รถเข็นพื้นเหล็ก
รถเข็นพื้นเหล็ก
จำหน่าย รถเข็นเหล็ก รถเข็นพื้นเหล็ก
เจนบรรเจิด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถเข็นเหล็ก รถเข็นพื้นเหล็กชั้นเดียว ผลิตจากเหล็กคุณภาพสูง แข็งแรง ทนทาน ใช้งานง่าย รับน้ำหนักได้ดี โครงสร้างรถเข็นผลิตด้วยวัสดุคุณภาพสูง ลูกล้อเข็นลื่น ไม่ติดขัด มีขอบยางกันกระแทก รถเข็นของ 4 ล้อ รถเข็นคุณภาพสูง ราคาที่คุณสัมผัสได้ สามารถใช้งานได้หลากหลายพื้นที่ รับประกันคุณภาพ
Jenstore by Jenbunjerd จำหน่าย อุปกรณ์สำหรับเคลื่อนย้าย รถเข็นเหล็ก รถเข็นพื้นเหล็ก Steel Hand Truck รถเข็นชั้นเดียว รถเข็น 4 ล้อ รถเข็นพื้นเหล็กชั้นเดียว สินค้าคุณภาพสูง แข็งแรง ตัวรถพ่นด้วยสีทนความร้อน ทนทานต่อแรงขีดข่วนได้ดี แผ่นพื้นแข็งแรง ทนทาน ปูทับด้วยแผ่นพีวีซีกันลื่น คุณภาพดี รองรับน้ำหนักได้มากยิ่งขึ้นด้วยเทคโนโลยีปั๊มขึ้นรูปโลหะทันสมัย ขอบยางกันชนโดยรอบ ป้องกันการกระแทก ล้อยางคุณภาพสูง เข็นได้อย่างนุ่มนวล เสียงเงียบ ไม่ทิ้งรอยบนพื้น
รถเข็นเหล็กเหมาะกับการใช้งานแบบไหน และมีข้อดีอย่างไรบ้าง
สำหรับรถเข็นที่ทุกคนคุ้นเคยกันดีมักทำมาจากเหล็ก แม้จะยังมีวัสดุประเภทอื่น เช่น รถเข็นอะลูมิเนียม รถเข็นสเตนเลส รถเข็นพลาสติก ก็ตาม โดยส่วนมากรถเข็นเหล็กผลิตจากเหล็กกล้าเคลือบด้วยน้ำยากันสนิม ลักษณะที่เด่นชัดจะต้องมีล้อด้านล่าง และมือจับด้านบน ตรงกลางมีพื้นที่ใช้วางหรือใส่สิ่งของต่าง ๆ แล้วเข็นไปยังปลายทางด้วยแรงคน ตัวช่วยชั้นยอดในหลายสถานการณ์ไม่ว่าจะเป็นใช้กับคลังสินค้า โรงงานอุตสาหกรรม ร้านค้า ห้าง ซุปเปอร์มาร์เก็ต สำนักงาน ซึ่งข้อดีของรถเข็นเหล็กมีหลายด้านมากทีเดียว
ข้อดีของการใช้งานรถเข็นเหล็ก
1. รถเข็นเหล็กแข็งแรงทนทาน รับน้ำหนักได้เยอะมาก
ด้วยโครงสร้างของรถเข็นพื้นเหล็กที่ทุกคนรู้ดีอยู่แล้วว่าแข็งแกร่ง ทนทาน และยังรับน้ำหนักสิ่งของต่าง ๆ ได้เยอะ จึงช่วยให้การใช้งานเกิดความสะดวกมากขึ้นกว่าเดิม
2. ประหยัดแรงงาน ลดความเหนื่อยล้า
เมื่อการใช้รถเข็นเหล็กสามารถรับน้ำหนักได้เยอะในแต่ละครั้งจึงช่วยลดจำนวนรอบในการเข็นได้ดีมาก ประหยัดเวลาทำงานมากขึ้น ผู้ใช้จึงลดความเหนื่อยล้า มีเวลาทำงานด้านอื่นเพิ่มเติม อีกทั้งยังส่งผลดีต่อสุขภาพของตนเองด้วย
3. ราคาไม่แพงมาก ใช้งานคุ้มค่า
เรื่องของต้นทุนธุรกิจก็เป็นอีกสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด ซึ่งการเลือกใช้รถเข็นประเภทนี้ราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับวัสดุประเภทอื่น เมื่อบวกกับความแข็งแรง ใช้งานได้ยาวนาน และการลดความเหนื่อยล้าที่กล่าวไป จึงบอกได้ว่าใช้งานได้อย่างคุ้มค่าแน่นอน
รถเข็นเหล็กเหมาะกับงานแบบไหนบ้าง
สำหรับการใช้งานรถเข็นเหล็กตอบโจทย์กับหน่วยงานทุกประเภท ด้วยคุณสมบัติเด่นด้านความแข็งแรง รองรับน้ำหนักได้ดี ราคาไม่สูงมาก ใช้งานได้ยาวนาน คุ้มค่าต่อการลงทุน และยังลดภาระการทำงานของพนักงานอีกด้วย ซึ่งตัวอย่างที่ขอแนะนำเกี่ยวกับการใช้ มีดังนี้
- โกดังสินค้า คลังสินค้า ใช้รถเข็นเหล็กเพื่อการเคลื่อนย้ายสิ่งของเข้า-ออก สำหรับจัดส่งและจัดเก็ฐ
- โรงพยาบาล สถานพยาบาลต่าง ๆ ในการขนส่งยา เวชภัณฑ์ และสิ่งอื่นที่ต้องใช้ เช่น ของใช้ภายในห้องผู้ป่วย
- โรงแรม รีสอร์ต นิยมใช้งานรถเข็นประเภทนี้ในการเคลื่อนย้ายเครื่องนอนทั้งนำไปซักหรือซักแล้วจะนำไปเปลี่ยนให้กับลูกค้าหรือใช้ขนของทั่วไปในโรงแรม
- ร้านค้า ห้าง ซุปเปอร์มาร์เก็ต ใช้ได้ทั้งการขนย้ายสิ่งของในคลัง หรือมีรถเข็นช้อปปิ้งสำหรับให้ลูกค้าได้ใช้งาน
- โรงงานอุตสาหกรรม ใช้รถเข็นเหล็กในการขนย้ายวัตถุดิบต่าง ๆ เช่น น้ำมัน สารเคมี สำหรับเข้าสู่ขั้นตอนการผลิต
จะเห็นว่ารถเข็นเหล็กเป็นอุปกรณ์สำคัญกับแทบทุกสถานที่ แม้แต่ในออฟฟิศ สถานที่ราชการทั่วไป ก็มีการใช้งานบ่อย ๆ เช่น การขนย้ายเอกสาร กล่องลังจัดบูธ และอื่น ๆ ซึ่งใครที่สนใจใช้งานและกำลังมองหารถเข็นคุณภาพสูง Jenstore by Jenbunjerd ผู้จัดจำหน่ายรถเข็นเหล็กคุณภาพสูง นอกจากนี้ยังมี รถเข็น 4 ล้อ รถเข็นสแตนเลส รถเข็น 2 ล้อ และอื่น ๆ ให้เลือกสรรอีกเพียบ ราคาดี การันตีคุณภาพแน่นอน
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่ :
ฝ่ายขาย : 02-096-9999 (200 คู่สาย)
Email : [email protected]
บริการลูกค้า : 02-096-9898 ext 3102-3103
Email : [email protected]
LINE Official Account: @jenstore
Facebook : เจนสโตร์ - JenStore by Jenbunjerd
PRIVACY POLICY
นโยบายในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ
บริษัท เจนบรรเจิด จำกัด (ต่อไปนี้จะเรียกว่า “บริษัท”) ตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล จึงได้จัดทำนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PERSONAL DATA PROTECTION POLICY) ขึ้น โดยนโยบายนี้ได้อธิบายถึงวิธีการที่บริษัทปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การเก็บรวบรวม การจัดเก็บรักษา การใช้ การเปิดเผย รวมถึงสิทธิต่าง ๆ ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้น เพื่อให้เจ้าของข้อมูลได้รับทราบถึงนโยบายในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท บริษัทจึงประกาศนโยบายฯ ดังต่อไปนี้
- คำนิยาม
“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ “ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว” หมายถึง ข้อมูลที่เป็นเรื่องส่วนบุคคลโดยแท้ของบุคคล แต่มีความละเอียดอ่อนและอาจสุ่มเสี่ยงในการเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม เช่น เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใด ซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด “คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง คณะกรรมการที่ได้รับการแต่งตั้งขึ้น โดยมีหน้าที่และอำนาจกำกับดูแล ออกหลักเกณฑ์ มาตรการ หรือข้อปฏิบัติอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับ การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 - การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลโดยมี วัตถุประสงค์ ขอบเขต และใช้วิธีการที่ชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรม โดยในการเก็บรวบรวมนั้นจะทำเพียงเท่าที่จำเป็นแก่การดำเนินงานภายใต้วัตถุประสงค์ของบริษัทเท่านั้น ทั้งนี้ บริษัทจะดำเนินการให้เจ้าของข้อมูล รับรู้ ให้ความยินยอมทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือตามแบบวิธีการของบริษัท กรณีที่บริษัทจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวของเจ้าของข้อมูล บริษัทจะขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลโดยชัดแจ้งก่อนทำการเก็บรวบรวม เว้นแต่การเก็บข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวจะเข้าข้อยกเว้นตามที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หรือกฎหมายอื่นกำหนดไว้ - วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม หรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะทำการเก็บรวบรวม หรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล เพื่อประโยชน์ในการดำเนินงานของบริษัท เช่น การจัดซื้อจัดจ้าง การทำสัญญา การทำธุรกรรมทางการเงิน การดำเนินกิจกรรมบริษัท การติดต่อประสานงานต่าง ๆ หรือเพื่อปรับปรุงคุณภาพการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เช่น การจัดทำฐานข้อมูล วิเคราะห์และพัฒนากระบวนการดำเนินงานของบริษัท และเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดที่ไม่ต้องห้ามตามกฎหมาย และ/หรือเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อการดำเนินงานของบริษัท โดยบริษัทจะจัดเก็บและใช้ข้อมูลดังกล่าวตามระยะเวลาเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งเจ้าของข้อมูลหรือตามที่กฎหมายกำหนดไว้เท่านั้น บริษัทจะไม่กระทำการใด ๆ แตกต่างจากที่ระบุในวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมข้อมูล เว้นแต่ (1) ได้แจ้งวัตถุประสงค์ใหม่ให้แก่เจ้าของข้อมูลทราบ และได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล (2) เป็นการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติข้อมูลส่วนบุคคล หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง - การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลไปให้บุคคลใดโดยปราศจากความยินยอม และจะเปิดเผยตามวัตถุประสงค์ที่ได้มีการแจ้งไว้ อย่างไรก็ดี เพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงานของบริษัทและการให้บริการแก่เจ้าของข้อมูล บริษัทอาจมีความจำเป็นในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล ให้แก่บริษัทในเครือ หรือบุคคลอื่นทั้งในและต่างประเทศ เช่น ผู้ให้บริการต่าง ๆ ที่ต้องดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล โดยในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลดังกล่าว บริษัทจะดำเนินการให้บุคคลเหล่านั้นเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้เป็นความลับ และไม่นำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือจากขอบเขตที่บริษัทได้กำหนดไว้ นอกจากนี้ บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล ภายใต้หลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด เช่น การเปิดเผยข้อมูลต่อหน่วยงานราชการ หน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานกำกับดูแล รวมถึงในกรณีที่มีการร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย เช่น การร้องขอข้อมูลเพื่อการฟ้องร้องหรือดำเนินคดีตามกฎหมาย หรือการร้องขอจากหน่วยงานเอกชน หรือบุคคลภายนอกอื่น ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับกระบวนการทางกฎหมาย - แนวทางในการดำเนินการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะกำหนดมาตรการต่าง ๆ รวมถึงมาตรการด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่สอดคล้องกับกฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์ และแนวปฏิบัติด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่พนักงานของบริษัทและบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง รวมถึงสนับสนุนและส่งเสริมให้พนักงานมีความรู้และตระหนักถึงหน้าที่และความรับผิดชอบในการเก็บรวบรวม การจัดเก็บรักษา การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล โดยพนักงานของบริษัทต้องปฏิบัติตามนโยบายฯ และแนวปฏิบัติการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามที่บริษัทกำหนดไว้ เพื่อให้บริษัทสามารถปฏิบัติตามนโยบายและกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ - สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการดำเนินการ ดังต่อไปนี้
(6.1) สิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ให้ ความยินยอมไว้ ทั้งนี้ การเพิกถอนความยินยอมย่อมไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ให้ความยินยอมไว้แล้ว
(6.2) สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลและขอทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงการขอให้เปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่ได้ให้ความยินยอม
(6.3) สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง
(6.4) สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล
(6.5) สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
(6.6) สิทธิในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล
(6.7) สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
เจ้าของข้อมูลสามารถขอใช้สิทธิดังกล่าวข้างต้นได้ โดยยื่นคำร้องขอใช้สิทธิต่อบริษัทเป็นลายลักษณ์อักษรหรือผ่านทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ตามแบบฟอร์มที่บริษัทกำหนด ผ่าน “ช่องทางการติดต่อของบริษัท” ด้านล่าง โดยบริษัทจะพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณาตามคำร้องฯ ของเจ้าของข้อมูล ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำร้องฯ ดังกล่าว ทั้งนี้ บริษัทอาจปฏิเสธสิทธิของเจ้าของข้อมูลได้ในกรณีที่มีกฎหมายกำหนดไว้ - การทบทวนและเปลี่ยนแปลงนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทอาจทำการปรับปรุงหรือแก้ไขนโยบายนี้เป็นครั้งคราวเพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดตามกฎหมาย การเปลี่ยนแปลงการดำเนินงานของบริษัท รวมถึงข้อเสนอแนะและความคิดเห็นจากหน่วยงานต่าง ๆ โดยบริษัทจะประกาศแจ้งการเปลี่ยนแปลงให้ทราบอย่างชัดเจน ก่อนจะเริ่มดำเนินการเปลี่ยนแปลง - การใช้คุกกี้ (Cookies)
“คุกกี้” คือ ข้อมูลที่ (หน่วยงาน/เว็บไซต์) ส่งไปยังโปรแกรมค้นผ่านเว็บไซต์ (Web browser) ของผู้ใช้บริการ และเมื่อมีการติดตั้งข้อมูลดังกล่าวไว้ในระบบของท่านแล้ว หากมีการใช้ “คุกกี้” ก็จะทำให้เว็บไซต์บริษัทสามารถบันทึกหรือจดจำข้อมูลของผู้ใช้บริการไว้ จนกว่าผู้ใช้บริการจะออกจากโปรแกรมค้นผ่านเว็บไซต์ หรือจนกว่าผู้ใช้บริการจะทำการลบ “คุกกี้” นั้นเสีย หรือไม่อนุญาตให้ “คุกกี้” นั้นทำงานอีกต่อไป หากท่านเลือกใช้ “คุกกี้” แล้ว ท่านจะได้รับความสะดวกสบายในการท่องเว็บไซต์มากขึ้น เพราะ “คุกกี้” จะช่วยจดจำเว็บไซต์ที่ท่านแวะหรือเยี่ยมชม ทั้งนี้บริษัทจะนำข้อมูลที่ “คุกกี้” ได้บันทึกหรือเก็บรวบรวมไว้ไปใช้ในการวิเคราะห์เชิงสถิติ หรือในกิจกรรมอื่นของบริษัท เพื่อปรับปรุงคุณภาพการให้บริการของบริษัทต่อไป - ข้อกำหนดการใช้งาน
(9.1) การใช้งานและดำเนินการต่างๆ ผ่านเว็บไซต์นี้ถือว่าท่านยอมรับข้อตกลงการใช้งานแล้ว และให้เป็นไปตามข้อกำหนดของบริษัทฯ และตามกฏหมายของประเทศไทย
(9.2) ภาพ ข้อความ หรือเนื้อหาที่ปรากฏอยู่บนเว็บไซต์นี้ถือเป็นข้อมูลทั่วไปที่บริษัทฯได้จัดทำขึ้น ณ ช่วงเวลาหนึ่ง ซึ่งอาจไม่เป็นปัจจุบันหรือมีข้อผิดพลาดได้ บริษัทฯจึงขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลง แก้ไขภาพหรือข้อความ เนื้อหาที่ปรากฏอยู่บนเว็บไซต์นี้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า อย่างไรก็ตาม บริษัทฯจะดำเนินการตรวจสอบข้อมูลในเว็บไซต์อย่างสม่ำเสมอ และจะแก้ไขทันทีที่พบข้อผิดพลาด ทั้งนี้ สิทธิ์ในการพิจารณาดำเนินการใดๆ ก็ตามในทุกกรณีของบริษัทฯให้ถือเป็นที่สุด ผู้สมัครและ/หรือสมาชิกเข้าใจ และยอมรับตามข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้บริการเป็นอย่างดี และยืนยันจะไม่ฟ้องร้องดำเนินคดีใดๆ ทั้งทางแพ่งและอาญาต่อบริษัทฯ ท่านสามารถสอบถามข้อมูลปัจจุบันได้ที่บริษัทฯ
(9.3) การเชื่อมโยงจากเว็บไซต์นี้ไปยังเว็บไซต์อื่นที่มีชื่อปรากฏอยู่บนเว็บไซต์นี้ บริษัทฯมิได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับภาพหรือข้อความหรือเนื้อหา ตลอดจนระบบดำเนินการภายในเว็บไซต์นั้นๆ และไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด เสียหาย อันเกิดจากเว็บไซต์นั้นๆ
(9.4) บริษัทฯ ถือเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในเว็บไซต์นี้แต่เพียงผู้เดียว การนำภาพหรือข้อความในเว็บไซต์นี้ไปทำซ้ำ ดัดแปลง หรือเผยแพร่ต่อสาธารณชน โดยมิได้รับอนุญาตจากบริษัทฯ เป็นความผิด มีโทษทั้งจำและปรับตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ 2537 - ช่องทางการติดต่อบริษัท
ฝ่าย IT & Data Management
บริษัท เจนบรรเจิด จำกัด
359 ถนนบอนด์สตรีท (แจ้งวัฒนะ 33) ตำบลบางพูด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 11120
โทรศัพท์: 02-0969898 โทรสาร: 02-0152445
อีเมล: [email protected]
ยืนยันต้องการลบข้อมูล ?
มีสินค้าอยู่ภายในตะกร้า คุณต้องการลบสินค้าที่อยู่ในตะกร้าออกและเพิ่มสินค้าจากใบขอเสนอราคา ?