสามารถกรองฝุ่นได้ถึง 0.3 ไมครอน อีกทั้งยังป้องกัน PM2.5 และเชื้อโรคได้มากถึง 95% วิธีการเลือกหน้ากาก N95 ก่อนอื่นเลยจะต้องดูที่รูปทรง ซึ่งในบางรุ่นจะมีปุ่มวาล์วระบายอากาศ ซึ่งหน้ากากในลักษณะแบบนั้นไม่ควรซื้อ เพราะเชื้อโรคสามารถเข้าสู่ร่างกายได้ ดังนั้นควรเลือกหน้ากากที่ปิดทึบ โดยสามารถสังเกตได้จากการดูว่ามีระบุ “N95” หรือ “NIOSH” หรือไม่ หรืออาจดูรหัสสินค้า “EN149-2001” หรืออาจเลือกหน้ากากที่มีรหัส FFP2 หรือ FFP3 นอกจากหน้ากากทั้ง 2 แบบที่กล่าวไปข้างต้น ยังมีหน้ากากอื่นๆ ที่สามารถป้องกันโควิด-19 ได้เช่นกัน ได้แก่ KN95 (China) , P2 (Australia/New zealand) , Korea 1st class (Korea) , KF94 (Korea) และ DS2 (Japan) ซึ่งหากใครที่เลือกซื้อหน้ากากแต่ละครั้งจะต้องเช็ครหัสหรือชื่อระบุเฉพาะให้ชัดเจน เพื่อสามารถมั่นใจได้ว่าป้องกันโควิด-19 ได้จริง วิธีเลือกซื้อเจลแอลกอฮอล์ทำความสะอาดมือ สำหรับวิธีการเลือกเจลแอลกอฮอล์นั้น จัดว่าเป็นสิ่งที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ เพราะจะต้องดูทั้งฉลากที่เป็นลายลักษณ์อักษร ดูทั้งตัวเนื้อเจล รวมทั้งวัสดุที่ใช้ในการบรรจุ หากดูไม่ละเอียดหรือละเลยอาจส่งผลให้เจลแอลกอฮอล์ที่เลือกมาอาจได้มาตรฐานที่ไม่เหมาะสม หรือผิดวัตถุประสงค์ในการใช้ได้ โดยหลักๆ แล้วจะมีวิธีการเลือกดังนี้คือ 1. ตรวจเช็คฉลากข้างขวดว่ามีรายละเอียดครบถ้วนหรือไม่ สำหรับรายละเอียดฉลากนับว่าเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะต้องมีระบุชื่อ , ส่วนประกอบที่ใช้ , วิธีการใช้ , ที่ตั้งของผู้ผลิต , วันเดือนปีที่ผลิต/หมดอายุ , เลขที่ใบจดแจ้ง รวมทั้งมีสัญลักษณ์ อย. จากนั้นให้นำตัวเลขจดแจ้งที่ระบุข้างขวด เสิร์จหาเลขได้ที่เว็บไซต์ ซึ่งหากพบว่าตรงกันก็ถือว่าใช้งานได้ 2. ตรวจเช็คคุณสมบัติที่ดีของเจลแอลกอฮอล์เป็นอย่างไร เริ่มแรกให้ตรวจก่อนเลยว่าบรรจุภัณฑ์นั้นปิดสนิทดีหรือไม่ ถ้าปิดสนิทดีถือว่าใช้ได้ โดยจะต้องอ่านฉลากข้างขวดด้วยว่ามีระบุแอลกอฮอล์ 70% ขึ้นไปหรือไม่ และแอลกอฮอล์ที่เลือกใช้จะต้องเป็นแบบเอทานอล ถ้าหากไม่มีระบุแปลว่าไม่สามารถป้องกันโควิด-19 ได้ จากนั้นให้ใช้เจลแอลกอฮอล์หยดลงบนฝามือ หากอยู่บนมือโดยไม่ไหลได้ถือว่าได้มาตรฐาน หากเหลวเกินไปจะไม่สามารถป้องกันโควิด-19 ได้ โดยเนื้อเจลนั้นจะต้องมีลักษณะสีที่เป็นเนื้อเดียวกัน ไม่มีการตกตะกอน ไม่เปลี่ยนสี ไม่มีกลิ่นฉุนจนแสบจมูก และที่สำคัญเมื่อสัมผัสเนื้อเจลจะต้องรู้สึกถึงความเย็นที่มีอยู่ เรื่องที่ทุกคนควรรู้ไว้โดยปกติแล้วเจลแอลกอฮอล์จะสามารถมีอายุได้มากถึง 3 ปี ตามที่ฉลากได้ระบุไว้ข้างขวด แต่อย่างไรก็ตามหากเปิดใช้มาเป็นเวลานานกว่า 3 เดือน เท่ากับว่าเจลแอลกอฮอล์นั้นหมดอายุแล้ว จะไม่สามารถป้องกันโควิด-19 ได้ วิธีเลือกซื้อชุด PPE ทางการแพทย์ สำหรับวิธีการเลือกชุด PPE ป้องกันเชื้อโรคนั้น ไม่เพียงแต่บุคลากรทางการแพทย์เท่านั้นที่จะใส่ได้ เพราะบุคลาการสำคัญอย่างพนักงานความสะอาดเอง หากพื้นที่บริเวณนั้นมีกลุ่มเสี่ยงหรือตรวจพบว่ามีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ก็ต้องใช้ชุด PPE เข้าไปทำความสะอาดพื้นที่บริเวณนั้นเช่นกัน โดยหลัก ๆ แล้วมีวิธีเลือกดังนี้ ทุกครั้งที่ซื้อชุด PPE จะต้องดูว่ามีรหัสเหล่านี้อยู่ในตัวชุดหรือไม่ ซึ่งถ้าหากไม่มีแต่หน้าตาเหมือนกันมาก ก็จะไม่สามารถป้องกันโควิด-19 ได้ โดยชุดที่ควรใช้จะต้องมีรหัส EN 14126 ระดับ 5 จัดว่าเป็นมาตรฐานสูงสุดควรเลือกใช้เป็นอันดับแรก แต่ถ้าหากไม่มีให้มองหารหัสชุด PPE เหล่านี้แทน ซึ่งได้แก่ GB 19082 (China) , EN 13982-1 (Type 5) สามารถป้องกันฝุ่นละอองและของแข็งในอากาศ , EN 13034 (Type 6) สามารถป้องกันละอองของเหลวและเคมีได้ เมื่อดูรหัสเบื้องต้นเป็นที่เรียบร้อย ทางการแพทย์ส่วนใหญ่จะต้องมีการทดสอบชุดอีกครั้งว่าสามารถใช้งานได้จริงหรือไม่ โดยเริ่มจากการนำเลือดสังเคราะห์ที่มีความใกล้เคียงกับมนุษย์มาหยดลงบนเนื้อวัสดุ หากมีการสะท้อนน้ำ และไม่ไหลซึมภายใน 1 นาทีถือว่าใช้งานได้ และนอกจากนี้จะสามารถทนแรงดันเลือดสังเคราะห์ 20 กิโลปาสคาลได้ สำหรับอุปกรณ์ป้องกันโควิด-19 ที่มีการใช้งานแบบเฉพาะมีวิธีการเลือกคร่าวๆ ตามที่ได้กล่าวไป แต่อย่างไรก็ตามการหลีกเลี่ยงไปพื้นที่เสี่ยง กักตัวอยู่ที่บ้าน เว้นระยะห่างทางสังคมก็จะช่วยป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ได้ดียิ่งขึ้น สุดท้ายหากอยากตามหาแหล่งซื้ออุปกรณ์ป้องกันโควิด-19 มั่นใจของแท้ตรงตามมาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นหน้ากากอนามัย หน้ากาก N95 เจลแอลกอฮอล์ หรือแม้แต่ชุด PPE การแพทย์ แวะเข้ามาเลือกซื้อได้ที่เว็บไซต์ https://www.jenbunjerdstore.com/

เมื่อเข้าสู่ฤดูร้อนทีไร ประเทศไทยก็จะกลายเป็นเมืองร้อนทุกที การหาวิธีคลายร้อนก็มีให้เห็นกันอยู่บ่อย ๆ ในบทความนี้จึงได้รวบรวม 6 ไอเท็มเด็ดที่จะช่วยคลายร้อน เปลี่ยนหน้าร้อนที่เหงื่อแตก ให้กลายเป็นหน้าร้อนที่ร่มรื่น พร้อมแนะนำเคล็ดไม่ลับที่ช่วยคลายร้อนได้อยู่หมัด โดยไอเท็มเด็ดก็มีดังนี้ 6 ไอเท็มคลายร้อนมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง1. แก้วน้ำและเหยือกน้ำแก้วน้ำและเหยือกน้ำ เป็นอุปกรณ์ที่ไม่เพียงแค่ใช้สำหรับดื่มน้ำ แต่ยังช่วยเสริมสร้างประสบการณ์การดื่มเครื่องดื่มให้สนุกและสดชื่นยิ่งขึ้น การเลือกแก้วน้ำและเหยือกน้ำที่มีคุณภาพและออกแบบให้มีความโปร่งใสสามารถมองเห็นเครื่องดื่มภายในได้ มีผลโดยตรงในการเพิ่มอรรถรสให้กับการดื่มเครื่องดื่มต่างๆ โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนที่การดื่มเครื่องดื่มเย็นๆ เป็นสิ่งที่ช่วยคลายร้อนได้ดี 2. ถังคูเล่อร์ในช่วงฤดูร้อนที่อากาศร้อนจัด การมี ถังคูเล่อร์ ที่สามารถเก็บน้ำแข็งและเครื่องดื่มเย็นๆ เป็นตัวช่วยที่ดีมากสำหรับการออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้ง ไม่ว่าจะเป็นการพักผ่อนที่ชายหาด การเล่นกีฬากลางแจ้ง ไปสวนสาธารณะ หรือแม้กระทั่งการเดินทางไปพักผ่อนที่ต่างจังหวัด ถังคูเล่อร์ช่วยให้คุณสามารถมีเครื่องดื่มเย็นๆ ที่สดชื่นได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม 3. โถจ่ายน้ำผลไม้สำหรับใครที่ชื่นชอบการจัดปาร์ตี้หรือกิจกรรมสังสรรค์ทั้งในร่มและกลางแจ้ง โถจ่ายน้ำผลไม้ ถือเป็นไอเท็มสำคัญที่เพิ่มความสะดวกสบายและความสนุกสนานให้กับงานของคุณ ไม่ว่าจะเป็นงานเลี้ยงในบ้าน ปาร์ตี้ในสวน หรือแม้กระทั่งงานแต่งงาน โถจ่ายน้ำผลไม้จะช่วยให้การบริการเครื่องดื่มเป็นไปอย่างมีระเบียบและสะดวกสบาย โดยแขกสามารถเลือกดื่มน้ำผลไม้หรือเครื่องดื่มเย็นๆ ที่เติมลงไปในโถได้ด้วยตัวเอง 4. ตู้น้ำดื่มร้อน - น้ำเย็นตู้น้ำดื่มร้อน - น้ำเย็น เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่สำคัญในสำนักงานหรือออฟฟิศยุคใหม่ เพราะช่วยให้การดื่มน้ำในแต่ละวันสะดวกและง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นน้ำเย็นสดชื่นในช่วงฤดูร้อน หรือเครื่องดื่มร้อนในช่วงเช้าหรือเย็น ตู้น้ำดื่มที่สามารถปรับอุณหภูมิได้ทั้งร้อนและเย็น จะตอบโจทย์ทั้งความสะดวกสบายและความต้องการของพนักงานในออฟฟิศได้อย่างครบถ้วน 5. พัดลมพัดลม เป็นอุปกรณ์ที่ทุกบ้านมักจะมีติดบ้านไว้ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งไอเท็มสำคัญที่สามารถช่วยคลายร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพในช่วงฤดูร้อน ไม่ว่าจะเป็นการใช้พัดลมสำหรับห้องนั่งเล่น ห้องนอน หรือพื้นที่ทำงาน พัดลมสามารถช่วยสร้างความเย็นสบายได้ในทันที โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเครื่องปรับอากาศตลอดเวลา นอกจากนี้ยังมีข้อดีในการช่วยประหยัดค่าไฟได้มากขึ้นหากใช้อย่างถูกวิธี 6. แอร์เคลื่อนที่ในช่วงฤดูร้อนที่อุณหภูมิสูงขึ้น การหาวิธีคลายร้อนภายในบ้านเป็นสิ่งที่หลายคนต้องการ และ แอร์เคลื่อนที่ ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สามารถตอบโจทย์ได้อย่างดี โดยเฉพาะในกรณีที่คุณต้องการความเย็นในห้องที่ไม่ต้องการติดตั้งแอร์แบบฝัง หรือถ้าคุณอยู่บ้านและไม่ได้ทำกิจกรรมที่ต้องการการเคลื่อนไหวมากนัก การใช้แอร์เคลื่อนที่ก็เป็นทางเลือกที่ดี เพราะมันสะดวกในการใช้งานและประหยัดพลังงานได้มากกว่า แนะนำวิธีคลายร้อนที่ใครก็สามารถทำได้ง่ายๆ 1. ดื่มน้ำเป็นประจำให้ได้ในปริมาณที่ร่างกายต้องการการดื่มน้ำให้เพียงพอเป็นวิธีง่ายๆ ที่ช่วยให้ร่างกายเย็นลง และยังช่วยบรรเทาความร้อนในร่างกายได้อย่างดี การดื่มน้ำไม่เพียงแต่ช่วยชดเชยน้ำที่ร่างกายสูญเสียไปจากเหงื่อเท่านั้น แต่ยังช่วยรักษาอุณหภูมิของร่างกายให้สมดุล การดื่มน้ำผลไม้ที่มีรสชาติเปรี้ยว เช่น น้ำมะนาวหรือน้ำส้ม พร้อมใส่น้ำแข็งก็จะเพิ่มความสดชื่นและช่วยให้ร่างกายเย็นลงอย่างมีประสิทธิภาพ 2. อาบน้ำเป็นประจำเพื่อระบายความร้อนการอาบน้ำไม่เพียงแค่ทำให้ร่างกายสะอาด แต่ยังช่วยระบายความร้อนในร่างกายได้ดี โดยปกติแล้วการอาบน้ำตอนเช้าและตอนเย็นจะช่วยให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น แต่ถ้าหากคุณทำกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมากระหว่างวัน เช่น ออกกำลังกายหรือทำงานในที่อากาศร้อน ควรหาเวลาสักช่วงหนึ่งเพื่ออาบน้ำใหม่จะช่วยให้ความร้อนในร่างกายลดลงได้ทันที แต่ควรระวังไม่อาบน้ำบ่อยเกินไป เพราะอาจทำให้ร่างกายปรับอุณหภูมิไม่ทัน 3. เปิดหน้าต่างระบายอากาศเพื่อให้บ้านถ่ายเทการเปิดหน้าต่างเพื่อให้ลมพัดเข้ามาในบ้านเป็นวิธีที่ง่ายในการระบายความร้อนจากภายในบ้าน การเปิดหน้าต่างในทิศทางตรงข้ามกัน เช่น ซ้ายกับขวาของบ้าน จะช่วยให้ลมสามารถถ่ายเทได้ดีขึ้น ทำให้บ้านเย็นลงและลดความอบอ้าวภายในบ้านได้อย่างรวดเร็ว ถ้าบ้านของคุณร้อนมาก แนะนำให้เปิดหน้าต่างเฉพาะในห้องที่ไม่ได้ใช้งานบ่อยเพื่อไม่ให้ความร้อนเข้าไปในห้องที่เราอยู่อาศัย 4. เปิดเครื่องทำความเย็นในจุดที่เราอยู่อาศัยการใช้เครื่องทำความเย็น เช่น พัดลมหรือแอร์เคลื่อนที่เป็นอีกวิธีที่ช่วยคลายร้อนได้ดี โดยการเปิดแอร์ในห้องที่เราอยู่จะช่วยทำให้ห้องเย็นลงอย่างรวดเร็ว แต่หากคุณต้องการควบคุมค่าไฟ การเปิดเครื่องทำความเย็นในช่วงเวลาที่จำเป็น หรือการใช้พัดลมร่วมกับแอร์ก็สามารถช่วยให้ประหยัดค่าไฟได้มากขึ้น โดยพัดลมจะช่วยให้ลมเย็นกระจายไปทั่วห้องและทำให้ความเย็นจากแอร์กระจายไปได้ไกลขึ้น วิธีการคลายร้อนที่ใคร ๆ ก็สามารถทำได้ง่าย ๆ ก็มีดังนี้ แน่นอนว่าอุปกรณ์ที่เลือกใช้ เราจะต้องเลือกสินค้าที่มีคุณภาพ และตอบโจทย์เรามากที่สุด เพื่อที่ว่าจะได้คลายร้อนได้ตลอดทั้งซัมเมอร์ ไม่ใช่จู่ ๆ เกิดเสียกลางทางขึ้นมา แล้วเราต้องไปเสียเงินซื้อใหม่ก็ใช่เรื่องอยู่

ในหลายธุรกิจไม่ว่าจะเป็นธุรกิจใหญ่หรือธุรกิจระดับ SME ที่มีสินค้าหลายรูปแบบอยู่ในสต็อกสินค้า มักจะพบปัญหาเรื่องการจัดเก็บสินค้าที่ไม่เป็นระบบ ทำให้เกิดการตกหล่น สินค้าค้างสต็อก หรือหาสินค้าไม่เจอได้อยู่บ่อยๆ เจนบรรเจิดเลยนำทริคง่ายๆ เพียง 4 ข้อเท่านั้น ในการจัดสรรพื้นที่คลัง และปรับปรุงการจัดเก็บคลังกันใหม่เพื่อความคล่องตัว และประสิทธิภาพที่ดีในการจัดเก็บสินค้ากันมากขึ้น 1. จัดหมวดหมู่จัดเก็บสินค้า และตั้งรหัสสินค้าแต่ละชนิด เป็นสิ่งแรกที่ควรให้ความสำคัญ หากในสต็อกสินค้าของคุณมีสินค้าหลากหลายหมวดหมู่ การจัดเก็บสินค้าเหล่านี้แยกกันจะทำให้เราหาสินค้าแต่ละตัวเจอได้ง่ายและไวขึ้น นอกจากนี้ควรมีระบบตั้งรหัสสินค้าแต่ละประเภทตามหมวดหมู่ และทำสัญลักษณ์กำกับไว้ให้ชัดเจนเพื่อให้ง่ายต่อการติดตามสถานะสินค้าในระบบตรวจนับ 2. ชั้นวางเหล็ก ตัวช่วยง่ายๆ จัดการพื้นที่คลังที่มีจำกัด หากสถานที่สำหรับจัดเก็บสินค้าของคุณมีพื้นที่จำกัด การใช้ชั้นวางเหล็กเข้าช่วยจัดเก็บสินค้า ที่เป็นการเพิ่มพื้นที่ และยังทำให้คลังสินค้าของคุณดูเป็นระเบียบเรียบร้อยขึ้นด้วย แต่สิ่งสำคัญคือจะต้องเลือกชั้นวางเหล็กที่แข็งแรง วัสดุดี เหมาะสมต่อการรับน้ำหนักของสินค้าต่างๆ ได้เป็นอย่างดีด้วย 3. ใช้กล่องพลาสติกช่วยจัดระเบียบ เพื่อแยกประเภทของสินค้า หากสินค้าของคุณเป็นไซส์ที่ไม่ใหญ่ และมีหลายชิ้น การจัดเก็บในกล่องพลาสติก หรือกล่องอะไหล่จะช่วยรวบความกระจัดกระจายของสินค้าได้ดี แต่การเลือกใช้กล่องพลาสติกหรือกล่องอะไหล่นั้นก็สำคัญเช่นกัน เพราะนอกจากนี้ช่วยจัดเก็บสินค้าให้ไม่แตกหักเสียหายแล้ว ยังทำให้เราหาของที่เฉพาะเจาะจงได้ง่ายขึ้นอีกด้วย กล่องอะไหล่สี : การใช้สีต่างๆ ไว้สำหรับแยกสินค้าเดียวกันที่มี ขนาด, สี, หรือลวดลายที่แตกต่างกัน เพื่อลดความสับสนในสินค้านั้นๆ ตู้ลิ้นชักพลาสติก หรือจะใช้เป็น กล่องลังพลาสติกแบบเปิดข้าง : ซึ่งการเลือกใช้อุปกรณ์จัดเก็บของทั้ง 2 แบบ ขึ้นอยู่กับขนาดของสินค้าด้วย หากสินค้ามีขนาดไม่ใหญ่มากอาจเลือกเก็บในตู้ลิ้นชักพลาสติก หรือสินค้าที่มีน้ำหนักและขนาดที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อยก็ควรเลือกเก็บในกล่องลังพลาสติกแทน เพื่อแยกและจัดเก็บสินค้าที่บอบบาง หรือแตกหักง่าย ทั้งนี้วัสดุแบบพลาสติกจะมีความแข็งแรง ทนทาน รับน้ำหนักได้ดี และสามารถวางซ้อนกันได้ เพื่อประหยัดพื้นที่โดยไม่ทำให้สินค้าข้างในชำรุดเสียหาย 4. ตรวจนับสินค้าทุกๆ สัปดาห์หรือทุกสิ้นเดือน เพื่อป้องกันการตกหล่น นอกจากการจัดเก็บสินค้าให้เป็นระเบียบแล้ว การสร้างระบบตรวจนับสินค้าขึ้นมาทุกๆ สัปดาห์หรือทุกสิ้นเดือน ก็จะเป็นการย้ำความถูกต้องของสต็อกสินค้าไม่ให้ตกหล่นอยู่เสมอ และยังทำให้ผู้ประกอบการรู้ด้วยว่าสินค้าตัวไหนขายดี ขายไม่ดี เพื่อจะได้นำข้อมูลตรงนี้ไปพัฒนาต่อในส่วนอื่นๆ ต่อไปได้อย่างเป็นระบบอีกด้วย สามารถเข้ามาเลือกซื้อสินค้าได้ที่เว็บไซต์ https://www.jenbunjerdstore.com/ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ 02-096-9898 (200 คู่สาย)

“ตอบโจทย์ทุกธุรกิจ ปรับเปลี่ยนเพื่อผลลัพธ์ที่ดีเยี่ยม” ในแต่ละธุรกิจล้วนมีความต้องการและปัญหาที่แตกต่างกัน การแก้ไขของแต่ละงานจึงต้องเจาะจงปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องและต้องการความเข้าใจในธุรกิจของลูกค้าอย่างแท้จริง การบริการของเจนบรรเจิดพร้อมตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้า วันนี้เราจะพาไปดู case study ตัวอย่างจริง #ศึกษาปัญหา: ลูกค้ารายนี้เป็นโรงงานอุตสาหกรรมแห่งหนึ่งในกาญจนบุรี ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ พนักงานประสบอุบัติเหตุเนื่องจากเดินเข้าไปในพื้นที่ที่เครื่องจักรกำลังทำงานอยู่ ลูกค้าจึงต้องการเพิ่มความปลอดภัยในการทำงานด้วยอุปกรณ์กั้นพื้นที่ แต่พื้นที่ดังกล่าวไม่ได้เป็นพื้นที่โล่ง ยังมีอุปกรณ์ต่างๆ อยู่อีกมากมาย #นำเสนอแนวทางเพื่อลูกค้า: หลังจากเจ้าหน้าที่จากเจนบรรเจิดลงไปสำรวจหน้างาน และได้ดีไซน์ให้ลูกค้าเห็นภาพแบบสามมิติ (3D) โดยสามารถหมุนดูวัตถุ 3 มิติ ได้ 360 องศา และซูมเข้า-ออกได้ จึงช่วยให้จัดวางสินค้าตาม layout ได้จริงตามสภาพพื้นที่ และช่วยให้เช็คมุมมองได้ทุกองศาอีกด้วย #ลงพื้นที่เพื่อติดตั้ง: หลังจากที่แบบร่าง 3D แล้ว เจนบรรเจิดก็เดินหน้าผลิตแผงกั้นด้วยวัสดุที่ได้มาตรฐาน และส่งมอบพร้อมติดตั้งที่หน้างานให้เป็นที่สมบูรณ์เรียบร้อย และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจจากเจนบรรเจิด ที่ช่วยยกระดับการทำงานให้ลูกค้า หากท่านใดสนใจสินค้าและบริการจากเจนบรรเจิด สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-096-9999 หรือ Line ID: @jenbunjerd